สสส.ร่วมต่อยอด “การท่องเที่ยวโดยชุมชน”

แม้การท่องเที่ยวจะสร้างความสุขให้แก่คนเรามากมาย แต่ก็มีค่าใช้จ่ายบางอย่างที่เราอาจจะคาดไม่ถึงเกิดขึ้น โดยเฉพาะผลกระทบจากการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งจากการใช้พลังงานในการขนส่ง การอุปโภคบริโภคหรือจากกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ท่องเที่ยว ซึ่งถูกมองเป็นหนึ่งในตัวการให้เกิดภาวะโลกร้อน

ท่องเที่ยวโดยชุมชน
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา จึงเกิดแนวคิดใหม่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ที่หวังให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด หรือไม่ก็ให้การท่องเที่ยวนั้นเป็นไปเพื่อส่งเสริมการรักษาโลกใบนี้เอาไว้ ทั้งการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และการท่องเที่ยวโดยชุมชน
 
ในส่วนของการท่องเที่ยวโดยชุมชน ซึ่งอาจจะเป็นคำใหม่ของใครหลายคนนั้น มีสถาบันการท่องเที่ยวโดยชุมชน เป็นผู้ดำเนินการร่วมกับองค์กรที่มีภูมิหลังด้านการพัฒนาคนและองค์กรชุมชนด้านการท่องเที่ยวโดยชุมชนมากว่า 12 ปี เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนเป็นผู้บริหารจัดการการท่องเที่ยวด้วยตัวเอง ควบคู่กับการพัฒนาชุมชนในด้านต่างๆ ทั้งการอนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรม ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง การเสริมสร้างสุขภาพทั้ง 4 ด้าน คือ กาย จิต ปัญญา และสังคม
 
ล่าสุด สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เข้ามาสนับสนุนสถาบันการท่องเที่ยวโดยชุมชน จัดทำโครงการสานพลังเยาวชน เสริมสร้างสุขภาวะชุมชน ร่วมลดโลกร้อน ซึ่งดำเนินการในชุมชน 50 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเป็นอีกช่องทางในการเปิดพื้นที่ให้แก่เยาวชนได้แสดงศักยภาพและบทบาทในการเป็นแกนนำรุ่นต่อไปของชุมชน และเพื่อให้เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการได้นำความรู้ทางวิชาการเรื่องโลกร้อน กิจกรรมในวิถีชีวิตที่ช่วยลดการใช้พลังงาน กิจกรรมท่องเที่ยวในชุมชน และการเสริมสร้างสุขภาพ มาบูรณาการร่วมกันในการทำงาน
 
หลังจากดำเนินการมาได้สักระยะหนึ่ง โครงการสานพลังเยาวชน เสริมสร้างสุขภาวะชุมชน ร่วมลดโลกร้อน ก็ได้จัดงานเพื่อนำเสนอผลงานในชื่อ “มหกรรมเยาวชนลดโลกร้อน” ณ พุทธสถาน จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้รูปแบบการจัดงาน 7 แบบ คือ 1.ขยะลดโลกร้อน 2.สื่อสร้างสรรค์ลดโลกร้อน 3.สมุนไพร อาหารต้านโลกร้อน 4.ดูแลน้ำ ดูแลป่า เยียวยาโลก 5.โลกร้อนกับวิถีชีวิตพอเพียง 6.โลกร้อนกับพลังงานทางเลือก และ 7.ท่องเที่ยวลดโลกร้อน โดยมีกิจกรรมต่างๆ ทั้งการออกซุ้ม กิจกรรมสาธิต และเกมส์
 
อีกหนึ่งกิจกรรมในงานนี้ คือ การเสวนาพูดคุยถึงประสบการณ์การทำงานของตัวแทนเยาวชนในชุมชนต่างๆ ในหัวข้อ “ความฝัน ความงาม ความจริง ของการทำงานเยาวชน”
 
เริ่มจาก “กิ๊ก” รัตนา ยินดี จากกลุ่มเด็กรักป่า จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทำกิจกรรมเกี่ยวกับศิลปะธรรมชาติมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดค่าย การแสดงละครเวที การวาดภาพ โดยปัจจุบันได้เน้นพัฒนาศักภาพในการทำหนังสั้นเพื่อโลก (ร้อน) เธอเล่าให้ฟังว่า จากการทำงานทำให้เด็กๆได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม ได้รู้ว่า หากไม่ทำงานเป็นทีมก็จะไม่มีทางประสบความสำเร็จได้ อีกทั้งยังได้เรียนรู้การใช้จินตนาการ
 
“เชื่อหรือไม่ว่า หนังสั้นที่พวกเราทำ มีเด็ก ป.4 อายุเพียง 10 ขวบ เป็นคนเขียนบทและร่วมแสดง และเมื่อพวกเราได้รับบทมาแล้ว ก็จะมาช่วยกันใช้จินตนาการตีความกันว่า จะหานักแสดงอย่างไร หาโลเกชั่นแบบไหน เพื่อให้ตรงกับบทที่น้องเขาเขียนมาให้มากที่สุด”  
 
“กานต์” กานต์ชนก นะนอง อีกหนึ่งเยาวชนจากชุมชนบ้านแม่ละนา จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นชุมชนชาวไทยใหญ่ ที่ต้องการปรับปรุงหมู่บ้านของพวกเขาให้ดีขึ้น ทั้งจัดการการท่องเที่ยวที่เน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป เช่น การพัฒนาแหล่งต้นน้ำ การเพาะพันธุ์ป่า การจัดการขยะในชุมชน บอกเล่าว่า โครงการนี้ ทำให้เด็กได้รับโอกาสจากผู้ใหญ่ จากเดิมที่เมื่อมีโครงการมาก็จะมีแต่ผู้ใหญ่เป็นคนทำ แต่ตอนนี้ เด็กมีโอกาสได้คิดเอง ได้ทำเอง มีโอกาสได้ทำงานอย่างเต็มที่ ได้ตัดสินใจทำกันเอง โดยมีผู้ใหญ่เป็นที่ปรึกษา ทำให้เกิดความสามัคคี นอกจากนี้ งานที่ทำยังสะท้อนไปที่ชุมชนอย่างเห็นได้ชัดว่าเป็นอย่างไร         
 
“อย่างพวกผมช่วยกันเก็บขยะ ถ้าผู้ใหญ่จะทิ้งกันอีก พวกเขาจะคิดกันอย่างไร หลังจากพวกเด็กๆ ช่วยกันเก็บขยะมาสักระยะ จากนี้ พวกผู้ใหญ่ เขาก็เปลี่ยนจากคนทิ้งมาเป็นคนช่วยเก็บ” กานต์เล่าอย่างภาคภูมิใจในงานที่ได้ทำ
 
ด้าน “แอน” มาริสา ราเขต จากชุมชนเกาะยาวน้อย อ.เกาะยาว จ.พังงา ซึ่งเป็นเกาะที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามามาก จึงทำให้เกิดการตั้งชมรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชนเกาะยาวขึ้น และเยาวชนในเกาะยาวน้อยก็ได้ร่วมมือกันเพื่อสานต่องานด้านการอนุรักษ์ธรรมชาตินี้ ทั้งการลดปริมาณขยะในเกาะ ปลูกจิตสำนึกให้ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก ปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว บอกกล่าวงานของพวกเธอว่าถือเป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ ซึ่งแม้จะเป็นเพียงจุดเล็กๆ แต่วันหนึ่งจุดเล็กๆ นี้ก็จะขยายเป็นจุดใหญ่เต็มเกาะยาวน้อย นอกจากนี้ ยังทำให้เกิดความสามัคคีและร่วมมือกันในเกาะยาวน้อย
 
นอกจาก 3 ชุมชนนี้แล้ว ยังมีอีกหลายชุมชนที่เข้าร่วมโครงการนี้ และมีเรื่องราวดีๆ น่าสนใจอีกมากมาย ที่มุ่งหวังให้พลังเยาวชนเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการทำกิจกรรม เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะของคนในชุมชนและผู้ที่เข้าไปท่องเที่ยวในชุมชนของพวกเขาและเธอ รวมทั้ง เพื่อร่วมกันอนุรักษ์ธรรมชาติ ลดปัจจัยในการทำให้เกิดภาวะโลกร้อน ซึ่งเข้าไปดูรายละเอียดได้ในเว็บไซต์ http://www.cbt-i.org เว็บไซต์ของสถาบันการท่องเที่ยวโดยชุมชน
 
หลังจากนี้ โครงการนี้ยังจะจัดกิจกรรมในพื้นที่อีกหลายแห่ง และจะมีการจัดสัมมนาใหญ่ระดับประเทศอีกครั้ง เพื่อให้เยาวชนได้นำเสนอผลงานและเรื่องราวเกี่ยวกับการท่องเที่ยวกับสุขภาวะชุมชนและการลดโลกร้อน รวมทั้ง จะมีการขยายผลการทำงานไปอีก 50 ชุมชนทั่วประเทศในเร็วๆ นี้
 
 
 
ที่มา :  หนังสือพิมพ์มติชน
Shares:
QR Code :
QR Code