สสส. ป้องกัน “วัวดุ” ลดอุบัติเหตุ-ความตาย
เพิ่มมาตรการประสานความร่วมมือ ตรวจเข้มทั่วประเทศ
ปีชวด ที่หมายถึง ปีหนู ที่กำลังจะผ่านเลยไป แล้ว ปีฉลู ที่หมายถึง วัว ก็กำลังจะมาปรากฏกายขึ้นแทนที่ แน่นอนว่า เมื่อความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น อะไรต่ออะไรมันก็อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็น วิถีชีวิตของคนแต่ละคน สภาพสิ่งแวดล้อม ทั้งสภาพภูมิทัศน์ และสภาพภูมิอากาศก็อาจจะต้องมีการเปลี่ยนไปด้วย เพียงแต่ว่ามันยังไม่รู้ว่า จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร (จะไปถามพวกหมอดู ก็ไม่รู้จะถามใคร เพราะมีหลายคนเตรียมติดคุก ขึ้นโรง ขึ้นศาลกัน ไปตามๆกัน)
แต่ที่แน่ๆ ซึ่งพอสามารถประเมินได้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น คงต้องอาศัย การดูจากสถิติ สิ่งที่เคยเกิดมาแล้ว อย่างเรื่องของ อุบัติเหตุ บนท้องถนน และ ความตายที่เกิดจากอุบัติเหตุเหล่านั้น ซึ่งมีการบันทึกเอาไว้อย่างเป็นหลักเป็นฐาน
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มีการเปิดเผยข้อมูล โดย ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษา สสส.ได้บอกเอาไว้ในงานวันแถลงข่าว เรื่อง “ท้องถิ่น ชุมชน ปลอดภัย ด้วยวินัยจราจร” กล่าวว่า ช่วงปีใหม่ 2551 มีผู้ประสบอุบัติเหตุเกิดจากการดื่มแล้วขับมากเป็นอันดับหนึ่ง คือ 40.80%
ข้อมูลวิชาการระบุว่า เหล้าคือตัวอันตราย ผู้ที่ดื่มแล้วขับจะเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากกว่าผู้ที่ไม่ดื่มเกือบ 10 เท่า เสี่ยงต่อการบาดเจ็บเกือบ 7 เท่า ผู้ที่บาดเจ็บล้มตายในเทศกาลแห่งความสุขนั้น คือเด็กอายุต่ำกว่า 19 ปี ถึง 29.22% และเป็นวัยแรงงานถึง 57.88%
โดยรถจักรยานยนต์ยังคงครองแชมป์พาคนไปสู่ความตายมากที่สุดถึง 84.57% ซึ่งการขับขี่จักรยานยนต์จะเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่รุนแรงถึงชีวิต มากกว่าการใช้รถประจำทางสูงถึง 750 เท่า”
แสดงให้เห็นว่า ในช่วง ปีหนู ที่ผ่าน สังคมไทยได้พบว่า เจ้าหนู ตัวนี้ เป็น “หนูดุ”ที่น่าหวั่นวิตกอย่างมากทีเดียว และเมื่อ เจ้าหนูดุ กำลังจะจากไป สสส.จึงได้มีการเตรียมป้องกัน เจ้า วัว ตัวใหม่ที่กำลังจะมาแทนที่ ไม่ให้ กลายเป็น “วัวดุ” ด้วยการเตรียมการป้องกันอุบัติเหตุ และความตายบนท้องถนนอย่างจริงจัง
ศ.นพ.อุดมศิลป์ คนเก่านั่นแหละ ได้กล่าวให้ทราบว่า เพื่อเฝ้าระวังป้องกันอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ 2552 นี้ สำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.) จึงร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรณรงค์ “ท้องถิ่น ชุมชนปลอดภัย ด้วยวินัยจราจร ” ขึ้น
โดยมีเยาวชนศูนย์เสมาส่งเสริมศีลธรรม 1,600 คน เป็นอาสาสมัครตลอด 7 วันในปั๊มน้ำมันถนนสายหลัก 8 จังหวัดเสี่ยง อาทิ เชียงใหม่ นครราชสีมา และเครือข่ายหมออนามัยทั่วประเทศ 11,771 คน จะรณรงค์ทุกจังหวัด
ขณะที่เครือข่ายแท็กซี่สามล้อไทยปลอดภัยใสสะอาด และสามล้อเอื้ออาทรเพื่อคนจน จะจัดรถรณรงค์กว่า 200 คันแห่ทั่ว กทม. ติดสติกเกอร์ “365 วันปลอดภัยด้วยวินัยจราจร” ในวันที่ 25 ธค. และ 30 ธค. พร้อมจัดรถสามล้อบริการ รับส่งผู้โดยสารฟรี จากสถานีรถไฟฟ้าหมอชิต ถึงขนส่งหมอชิต เพื่อ “คนอีสาน ส่งพี่น้องกลับบ้านให้ปลอดภัย”
แถมยังมีการ แจกน้ำดื่ม ผ้าเย็น ตลอดงาน และ สคอ.จะจัดทีม 4 ภาค เพื่อสำรวจพฤติกรรมการขับขี่ และเป็นกำลังใจให้กับผู้ร่วมรณรงค์ทุกคนอีกด้วย
และเพื่อให้การทำรณรงค์ในครั้งนี้ มีประสิทธิผล อย่างมีประสิทธิภาพ นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เปิดเผยให้ทราบว่า เพื่อเตรียมความพร้อมช่วงเทศกาลปีใหม่ กระทรวงมหาดไทยมีหนังสือแจ้งให้ผู้ว่าราชการทุกจังหวัด จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการร่วมระดับจังหวัด 75 จังหวัด ระดับอำเภอ 877 อำเภอ
พร้อมทั้งประสานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยมีจุดตรวจหลักทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 2,800 จุดต่อวัน ซึ่งจะเปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงปีใหม่ 2552 ในวันที่ 29 ธ.ค. นี้ พร้อมทั้งรายงานสถานการณ์อุบัติเหตุตลอดให้รับทราบกันเอาไว้
ทางด้าน นายวสันต์ วรรณวโรทร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ก็ได้ขอความร่วมมือจาก อบต., เทศบาล, อบจ. ทั่วประเทศ ให้ตระหนักถึงความปลอดภัยในการเดินทางว่า เป็นภารกิจที่ต้องร่วมมือกันหลายฝ่าย
โดยเฉพาะ อบต. มีการเสริมกำลังตั้งจุดบริการ, จุดตรวจในระดับหมู่บ้าน, ตำบล ดึงแม่บ้าน อสม., อปพร. เข้าร่วมงาน หวังปกป้องชีวิตลูกหลานในท้องถิ่นชุมชนให้ได้มากที่สุด ยันระดับนโยบายหนุนจัดกิจกรรมประเพณีปลอดน้ำเมา กระตุ้นทุกครอบครัวหันมาสนใจเด็กและเยาวชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง
เกรงว่าหากปล่อยปะละเลยอาจกลายเป็นภาระ สร้างความสูญเสียให้กับครอบครัวท้ายสุดก็ต้องเป็นภาระของท้องถิ่น ชุมชนอยู่ดี โดยเฉพาะลูกหลานที่กลับจากการทำงานมาเยี่ยมพ่อแม่ในต่างจังหวัด ต้องให้มีการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยเพื่อจะได้กลับไปทำงานหารายได้มาเลี้ยงครอบครัวกันต่อไป
พล.ต.ต.วัฒนา กฤติยะโชติ ผู้บังคับการกองพัฒนาการจราจรและบริการประชาชน (กพจ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า มาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ 2552 ตลอดช่วง 7 วัน 30 ธ.ค.- 5 ม.ค. 2552 ได้เตรียมความพร้อม จนท.ตำรวจ ตั้งด่านตรวจเข้มทั้งประเทศ ทั้งคน สภาพถนน รถและสัญญาไฟ เครื่องหมาย สัญญาณจราจร ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. ที่ผ่านมา
และขอความร่วมมือเจ้าของกิจการให้งดการนำรถบรรทุก 6 ล้อ ขึ้นไป มาวิ่งในช่วงเทศกาล ซึ่งจะจัดตำรวจอำนวยความสะดวกประจำจุดทางร่วม ทางแยก ทางโค้ง บริเวณที่มีปัญหาการจราจร และคุมเข้มมาตรการ 3 ม 2 ข 1 ร อาทิ ห้ามขับจักรยานยนต์หากไม่สวมหมวกนิรภัย ห้ามขับรถขณะเมาสุรา ห้ามขับเร็วกว่ากฎหมายกำหนด
ทางด้านความช่วยเหลือคนเจ็บ พล.ต.ต.เจษฎา อินทรสถิตย์ ผู้บังคับการกองบินตำรวจ สำนักตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า กองบินตำรวจได้เตรียมความพร้อมช่วยชีวิตผู้ประสบอุบัติเหตุช่วงปีใหม่
โดยร่วมมือกับ ร.พ.ตำรวจ จัดเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ พร้อมอุปกรณ์ทางการแพทย์ และมีแพทย์ประจำตลอด 24 ชม. ในพื้นที่ 2 จุดสำคัญ คือ 1.นครราชสีมา ดูแลพื้นที่จาก กรุงเทพฯ ถึงขอนแก่น 2.นครสวรรค์ ดูแลพื้นที่จากกรุงเทพฯ ถึง พิษณุโลก
เห็นการเตรียมตัวกันอย่าง หนาแน่นแบบนี้ เชื่อได้ว่า เจ้าวัว ตัวใหม่ที่จะมารับหน้าที่ แทนเจ้าหนูตัวเก่า คงจะไม่กลายเป็น วัวดุ อย่างแน่นอน
ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า
Update 24-12-51