สสส.จัดประกวดสื่อดิจิตอลเพื่อการเรียนรู้

หวังกระตุ้นการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์

           ศธ.จับมือ สสส. จัดงาน มหกรรมอินเทอร์เน็ตปลอดภัยและสร้างสรรค์ ครั้งที่ 3 ประกวดสื่อดิจิตอลเพื่อการเรียนรู้ หวังเพิ่มสื่อการสอนที่แปลกใหม่ผ่านอินเทอร์เน็ต พร้อมส่งเสริมเยาวชนใช้พื้นที่โลกไซเบอร์อย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์

 

           (30 ม.ค.) กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดงาน มหกรรมอินเทอร์เน็ตปลอดภัยและสร้างสรรค์ ครั้งที่ 3 เพื่อประกวดสื่อดิจิตอลเพื่อการเรียนรู้ พร้อมมอบถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ อุทยานการเรียนรู้ (TK Park) อาคารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

 

นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ศธ. ได้ร่วมมือกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตสร้างสรรค์และปลอดภัย โดยได้รับการสนับสนุนจาก สสส. จัดการประกวดสื่อดิจิตอลเพื่อการเรียนรู้ ครั้งที่ 1 ในรูปแบบเว็บไซต์ และสื่อสารคดีประวัติศาสตร์และสถานที่ท่องเที่ยวท้องถิ่น กำหนดส่งผลงานเข้าประกวดระหว่างวันที่ 14 ตุลาคม  31 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการเพิ่มเนื้อหาการเรียนรู้ผ่านทางอินเทอร์เน็ตและยังส่งเสริมให้เยาวชนใช้พื้นที่ใหม่ในโลกดิจิตอลเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์

 

            หากดูจากพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนไทยในขณะนี้ นับว่ากำลังเข้าขั้นน่าเป็นห่วง โดยผลการศึกษาของโครงการ Child Watch พบว่า เด็กไทยไม่ชอบไปโรงเรียนกันมากขึ้น และมีนิสัยการเรียนรู้ที่ลดลง มีเพียงแค่ 27เท่านั้นที่ชอบอ่านหนังสือเป็นงานอดิเรก ส่วนเด็กที่ชอบไปโรงเรียนมาก ลดลงจาก 43% เหลือเพียงแค่ 38% โดยเฉพาะเด็กที่กำลังเข้าสู่ชั้นมัธยม สาเหตุหนึ่งมาจากกวดวิชา ทัศนคติต่อครู-อาจารย์ และความเครียดต่อสภาพความรุนแรงในโรงเรียน ดังนั้นการพัฒนาให้โรงเรียนเป็นแหล่งที่น่าเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน มีการนำสื่อการสอนที่แปลกใหม่เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้ จึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง เพื่อให้เกิดเนื้อหาการเรียนการสอนที่หลากหลาย และเป็นทางเลือกในการค้นคว้าของเยาวชนต่อไป รมช.ศธ. กล่าว

 

           ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ รองผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า จากผลการศึกษาของศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ประมาณการว่าในปี 2551 ที่ผ่านมา มูลค่าตลาดของธุรกิจสถาบันกวดวิชาจะเพิ่มขึ้นถึง 5,900 ล้านบาท โดยปัจจัยที่มีผลต่อการขยายตัวของธุรกิจสถาบันกวดวิชามาจากอัตราการแข่งขันเพื่อการศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาภาครัฐสูงอย่างต่อเนื่อง และการสอนของแต่ละโรงเรียนมีมาตรฐานไม่เท่ากัน ดังนั้น การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนที่มีความหลากหลายให้เด็กได้เข้าถึงโดยง่าย เป็นการกระตุ้นการเรียนรู้ด้วยตนเองของเด็กและเยาวชน สสส.จึงเข้าไปสนับสนุนให้เกิดเนื้อหาการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์ โดยคาดหวังว่าโรงเรียนและเยาวชนจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอน รวมถึงเป็นผู้พัฒนาให้เกิดเนื้อหาที่สร้างสรรค์และมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 

            สำหรับสื่อการสอนดิจิตอลที่ชนะเลิศการประกวดในครั้งนี้ นอกจากโรงเรียนที่ชนะเลิศในการประกวดจะได้นำชุดการเรียนรู้นี้ไปใช้แล้ว คาดว่ายังมีเด็กและครูผู้สอน จะได้ประโยชน์อีกมากมายหลายอย่าง เพราะสื่อการเรียนการสอนที่ชนะเลิศการประกวด จะถูกบรรจุอยู่ในเว็บไซต์ www.sema.go.th และ www.Thaigoodview.comที่มีผู้เข้าชมไม่น้อยกว่า 300,000  600,000 คน/เดือน เพื่อเข้าค้นคว้าหาข้อมูล ศึกษาวิชาความรู้ รวมถึงการเล่นเกมตอบปัญหาซึ่งถือเป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเองอย่างสร้างสรรค์ สำหรับโรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร 400 แห่ง จะจัดทำในรูปแบบซีดี เพื่อให้เด็กนักเรียนในชนบทได้เข้าถึงให้ได้มากที่สุด รองผู้จัดการ สสส.กล่าว

 

            นายจักรกฤษณ์ แก้วมงคล ตัวแทนกลุ่มโรงเรียนกุดบงพิทยาคาร จ.หนองคาย ได้รับรางวัลชนะเลิศประเภททีม โรงเรียนทั่วไป กล่าวว่า ผลงานที่ทีมส่งประกวดในครั้งนี้มีชื่อว่า ระบบคลื่นไมโครเวฟ ซึ่งเกิดความคิดมาจากการเรียนการสอนจริงๆซึ่งการเรียนแต่ในตำราอย่างเดียว ไม่สามารถจินตนาการหรือมองเห็นภาพของคลื่นไมโครเวฟออกได้ จึงคิดสร้างสื่อดิจิตอลนี้ขึ้นมา เพื่อให้นักเรียนได้มองเห็นการเคลื่อนไหวของคลื่นจริงๆได้อย่างชัดเจน โดยเนื้อหาของระบบคลื่นไมโครเวฟนี้สามารถใช้ในการเรียนการสอนผ่านทางอินเทอร์เน็ตที่มีทั้งภาพนิ่ง ภาพการเคลื่อนไหวของคลื่น และเสียงดนตรีประกอบ เพื่อเพิ่มความเข้าใจให้ง่ายยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

            นางสาวสุพรรณวดี เพชรเรียง อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี โรงเรียนเกาะพะงันศึกษา จ.สุราษฎร์ธานี  ได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทบุคคล กล่าวว่า ดีใจสำหรับรางวัลชิ้นนี้ เพราะเป็นความตั้งใจจริงที่อยากจะให้มีสื่อดีๆไว้สำหรับนักเรียนได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ สำหรับผลงานที่ส่งเข้าประกวดชิ้นนี้มีชื่อเรื่องว่าเคมีอินทรีย์เบื้องต้น เป็นบทเรียนสำเร็จรูปวิชาเคมี ซึ่งในชิ้นงานนี้จะเป็นสื่อประกอบการเรียนการสอนที่จะทำให้นักเรียนได้เรียนรู้และเข้าใจได้มากยิ่งขึ้นว่าเคมีอินทรีย์ว่าคืออะไร และความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสารประกอบไฮโดรคาร์บอน ซึ่งถือเป็นสื่อใหม่ๆที่เพิ่มแรงดึงดูดด้านความสนใจของนักเรียนได้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย

 

 

 

 

 

 

เรื่องโดย วีรญาน์ จันทร์นวล Team Content www.thaihealth.or.th


Shares:
QR Code :
QR Code