สสส.จับมือพศ. รวมพลังสู้หวัดในวัด
วิทยาแนะปชช.เชื้อคำสอนพระ
เมื่อวันที่ 7 ต.ค ที่ผ่านมา ที่หอประชุมพุทธมณฑล จ.นครปฐม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แถลงโครงการ “มหาเถรสมาคม-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รวมพลังสู้หวัด 2009” โดยมีพระสงฆ์เข้าร่วมกว่า 500 รูป
โดย นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากรายงานขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า แถบเอเชียมีแนวโน้มการเกิดโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 เพิ่มสูงขึ้นในหลายประเทศ ดังนั้นจึงประมาทไม่ได้ ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 จะกลับมาเพิ่มสูงอีกครั้ง ประกอบกับเป็นช่วงปิดเทอมของเด็กนักเรียน จะมีเด็ก 12 ล้านคนที่กระจายตามสถานที่ต่างๆ จึงเป็นช่วงที่ต้องระมัดระวัง
“และยิ่งขณะนี้เป็นช่วงที่ประชาชนต้องเดินทางไปวัด เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในช่วงออกพรรษา ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีประชาชนไปรวมกันจำนวนมาก หากมีโรคไข้หวัด 2009 เกิดขึ้น จะทำให้เกิดการแพร่เชื้อได้ง่าย จึงจัดให้มีการถวายความรู้เรื่องไข้หวัด 2009 ให้แก่พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่เพื่อนำไปถ่ายทอดและเผยแพร่วิธีการรณรงค์ ป้องกัน ไข้หวัด 2009 ในหมู่พระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนไทยทั่วประเทศ เนื่องจากพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่มักเชื่อในคำสั่งสอนของพระสงฆ์” นายวิทยา กล่าว
นายวิทยา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้กรมการแพทย์โดยโรงพยาบาลสงฆ์ยังมีโครงการพัฒนาพระสงฆ์แบบองค์รวมเกิดขึ้น ถือว่าเป็นโครงการนำร่องในการติดตามถวายความรู้พระแกนนำเพื่อดูแลสุขภาพพระทุกวัดทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามถือเป็นการเพิ่มศักยภาพด้านความรู้ในการป้องกันควบคุมโรคต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อน
ด้านนพ.มงคล ณ สงขลา ประธานคณะคณะอนุกรรมการป้องกัน ควบคุมและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 สสส. กล่าวว่า ข้อมูลจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พบว่า พระสงฆ์ทั่วประเทศมีประมาณ 250,000 รูป อนุกรรมการฯ จึงได้สนับสนุนความรู้และผลิตสื่อ เพื่อเผยแพร่ไปสู่พระสงฆ์ วัด และพุทธศาสนิกชน ทั่วประเทศ โดยพุทธศาสนิกชนทุกคนต้องปฏบัติตามดังนี้ คือ 1.ประชาชนที่มาประกอบศาสนกิจในวัดต้องได้รับการคัดกรองไข้หวัดทุกราย 2.ผู้ที่มีอาการไข้หวัดต้องสวมผ้าปิดปากขณะที่ร่วมงาน 3.ผู้ที่ทำหน้าที่คัดกรอง ต้องรายงานผู้ที่มีอาการไข้หวัดเข้าศูนย์ปฏิบัติงานไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่2009 ของตำบลทุกครั้งภายใน 2 ชั่วโมง 4.การนำอาหารมาเลี้ยงพระต้องเป็นอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ 5.ผู้ที่ยกอาหารให้กับพระ รวมถึง ฆราวาส จะต้องล้างมือก่อนตักหรือเสิร์ฟทุกครั้ง 6. การถวายอาหารพระต้องมีช้อนกลางทุกครั้ง
พระธรรมกิตติเมธี โฆษกมหาเถรสมาคม กล่าวว่า การถวายความรู้ให้กับพระสงฆ์ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะอย่างน้อยจะช่วยลดการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ได้ผลดีในระดับหนึ่ง ต่อไปพระสงฆ์จะสามารถดูแลป้องกันตัวเองคนรอบข้างได้ นอกจากนี้ยังเป็นการนำเอาความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอดให้กับพระสงฆ์ทั่วประเทศรวมทั้งประชาชนที่เดินทางมาฟังเทศน์โดยการสอดแทรกความรู้เรื่องการป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้กับประชาชนรับฟัง
ที่มา: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่ Team content www.thaihealth.or.th
Update: 08-10-52
อัพเดทเนื้อหาโดย: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่