สร้างเด็กให้ ‘ดีในเนื้อแท้’

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ


ภาพประกอบจากเว็บไซต์ eduzone 


สร้างเด็กให้ 'ดีในเนื้อแท้' thaihealth


สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค. )ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิสยามกัมมาจล  จัดงานเสวนาวิชาการและเปิดตัวหนังสือ "ครูแท้ แพ้ไม่เป็น" หนังสือเล่มใหม่ ของ  เรฟ เอสควิท ครูโรงเรียนประถมศึกษาโฮบาร์ต เกี่ยวกับบทบาทของครูมีส่วนสำคัญในการกำหนดอนาคตนักเรียน ให้ทันโลกยุคดิจิทัลได้อย่างไร


นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการ สสค. เปิดวงเสวนา โดยเท้าความว่า ครูเรฟเคยเล่าไว้ในหนังสือเล่มใหม่ของเขาเกี่ยวกับ การสอบวัดความรู้ และคะแนนที่ได้อาจไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด เพราะมีบางสิ่งสำคัญกว่าการเรียนตามตำรา


"ผลลัพธ์ที่บ่งชี้ว่า ประสบความสำเร็จในการเรียน ชั้นเรียนที่ดีจะต้องสอนให้เด็กรักที่จะเรียนรู้ จากแหล่งความรู้รอบตัวและเป็นเด็กดี แต่ความดีที่ว่านี้ ไม่ใช่ความดีที่เป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้ ไม่ใช่ดีเพราะปัจจัยภายนอก ดีเพราะทำตามระเบียบโรงเรียน เพราะต้องการประจบครู เพราะประสงค์ต่อรางวัลหรือการยกย่อง หรือได้รับการอบรมสั่งสอนให้ต้องทำแต่ต้องดีใน เนื้อแท้ ทำดีเพราะมีมโนสำนึก ที่คำนึงถึงคนอื่นอย่างเห็นเห็นอกเห็นใจ"


ครูเรฟเริ่มต้นการเสวนาด้วยความเห็นอกเห็นใจครูไทยว่า นอกจากภาระในการสอนแล้ว ครูทั่วโลกกำลังรับมือโลกสมัยใหม่ที่คอยแย่งความสนใจของเด็กจากการเรียนซึ่งมาพร้อมกับโลกอินเทอร์เน็ต แต่สิ่งที่ครูจะสูญเสียไปไม่ได้ นั่นคือ การรู้จักเด็กอย่างถ่องแท้ก่อนเริ่มการสอน โดยหาช่องทางช่วงชิงความสนใจของเด็กมาจากเกมคอมพิวเตอร์และสิ่งยวนใจสารพัด


ครูเรฟ เริ่มทำความรู้จักลูกศิษย์ ก่อนสอน โดยใช้หลักคุณธรรม 6 ระดับ เป็นเสมือนพิมพ์เขียวสำรวจเด็กในห้อง และผลักดันให้นักเรียนพัฒนาตัวเอง คุณธรรมทั้ง 6 ระดับ ประกอบด้วย ระดับที่ 1  เด็กตั้งใจเรียนเพราะไม่อยากมีปัญหา ระดับที่ 2  เรียนเพราะอยากได้รางวัล เพราะเป็นการติดสินบน ระดับที่ 3  เรียนเพื่ออยากเอาใจครู พ่อแม่ ระดับที่ 4  เรียนเพราะปฏิบัติตามกฎ ระดับที่ 5  เรียนเพราะเกรงใจคนอื่น และระดับที่ 6  เรียนเพราะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองยึดถือ เขายอมรับว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสอนเด็กซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีพ่อแม่อยู่ที่บ้าน ไม่ได้พูดภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก


"ผมมีเด็กมากกว่า 30 เปอร์เซ็นต์เรียนไม่จบมัธยมศึกษาก่อนอายุ 16 ปี  หากไม่ลาออกกลางคันเพราะสาเหตุต่างๆ  ก็ถูกไล่ออกจากโรงเรียนเพื่อเข้าไปอยู่ร่วมกับแก๊งอันธพาล ต้องกลายเป็นเด็กติดยา นักเรียนหญิงก็ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร  ขณะที่ส่วนหนึ่ง หากเรียนจบแล้วก็วางมือจากการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น ไม่ได้มุ่งหน้าเข้าสู่มหาวิทยาลัย แต่เด็กสร้างเด็กให้ 'ดีในเนื้อแท้' thaihealthนักเรียนห้องผมนั้นมีชีวิตที่ต่างออกไป พวกเขาเลือกที่จะมีชีวิตที่ดี ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมนอกโรงเรียน ที่ไม่ได้เอื้ออำนวยนัก และเห็นตรงกันว่า  สิ่งที่ได้จากการเรียนรู้ในห้องเรียนจะช่วยให้พวกเขาออกไปต่อสู้กับโลกภายนอกได้"   เรฟ กล่าว


และเสริมว่า เด็กในห้องเรียนที่ 56  ไม่เคยโดดเรียน ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ต่อหน้าครู นักเรียนห้องนี้ยืนหยัดเพื่อตัวเอง จากเหตุผลหลายประการประกอบกัน ปัจจัยที่เรฟบอกว่า ต้องเริ่มจากครู ที่จะต้องเป็นต้นแบบที่ดีให้เด็กเห็น อยากให้นักเรียนเป็นอย่างไร ครูก็ต้องเป็นอย่างนั้นตลอดเวลาทั้งในและนอกห้องเรียน เพราะนักเรียนนั้นจับตามองครูอยู่ตลอดเวลา มีครูมากมายที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม แต่กลับอยากเห็นเด็กประพฤติตัวดี


กฎข้อแรกของการเป็นครูคือ ต้องทำให้นักเรียนรู้สึกปลอดภัย การสร้างบรรยากาศที่น่าหวาดกลัวจึงไม่ใช่วัตถุประสงค์ในการเรียนรู้ และเด็กจะต้องเข้าใจว่า แม้จะพยายามเพียงไร ก็อาจจะเผลอสร้างปัญหาที่คนอื่นไม่ชอบ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายหรือแก้ไขไม่ได้


"ความพยายามทำดีหรือตั้งใจเรียนเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา คือคุณธรรมระดับต้น ๆ แต่สิ่งที่สำคัญ คือ ต้องไม่ทำดีเพียงเพื่อรู้ว่า ต้องทำเพราะเป็นระเบียบเป็นกฎเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติ แต่ทำเพราะไม่ต้องการให้การกระทำของตัวเองรบกวนคนอื่น เช่นเดียวกับที่เด็กเลือกอ่านหนังสือเพราะอยากอ่าน แต่ไม่ใช่อ่านเพราะครูตั้งรางวัลให้กับการอ่าน เด็กต้องตระหนักได้ว่า การเลือกอ่านหนังสือ อย่างตั้งใจ คือรางวัลในตัวมันเอง"


ในทัศนะของครูเรฟ การปฏิบัติตัวตามหลักคุณธรรมขั้นที่สูงขึ้นในระดับที่  1-5 นั้น อาจไม่ใช่เรื่องยากและท้าทายความสามารถของทั้งครูและเด็ก แต่คุณธรรมระดับที่ 6 จะเป็นบทพิสูจน์สำคัญถึงการเปลี่ยนแปลงภายในตัวเด็กเอง เพราะเป็นการเรียนรู้ที่จะประพฤติตัวดีเพราะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองยึดถือ ซึ่งการเรียนรู้ที่จะไปถึงจุดนี้อาจต้องใช้เวลาทั้งชีวิต


เรฟยกตัวอย่างคุณธรรมระดับนี้ จากเด็กในห้องที่ชื่อ "ฟิลลิป" เด็กซึ่ง ไม่ได้มีผลการเรียนที่ดีเยี่ยม เพื่อนๆ จดจำฟิลลิปในภาพของเด็กผู้ชายเม็กซิกันที่มีผมสลวยสีบลอนด์ทอง แต่วันหนึ่ง ฟิลลิปกลับมาเยี่ยมชั้นเรียนเก่าห้อง 56 เมื่อเปิดประตูเขามาในห้อง นักเรียนที่เรียนอยู่รวมถึงตัวครูเรฟ ต่างประหลาดใจ ในรูปลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของเขาเพราะ ฟิลลิปปรากฏตัวด้วยศีรษะปราศจาก เส้นผมสีบลอนด์ทองที่เคยทำให้เขาดูโดดเด่นกว่าคนอื่น


เรฟถามฟิลลิป ว่าเกิดอะไรขึ้น  ฟิลลิปเล่าว่า เพื่อนร่วมชั้นเรียนมัธยมใน โรงเรียนของเขาคนหนึ่ง ป่วยเป็นโรคมะเร็ง เธอเข้ารับการรักษาด้วยการทำเคมีบำบัด ในโรงพยาบาล ส่งผลกระทบให้ผมร่วง เด็กผู้หญิงเคราะห์ร้ายคนนั้นก็กลับมาเรียน โดยมีผ้าคลุมปกปิดศีรษะไว้


"ผมรู้สึกว่าเธอมาเรียนโดยรู้สึกอับอายในสภาพร่างกายของตัวเอง แล้วก็มีเด็กอันธพาลแกล้งเธอด้วยการดึงผ้าคลุมศีรษะออกและหัวเราะเยาะศีรษะที่ไร้ เส้นผมของเธอ และบอกว่า เธอตายแน่! ผมจึงตัดสินใจตัดผมให้เธอ"


ครูเรฟบอกว่า วีรกรรมของฟิลลิป คือคุณธรรมระดับที่ 6 ซึ่งหายาก เป็นความดีในเนื้อแท้ที่พึงประสงค์ แม้ฟิลลิป จะเป็นนักเรียนที่ไม่ได้เรียนเก่งที่สุด ในชั้น แต่เขาจะเป็นนักเรียนที่ดี และ น่าจดจำไว้ในใจของใครก็ตามที่ได้ยินเรื่องราวของเขา


นอกเหนือจากเรื่องราวที่ครูเรฟ ยกตัวอย่างมา ยังมีเรื่องราวและ รายละเอียดอีกมากมายที่นำมาเล่าไว้ในหนังสือ "ครูแท้แพ้ไม่เป็น" สำหรับผู้ที่สนใจหนังสือเล่มนี้ สามารถติดต่อสอบถามสำนักพิมพ์สวนเงินมีมา  www.suan-spirit.com

Shares:
QR Code :
QR Code