สร้างสุขภาวะทางปัญญาพัฒนา “จิต”
บริการจากคนโรงพยาบาลด้วยหัวใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ หาแนวทางสร้างสังคมไทยให้มีสุขภาวะทางจิต ระบุ คนไทยยึดติดกับบริโภคนิยมจนขาดความสุขที่แท้จริง
กิจกรรม “การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านเรื่องเล่า : วิถีแห่งการบริการด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ของคนโรงพยาบาล” เพื่อหาแนวทางการสร้างและพัฒนาสังคมไทยให้มีสุขภาวะทางจิตปัญญา โดยมีสาเหตุจากกระแสของโลกาภิวัตน์และทุนนิยมเข้ามามีอิทธิพลครอบงำความคิด ส่งผลให้สังคมไทยยึดติดและจมดิ่งอยู่กับความสุขในกระแสการบริโภคนิยมเพียงอย่างเดียว
นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายวิชาการ แผนงานพัฒนาจิตเพื่อสุขภาพ กล่าวถึงการสร้างสังคมที่มีสุขภาวะทางจิตปัญญาโดยเข้าไปจัดการความรู้ในระบบสุขภาพว่า สถานพยาบาลเป็นสถานที่ซึ่งผู้ที่เข้ามาก็มักจะเป็นทุกข์จากการเจ็บป่วย ผู้ที่ให้บริการก็มีความทุกข์จากความเครียดในการให้บริการ จึงใช้จุดนี้เป็นยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนสังคมที่มีสุขภาวะทางจิตวิญญาณ
ทั้งนี้คาดหวังว่ากิจกรรมนี้จะทำให้แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทุกคนรู้จักวิธีให้บริการผู้ป่วยอย่างมีความสุข รู้จักที่จะพัฒนาและปรับเปลี่ยนวิธีคิดในการทำงานให้มีสุขภาวะทางจิตปัญญา ซึ่งจะทำให้เขาเหล่านั้นเป็นแบบอย่างให้กับประชาชนทั่วไป รวมถึงการทำให้ผู้ป่วยเข้าใจและอยู่ร่วมกับโรคต่างๆ ที่เป็นอยู่ได้อย่างมีความสุข
คุณสมหญิง สายธนู ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายบริหาร มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์ กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าว จัดเพื่อจัดการความรู้ในด้านการพัฒนาจิตเพื่อสุขภาพทั้ง 4 ภาคอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีทีมนักวิชาการจากหลายแขนงมาร่วมกันวิเคราะห์และสังเคราะห์ออกมาเป็นองค์ความรู้เพื่อให้ได้แนวทางในการพัฒนาจิตเพื่อสุขภาพ 4 แนวทางคือ แนวคิดและวิธีในการทำงานเพื่อให้เกิดการพัฒนาจิตปัญญา, กิจกรรมที่จะช่วยให้เกิดการพัฒนาจิตปัญญา, การจัดองค์กรที่เอื้อต่อการพัฒนาจิตปัญญา และระดับของการพัฒนาจิตปัญญารวมทั้งการประเมินและตัวชี้วัด
ซึ่งองค์ความรู้ในเรื่องการพัฒนาสุขภาวะทางจิตปัญญาที่ได้มาจากการบูรณาการความรู้ของบุคลากรจากสถานพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ จะถูกนำไปขยายผลการดำเนินงาน เพื่อให้สังคมไทยเกิดความตื่นตัวและให้ความสำคัญกับการพัฒนาจิต ปรับวิธีคิด และเรียนรู้ที่จะมีความสุขในสังคมปัจจุบันด้วยปัญญา เกิดการต่อยอดไปสู่องค์กรอื่นในสังคม ทำให้สังคมไทยสามารถขับเคลื่อนไปได้อย่างสมดุลท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์ในโลกของทุนนิยมที่เชี่ยวกราก
ที่มา: หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย
update 07-11-51