สัมมนา กีฬามวลชน
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
ก้าวสำคัญสู่ระดับโลก! การประชุมกีฬาแห่งมวลชนระดับนานาชาติครั้งแรกในเมืองไทย "แมส พาร์ติซิเพชัน เอเซีย 2560" ประสบความสำเร็จตามเป้า "ภาครัฐ-เอกชน" ประกาศความพร้อมโชว์ศักยภาพเมืองไทยสู่สายตาอารยประเทศ เปิดประตูสู่การยกระดับ "สปอร์ตทัวร์ริซึ่ม" ทุกภาคส่วน เพื่อก้าวสู่การเป็น "สปอร์ตฮับ" ชั้นนำของโลก
ผ่านพ้นไปแล้วสำหรับการประชุมกีฬาแห่งมวลชนระดับโลกที่ถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย "แมส พาร์ติซิเพชัน เอเซีย 2560" ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของเมืองไทย ในการโชว์ศักยภาพให้นานาชาติได้ประจักษ์ถึงความชัดเจนและความพร้อมของภาครัฐและเอกชนในการยกระดับ "สปอร์ตทัวร์ริซึ่ม" ทุกภาคส่วน เพื่อก้าวสู่การเป็น "สปอร์ตฮับ" ชั้นนำของโลก
"แมส พาร์ติซิเพชัน เอเซีย 2560" (Mass Participation Asia 2017) หรือ "MPA" นับเป็นการประชุมเสวนาด้านกีฬาแห่งมวลชนระดับโลกเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ภายใต้การผนึกกำลังร่วมกันของการกีฬาแห่งประเทศไทย, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), บริษัท แมส พาร์ติซิเพชัน สปอร์ตส จำกัด (MASS PARTICIPATION SPORTS Co., Ltd.) และ บริษัท มูฟ บาย มิวส์ จำกัด โดยระดมวิทยากรมืออาชีพจากทั่วโลกที่อยู่ในวงการกีฬาแห่งมวลชน ทั้งกีฬาวิ่ง ปั่นจักรยาน หรือไตรกีฬา มาร่วมเสวนาเจาะลึกกลยุทธ์ พร้อมตีแผ่เบื้องหลังในการทำให้อีเวนต์กีฬามวลชนระดับโลกรายการต่างๆ ประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย
โดยการประชุมครั้งนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้สนใจซื้อบัตรเข้าร่วมงานเต็มโควตา 200 ที่นั่ง ทั้งชาวไทยและต่างชาติจากทุกภาคส่วนในวงการกีฬาแห่งมวลชน ไม่ว่าจะเป็น รัฐบาล, เอกชน, ผู้จัดงานอีเวนต์, ผู้สนับสนุน, เอเยนซี ตลอดจนแบรนด์สินค้าและผู้ให้บริการต่างๆ ที่เข้ามาเพื่อนำองค์ความรู้จากที่ประชุมไปใช้ในการต่อยอดแนวความคิดใหม่ทางด้านธุรกิจ พร้อมสานต่อความสัมพันธ์สร้างคอนเน็กชั่นระหว่างกันและกัน ขณะที่ผู้ทรงคุณวุฒิที่เดินทางมาเป็นวิทยากรบรรยายข้อมูลก็ล้วนแล้วแต่เป็นมืออาชีพที่โลดแล่นและมีผลงานในระดับโลกมาแล้วมากมาย จนเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม
เหนือสิ่งอื่นใดก็คือการประกาศศักยภาพของประเทศไทยให้ทั่วโลกได้ประจักษ์แก่สายตาว่าพร้อมแล้วที่จะเปิดประเทศสู่เป้าหมายสำคัญคือการยกระดับ "สปอร์ตทัวร์ริซึ่ม" ทุกภาคส่วน เพื่อก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านกีฬา (Sports Hub) ชั้นนำของโลก ในระยะเวลาอันใกล้ อันจะนำมาซึ่งเม็ดเงินจำนวนมหาศาลกระจายทั่วภูมิภาคในประเทศไทย ช่วยพัฒนาเมืองและสร้างรายได้คืนสู่ชุมชน ตลอดจนค่าดัชนีชี้วัดความก้าวหน้าที่จะพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายณัฐวุฒิ เรืองเวศ รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการเดินหน้าตามแผนพัฒนากีฬาแห่งชาติ "ที่ผ่านมาเรามองกีฬามวลชนเพียงมิติเดียวคือเพื่อสร้างเสริมสุขภาพ แต่ในโลกกีฬายุคใหม่เป็นโลกของธุรกิจมากขึ้น เพราะจะมีรายได้จากผู้เข้าแข่งขันและผู้ติดตามหลักหมื่นหลักแสนคน หลายประเทศจึงนำกีฬามาช่วยสร้างรายได้และเพิ่มมูลค่าจีดีพี เปรียบเสมือนอุตสาหกรรมกีฬาดาวรุ่งที่พร้อมจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการประชุมครั้งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ตามนโยบายสปอร์ตทัวริซึ่ม ที่ต้องการจะพัฒนาประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางด้านกีฬาระดับโลกในระยะเวลา 10 ปี เพราะเราต้องการจะนำอีเวนต์ระดับโลกเข้ามาจัดในเมืองไทย รวมถึงเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมด้านกีฬาระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการพัฒนาอีเวนต์ต่างๆ ที่มีอยู่ในประเทศ
ที่สำคัญการประชุมครั้งนี้นอกจากจะประเทศไทยจะได้รับความรู้จากวิทยากรระดับโลกแล้ว ยังเป็นก้าวแรกที่ทำให้ทั่วโลกได้เห็นถึงนโยบายและความชัดเจนของรัฐบาลไทย ที่ต้องการพัฒนาศักยภาพกีฬาแห่งมวลชนอย่างจริงจรัง ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นใจต่อผู้ที่จะเข้ามาลงทุน ทำให้นานาชาติได้รับรู้และพร้อมที่จะเดินหน้าไปด้วยกัน เป็นการช่วยต่อยอดสร้างรายได้ และภาพลักษณ์ของกีฬาเพื่อสร้างเศรษฐกิจชาติอย่างชัดเจนและยั่งยืน" นายณัฐวุฒิ กล่าว
ด้าน ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมวิถีชีวิต สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เตรียมนำความรู้และประโยชน์ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนข้อมูลในครั้งนี้ไปสานต่อ พร้อมมั่นใจว่าจะเป็นโมเดลสำคัญในการยกระดับการจัดงานต่างๆ ของประเทศไทยแน่นอน "การสัมมนาครั้งนี้เป็นการระดมนักวิชาการและผู้ประกอบธุรกิจในวงการกีฬาแห่งมวลชนมาแชร์ประสบการณ์ระหว่างกัน ซึ่งเป็นกีฬาที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้ ที่สำคัญยังเป็นการช่วยสร้างเสริมสุขภาพของคนไทย ตามนโยบายของ สสส.ด้วยเช่นกัน เนื่องจาก สสส. เป็นองค์กรที่สร้างเสริมสุขภาพคนไทยให้มีสุขภาพดีทั้ง 4 มิติ โดยเฉพาะทางด้านร่างกาย การเข้าร่วมกิจกรรมกีฬาเพื่อมวลชนจึงเป็น 1 ในภารกิจหลัก เราจึงเตรียมนำความรู้ที่ได้จากการแลกเปลี่ยนในการสัมมนาครั้งนี้ไปประยุกต์และปรับใช้กับกิจกรรมที่เราได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในการทำงาน เช่น การจัดการกิจกรรมออกกำลังกาย หรือการจัดกิจกรรมวิ่ง เป็นต้น ที่สำคัญการสัมมนาครั้งนี้ยังเป็นกรณีตัวอย่างที่เราสามารถเรียนรู้ และนำไปใช้จัดกิจกรรมจริงที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยต่อไปในอนาคตได้ ถือเป็นโมเดลระดับประเทศ ที่สามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับบริบทของคนไทย และพัฒนาการแข่งขันให้มีความปลอดภัยและมีมาตรฐานมากขึ้น"
ขณะที่ นายบุญเพิ่ม อินทนปสาธน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มูฟ บาย มิวส์ จำกัด ในฐานะภาคเอกชนผู้ร่วมจัดงาน MPA ประจำประเทศไทย กล่าวว่า "การประชุมครั้งนี้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้จะเป็นการจัดงานครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ในระดับทวีปเอเชียต่อจากสิงคโปร์ เห็นได้จากผู้เข้าร่วมงานที่ซื้อบัตรเต็มโควตาตั้งแต่เปิดขายได้ไม่นาน โดยองค์กรจากภาครัฐและเอกชนในประเทศไทยได้ใช้การประชุมครั้งนี้เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนข้อมูล แสวงหาคอนเทนต์ระดับโลก และสร้างคอนเน็กชั่นสู่ระดับนานาชาติ ซึ่งเรามีเป้าหมายที่จะจัดการประชุมต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี รวมถึงวางแผนจัดตั้งศูนย์ MASS PARTICIPATION THAILAND CENTER (MPTC) ประจำประเทศไทย เพื่อเป็นศูนย์กลางและอำนวยความสะดวกในการรวบรวมเครือข่ายสำหรับคนที่ต้องการความรู้หรือติดต่อหาข้อมูลจากวิทยากร และคอนเทนต์ระดับโลกได้ง่ายและเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน"
สำหรับการประชุม "แมส พาร์ติซิเพชัน เอเซีย 2560" มีวิทยากรระดับโลกเดินทางมามอบองค์ความรู้มากมาย อาทิ เบน สแล็ก (Ben Slack) หัวหน้าฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศของวงการเทนนิสออสเตรเลีย ที่บรรยายเรื่องกรณีหุ่นมือ ซึ่งเหมาะกับเด็กและเยาวชน ศึกษาเรื่องฐานแฟนคลับและการมีส่วนร่วมที่อีกทั้งมีการแสดงชุดพิเศษนาฏยศาลาดีในการแข่งขันเทนนิสแกรนด์สแลม, วิคเตอร์ หุ่นละครเล็กโจหลุยส์ เรื่อง "พระซุย (Victor Cui) ซีอีโอศึกวัน แชมเปี้ยนชิพ ให้มหาชนก" รวมถึงการแสดงหุ่นจากข้อมูลกรณีศึกษาศิลปะการต่อสู้ และการรวมกลุ่มภูมิภาคต่างๆ อาทิ หุ่นเงาร่วมสมัย ของอุตสาหกรรมกีฬาประเภทนี้ในเอเชีย, เชาหุ่นคณะเจ้าขุนทอง หนังใหญ่วัดโต ฉัว (Shoto Zho) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ OCEANS ขนอน จ.ราชบุรี ซึ่งได้ขึ้นทะเบียนเป็นMarketing : โอกาสและการแข่งขันของมวลชนในมรดกโลก และหนังตะลุง เป็นต้นประเทศจีน, คริสเตียน โบเวน (Christine Bowen)
ทั้งนี้ การแสดงหุ่นร่วมรองประธาน ด้านโปรแกรมมิ่งและปฏิบัติการสมัยไทย-อาเซียน จัดแสดงของ Running USA : ข้อมูลและเทรนด์ในวงการในพื้นที่ 4 เวที ได้แก่ เวทีที่ วิ่งของสหรัฐอเมริกา, นีล สจ๊วร์ต (Neil Stewart) 1 ณ ห้องออดิทอเรียม หอหัวหน้าเอเยนซีภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของ "FACE-ศิลป์ร่วมสมัย ราชดำเนิน BOOK" ผู้ให้บริการเว็บไซต์เครือข่ายสังคมระดับระหว่างวันที่ 20-25 เมษายน โลก ที่นำประสบการณ์ด้านความเข้าใจและการเวลา 13.00-16.00 น. เวทีที่ กระตุ้นการบริการมานำเสนอ2 ณ โรงละครแห่งชาติ (โรง แซม มิดเดิลเฮิร์ส (Sam Middlehurst) ผู้ใหญ่) ระหว่างวันที่ 20-25 ร่วมก่อตั้ง "มิวสิค รัน" ที่เผยกลยุทธ์การสร้างอีเมษายน เวลา 16.00- เวนต์ที่ขยายธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็วไปกว่า 10 17.00 น.
เวทีที่ 3 ณ ลานประเทศทั่วโลก, เดวิด เมอร์ฟีย์ (David Murphy) พลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ : กรณีศึกษาความยั่งยืนและผลกระทบทางธุรกิจระหว่างวันที่ 20-25 เมษายน ของการแข่งขัน บอสตัน มาราธอน, เดวิด เฮนเวลา 16.00-21.00 น. และเซน (David Hansen) ผู้ก่อตั้ง "SUPERSPRINT เวทีที่ 4 ณ สวนสันติชัยEVENT" ผู้อำนวยการการจัดงานอีเวนต์ระดับโลกปราการ ระหว่างวันที่ 20-25 กว่า 500 รายการ อาทิ 2000 Sydney Olympic เมษายน เวลา 19.30- 20.30 น. Games Triathlon, ITU Triathlon World Cups, นอกจากนี้ มีการจัดนิทรรศการการแสดงUCI Women's Road Cycling World Cup, หุ่นร่วมสมัยไทย-อาเซียน ณ หอศิลป์ร่วมสมัยAustralian Triathlon Championships ฯลฯ รวมราชดำเนิน ระหว่างวันที่ 20-30 เมษายน และกิจถึงแขกรับเชิญพิเศษที่มาสร้างแรงบันดาลใจอย่าง กรรมทอล์กโชว์ เรื่อง "วัฒนธรรมเชื่อมใจ หุ่นไทยจอห์น แม็คเคลน (John Maclean) ชายที่กลายอาเซียน" โดยผู้เชี่ยวชาญวัฒนธรรมหุ่น รวมทั้งการเป็นนักกีฬาวีลแชร์ยอดเยี่ยมหลังจากได้รับบาดประดิษฐ์หุ่นกระบอกไทยและหุ่นกระบอกอาเซียน เจ็บกระดูกสันหลังที่รุนแรง ก่อนที่จะสามารถกลับระหว่างวันที่ 22-23 เมษายน ทั้งนี้ ประชาชนมาเดินได้อีกครั้งในรอบ 25 ปี ซึ่งถูกนำมาเรียบสามารถเข้าชมกิจกรรมการแสดงหุ่นทุกเวทีได้โดยเรียงเป็นหนังสือในชื่อ "How Far Can You" อันไม่เสียค่าใช้จ่าย และจองตั๋วเข้าชมการแสดงหุ่นโด่งดังไปทั่วโลก ร่วมสมัยไทย-อาเซียน โทร.0-2224-1342 และ
ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียด "แมส APP : Thai Culture E-Ticket สอบถามรายละเอียด พาร์ติซิเพชัน เอเซีย 2560" เพิ่มเติมได้ที่ http://โทร.0-2422-8829 หรือสายด่วนวัฒนธรรม 1765 massparticipationasia.com