ส่งเสริมเด็กไทยดูดี 4.0 ลดโรคอ้วน
ที่มา : สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น.
ภาพประกอบจาก สสส.
สสส. ส่งเสริมเด็กไทยดูดี 4.0 ลดโรคอ้วน
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยรังสิต, สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร (สพป.กทม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าว “เด็กไทยดูดี 4.0 : ปิดเทอมนี้ อย่าปล่อยให้เด็กอ้วน ชวนพ่อแม่ปฏิวัติตู้เย็น” โครงการเพิ่มช่องทางแหล่งเรียนรู้สร้างเสริมสุขภาพด้วยอาหารและการออกกำลังกายเพื่อเด็กไทยดูดี 4.0 ณ โรงแรมเอเชีย
โดย นางชุติมา ศิริกุลชยานนท์ หัวหน้าโครงการเด็กไทยดูดีมีพลานามัย กล่าวว่า จากการสำรวจภาวะอ้วนในโรงเรียนสังกัด สพฐ. กทม. 5 โรงเรียน ในปี 2561 พบว่า มีเด็กเป็นโรคอ้วนถึง 16% ซึ่งทั้งประเทศอยู่ที่ 12% โดยพบว่าเด็กอ้วนเหล่านี้มีไขมันในเลือดสูงถึง 66% ความดันโลหิตสูง 30% และยังพบน้ำตาลในเลือดระดับเริ่มเสี่ยงต่อโรคเบาหวานและปื้นดำที่คอเป็นสัญญาณเตือนถึงโรคเบาหวานอีก 10% ซึ่งภาวะเหล่านี้ ล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดที่สะสมตั้งแต่วัยเด็ก ที่ผ่านมาแม้จะมีแนวทางป้องกันและได้ผลในระดับหนึ่งใน แต่มักกลับมาใหม่ในช่วงปิดเทอม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจึงต้องใช้การมีส่วนร่วมของผู้บริหาร ครู และผู้ปกครอง โครงการเด็กไทยดูดี ในปีนี้จึงสร้างครูผู้นำสุขภาพ 4.0 โดยมีโรงเรียนเอกชนทั้งในกทม. และส่วนภูมิภาค สมัครเข้าร่วมราว 40 โรงเรียน
ด้าน นายไพโรจน์ เสาน่วม ผู้จัดการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส. กล่าวว่า สสส. ยินดีสนับสนุนการดำเนินงานทั้งในด้านวิชาการ การรณรงค์สื่อสารสู่สังคม รวมทั้งเชื่อมประสานภาคีเครือข่ายให้เกิดความร่วมมือในการขับเคลื่อนงานสร้างเสริมสุขภาพให้กับเด็กวัยเรียน สำหรับผู้ปกครองมีข้อแนะนำในช่วงปิดเทอมโดยเตรียมอาหารครบ 5 หมู่ให้ลูกอิ่มครบ 3 มื้อ โดยเฉพาะมื้อเช้าซึ่งเป็นมื้อสำคัญ เมื่อลูกอิ่มจะลดพฤติกรรมกินจุบจิบลงได้ อาหารว่างที่ดี ได้แก่ ผลไม้ ธัญพืช ถั่วต่าง ๆ ให้ดื่มนมสดรสจืด หรือ เลือกนมพร่องมันเนยในเด็กที่อ้วน และจัดน้ำเปล่าไว้แทนน้ำหวานหรือน้ำอัดลม ให้ออกกำลังกายวันละ 1 ชั่วโมง และไม่นอนดึก เพื่อให้ช่วงปิดเทอมของเด็กได้เจริญเติบโตแข็งแรงสมวัยด้วยพลังบวกจากการปฎิวัติตู้เย็นให้มีอาหารที่เป็นประโยชน์ และห่างไกลโรคอ้วน