ส่งต่อความดีทางสังคมออนไลน์ ผ่าน Facebook เซียนเลิกเหล้า Reality

ถ้าบอกว่า “ความดี” สามารถเติบโตได้ผ่านสังคมออนไลน์ บางคนอาจจะเบ้ปากไม่เชื่อ เพราะคุ้นชินกับการใช้เครื่องมือเหล่านี้ในการบอกเล่าความเป็นไปกับกลุ่มเพื่อนฝูง หรือหามิตรภาพใหม่ๆ เสียมากกว่า แต่เทคโนโลยีที่เชื่อมโลกทั้งใบเข้าด้วยกันเพียงปลายนิ้วสัมผัสนี่แหละ ที่สามารถส่งต่อและขยายผล “ความดี” ให้เกิดขึ้นได้ในสังคม

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.)ได้นำเอาเทคโนโลยีมาใช้เป็นสื่อสำคัญในการทำเรื่องดีๆ ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาที่จะถึงนี้ ผ่านกิจกรรม”เซียนเลิกเหล้า ผ่านเฟสบุ๊ค NoAlcoholReality”ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว เปิดรับสมัครผู้ที่ตั้งใจจะ “หย่า” ขาดจากเหล้าในช่วงเข้าพรรษา ให้เข้ามาอัพเดทสถานะ และวิธีการในการเลิกเหล้า รวมไปถึงร่วมสร้างแรงจูงใจให้นักดื่มคนอื่นๆ หันหลังให้กับการตั้งวงร่ำสุราอย่างถาวร ผ่านทางหน้าเฟสบุ๊ค htpp://www.facebook.com/Noalcoholrealityและผู้สมัครคนใดที่มีผู้มากด likeสูงสุดจะได้รับรางวัลไปด้วย

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ รองผู้จัดการ สสส.เล่าถึงที่มาที่ไปของการทำกิจกรรมครั้งนี้ว่า สสส.ได้เริ่มรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษามาตั้งแต่ปี 2546ทำให้ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา 3เดือน ถือเป็นช่วง “โลว์ซีซั่น” ของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และทุกๆ ปีจะพบว่ามีสิงห์นักดื่มที่ตั้งใจจะ “ลด ละ เลิก” การดื่มสุราเพิ่มมากขึ้น

“การรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาที่ผ่านมา แม้ว่าจะได้ผลแต่ผลที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ เกิดกับกลุ่มวัยกลางคนขึ้นไป ขณะที่กระแสยังไปไม่ถึงกลุ่มเยาวชนมากนัก ดังนั้น การทำเรียลลิตี้เลิกเหล้าทางหน้าเฟสบุ๊ค จึงถือเป็นการส่งกระแสไปยังกลุ่มเยาวชนและคนวัยทำงาน ที่ใช้สังคมออนไลน์ในการสื่อสารกันในชีวิตประจำวัน เพราะแผนการตลาดของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างตั้งเป้าหมายไว้ที่กลุ่มเยาวชนในการดึงให้เป็นนักดื่มหน้าใหม่ ซึ่งหากเราสามารถส่งกระแสไปถึงเยาวชนในการรณรงค์เรื่องงดเหล้าได้ ก็จะเป็นการสกัดไม่ให้เยาชนตกเป็นเหยื่อทางการตลาดของธุรกิจน้ำเมาได้ ซึ่งเฟสบุ๊คจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการเข้าถึงวัยรุ่น” รองผู้จัดการ สสส.กล่าว

สิ่งที่ ดร.สุปรีดากล่าวมานั้น สอดรับกับข้อมูลของ พญ.บุญศิริ จันศิริมงคล นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานยาเสพติดและสุรา สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา กรมสุขภาพจิต ที่ระบุว่า อายุผู้ติดเหล้าเฉลี่ยลดน้อยลงเรื่อยๆ จาก อายุ 30-45ปี เป็น 20-30ปีเท่านั้น พญ.บุญศิริ ฝากเตือนไปยังทุกคนว่า ใครที่คิดจะเริ่มต้นดื่มเพราะคิดว่าต้องเข้าสังคม ในอนาคตอาจติดสุราและเลิกดื่มได้ยาก

“ใครที่ดื่มสุราขอให้ลองสำรวจตัวเองว่าเราดื่มอยู่ในขั้นติดสุราขั้นรุนแรงแล้วหรือไม่ โดยให้ถามตัวเองว่า เคยดื่มถึงขั้นอยากหยุดไหม คนรอบข้างบอกให้หยุด หรือตื่นเช้ามาต้องดื่มไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ หากเข้าข่ายทั้ง 3ข้อ แสดงว่าเราติดสุราขั้นรุนแรงแล้ว ซึ่งช่วงเข้าพรรษาเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการงดเหล้า” พญ.บุญศิริกล่าว

นายปิ่นทอง ฤทธิธรรม เครือข่ายชุมชนไทยเกรียง จ.สมุทรปราการ อดีตเซียนน้ำเมาที่ใช้ชีวิต“ศุกร์เมา เสาร์นอน อาทิตย์ถอน จันทร์ลา” เปิดปากเล่าประสบการณ์ยกกระดกให้ฟังว่า เมื่อติดสุราหนักสิ่งที่เกิดขึ้น“เหน็ดเหนื่อยและเบื่อหน่าย” คือ ร่างกายเหน็ดเหนื่อย ทำงานได้ไม่เต็มที่ ขณะที่คนรอบข้างต่างเบื่อหน่ายและแยกย้ายไปจากตัวเองหมด โดยในระยะที่ตนเองติดเหล้าอย่างหนักช่วง 5-10ปี คนในครอบครัวต่างหนีหาย อาชีพได้รับผลกระทบถูกให้ออกจากงาน และมีหนี้สิน ทำให้รู้สึกตัวว่าการดื่มสุรามีแต่เรื่อง “สูญเสีย”

“ผมเลยคิดว่าควรจะเลิกคบหากับเหล้า เริ่มต้นเลิกครั้งแรกผมใช้วิธีการหักดิบเลิกดื่มเลย ซึ่งเป็นวิธีการที่ผิด สุดท้ายผมทนไม่ไหวก็กลับมาดื่มเหล้าอีก แต่โชคดีที่ชุมชนไทยเกรียงมีการตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาผู้ติดยาเสพติด ผมได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องในการเลิกสุรา ที่สำคัญต้องมีจิตใจที่เข้มแข็ง เพราะว่าเพื่อนที่เคยตั้งวงกินเหล้าด้วยกันจะชักชวนให้เราร่วมวงด้วยทุกครั้ง ดังนั้น เราต้องมุ่งมั่นที่จะปฏิเสธ ผมขอฝากไว้ว่าในการเลิกเหล้าขอให้ฟังคำแนะนำจากคนรอบข้างอย่างตั้งใจและทำตามอย่างมั่นคง รับรองได้ผลแน่นอนครับ” นายปิ่นทองกล่าว

ขณะที่ นายถิระวัฒน์ พันธ์ม่วง อายุ 25 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง นำประสบการณ์ชีวิตติดขวดมาเล่าให้ฟังเช่นกันว่า เริ่มต้นดื่มสุรามาตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษา แต่พอเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยก็เริ่มดื่มหนักขึ้น จากทุกวันหลังเลิกเรียนก็กลายเป็นหนีเรียนไปดื่มสุรา เป็นอยู่เช่นนั้นกระทั่งเมื่อปีที่ผ่านมามีคนชวนให้ “งดเหล้าเข้าพรรษา” ประกอบกับเมื่อทบทวนชีวิตตนเองแล้วรู้สึกว่ามีแต่เรื่องแย่ๆ จึงเริ่มต้นเลิกเหล้า

“จากเดิมนั่งดื่มเหล้าทุกวันยันดึกดื่น แล้วไม่ดื่มผมก็ไม่รู้จะทำอะไร ผมเลยมองหาเพื่อนที่มีกิจกรรมอื่นๆ ทำ เพื่อนไปถ่ายรูปวัดตอนกลางคืน ผมก็ตามไปด้วย ว่างก็หยิบดินสอมาวาดรูป พอมีกิจกรรมอื่นๆ ทำเวลาก็ผ่านไปเร็ว แถมเรายังได้เริ่มต้นทำกิจกรรมใหม่ๆ ผมอยากจะท้าทุกคนมาลองวัดใจคุณกันดูว่าเข้มแข็งพอที่จะเลิกเหล้าในช่วงเข้าพรรษานี้หรือไม่”

ใครที่คิดจะรับคำท้าทำดีของ “ถิระวัฒน์” เข้าไปสมัครและอ่านเงื่อนไขการเข้าร่วมกิจกรรม “เซียนเลิกเหล้า” ได้ที่ htpp://www.facebook.com/Noalcoholreality เปิดรับสมัครตั้งแต่ 1-15 กรกฏาคม 2554 โดยตลอดระยะเวลา 3 เดือนในช่วงเข้าพรรษา ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม-12 ตุลาคม 2554 ผู้สมัครจะได้รับการดูแลและคำปรึกษาจากศูนย์บริการปรึกษาการเลิกสุราทางโทรศัพท์โดยผู้เชี่ยวชาญอย่างต่อเนื่อง โดยหน้าเฟสบุ๊คยอดเซียนเลิกเหล้า จะสรุปผู้กด “โหวต” และ “เทคนิคเลิกเหล้าดีเด่นประจำวัน” ทั้งนี้ ผู้สมัครที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ตลอดทั้ง 3 เดือน จะได้รับโล่เชิดชูเกียรติบุคคลต้นแบบเลิกเหล้าเข้าพรรษาประจำปี 2554 ได้รับการเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชน   

หากใครยังสงสัยว่าความดีเติบโตได้ในโลกออนไลน์จริงหรือ ลองเข้าไปดูที่ htpp://www.facebook.com/Noalcoholrealityแล้วแบ่งปันไปสู่ผู้อื่น เพียงเท่านี้ความดีก็เริ่มขยายตัวแล้ว

เรื่องโดย : คีตฌาณ์ ลอยเลิศ Team content www.thaihealth.or.th