สายด่วนสุขภาพจิตฮอต
ชายเปลี่ยนทัศนคติ แห่โทรปรึกษา
เผยสายด่วยสุขภาพจิตฮอตสุดชายแห่โทรปรึกษามากกว่าหญิง รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ชี้ บุรุษเพศ มีวิธีจัดการกับปัญหาที่เข้ามารุมเร้าในทางบวกมากขึ้น แทน การแก้ปัญหาด้วยการดื่มเหล้า-สูบบุหรี่-เล่นพนัน
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยภายหลังเปิดงานสัปดาห์สุขภาพจิตแห่งชาติ ประจำปี 2552 ในวาระ 120 ปี สุขภาพจิตไทย เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ว่า งานสุขภาพจิตได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาพจิตที่ดี เข้าถึงบริการด้านสุขภาพจิตอย่างทั่วถึง ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา พบ ประชาชนให้ความสนใจขอรับบริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตผ่านสายด่วน 1323 มากขึ้น 3 เท่าตัว คือ ปี 2550 จำนวน 9,345 ราย ปี 2551 จำนวน 28,289 ราย และ ปี 2552 จำนวน 83,602 ราย มีข้อน่าสังเกตว่า ในปีที่ผ่านมา เพศชายขอรับบริการปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตมากกว่าเพศหญิง โดยในปี 2552 เพศชาย 24,422 ราย เพศหญิง 23,849 ราย อาจมองได้ว่า ผู้ชายเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพจิตตนเองมากขึ้น มีวิธีจัดการกับปัญหาที่เข้ามารุมเร้าในทางบวกมากยิ่งขึ้น โดยการพึ่งที่ปรึกษา เสริมสร้างกำลังใจให้ตนเอง มากกว่า การแก้ปัญหาด้วยการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือเล่นการพนัน ฯลฯ
รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า เมื่อจัดลำดับปัญหาสุขภาพจิตที่ประชาชนขอรับบริการปรึกษามากที่สุด 5 อันดับแรก พบ อันดับ 1 ปัญหาความเครียด/วิตกกังวล 2.ปัญหาด้านเพศ ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย ปัญหาที่พบ คือ การมีความต้องการทางเพศสูงจนเกิดปัญหากับคู่สมรส 3.ปัญหาความรัก ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น ปัญหาที่พบ ได้แก่ อกหัก รักคุด อีกฝ่ายตีตัวออกห่าง แอบชอบแต่ไม่กล้าบอก 4.ปัญหาครอบครัว ได้แก่ ปัญหาสามีนอกใจ พฤติกรรมเปลี่ยนไป ไม่รับผิดชอบครอบครัว และ 5. ปัญหาสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น ปัญหาและวิกฤติต่างๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตอาจกลายเป็นอุปสรรคที่ส่งผลกระทบและบั่นทอนความสุขของ คนเราให้ลดน้อยลงได้ คนที่รู้เท่าทันปัญหาและมีความเข้มแข็งทางจิตใจเท่านั้นจึงจะสามารถผ่านพ้น ความทุกข์และสามารถสร้างสุขได้ด้วยตนเอง
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
update: 02-10-52
อัพเดทเนื้อหาโดย: อัญณิกา กฤษสมัย