สสส.จับมือ ก.แรงงาน รวมพลังสู้หวัด 2009
เร่งรณรงค์โรงงานกว่า 6 พันแห่ง
เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 52 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพจับมือกับกระทรวงแรงงาน จัดแถลงข่าว “แรงงานร่วมใจ รวมพลังสู้หวัด 2009” ซึ่งมีพิธีบันทึกข้อตกลงร่วมมือการป้องกัน ควบคุม และแก้ปัญหาการแพร่ระบาด ไข้หวัดใหญ่ 2009
นายไพฑูรย์ แก้วทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคไข้หวัด 2009 ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวของประเทศไทยยิ่งต้องระมัดระวัง ซึ่งการจัดโครงการในครั้งนี้ เพื่อป้องกัน ควบคุม และแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เนื่องจากกลุ่มผู้ใช้แรงงานมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไข้หวัด 2009 เป็นอย่างมาก เพราะต้องทำงานร่วมกันเป็นจำนวนมากและระยะเวลานาน เพื่อปกป้องแรงงานกว่า 9 ล้านคน ทำให้กระทรวงแรงงาน และ สสส.รู้สึกเป็นห่วง หากเกิดการระบาดในสถานประกอบการ จะส่งผลกระทบให้สถานประกอบการต้องปิดดำเนินการชั่วคราว ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานจะเริ่มรณรงค์ป้องกันไข้หวัด 2009 ร่วมกับสถานประกอบการภายในนิคมอุตสาหกรรม 20 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีโรงงาน 6,254 แห่ง ครอบคลุมผู้ใช้แรงงานกว่า 3 ล้านคน
นายไพฑูรย์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการประกันสังคม ยังได้อนุมัติงบประมาณกว่า 9.8 ล้านบาท เพื่อจัดอบรมความรู้และวิธีการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้กับผู้ใช้แรงงานจำนวน 122 รุ่น รุ่นละ 200 คน รวมกว่า 24,400 คน
นพ.มงคล ณ สงขลา ประธานคณะอนุกรรมการสนับสนุน ป้องกัน ควบคุมและการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 สสส. กล่าวว่า โครงการดังกล่าว จะมีการจัดกิจกรรมรณรงค์ไปทั่ว ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค โดยเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 พร้อมวิธีป้องกันและข้อปฏิบัติเมื่อติดเชื้ออย่างถูกต้องแก่ผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศ กระจายสื่อประชาสัมพันธ์ให้โรงงานและชุมชนใกล้เคียง และที่สำคัญจะส่งเสริมการกระตุ้นให้โรงงานเปิดพื้นที่ให้แรงงานได้ออกกำลังกายสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
นพ.มงคล กล่าวต่อว่า ตนเป็นห่วงในส่วนของโรงงานขนาดเล็ก ที่ยังไม่มีการจัดการเกี่ยวกับมาตรการป้องกันไข้หวัด 2009 ให้เป็นระบบเท่าที่ควร อีกทั้งแรงงานที่มาทำงานแต่ละวันมีการสลับหมุนเวียนไป ทั้งคนไทย พม่า ลาว เป็นต้น ซึ่งต้องให้ความรู้และข้อมูลที่ถูกต้องอย่างเร่งด่วน
ที่มา: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่ www.thaihealth.or.th
update:14-09-52
อัพเดทเนื้อหาโดย: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่