สพฐ.เสนอโครงการ 1 โรงเรียน 100 ชมรม 10,000 คนเก่ง

ชี้สนับสนุนกิจกรรมดีๆ ต้านเด็กติดเกม

 สพฐ.เสนอโครงการ 1 โรงเรียน 100 ชมรม 10,000 คนเก่ง


          ปดส.” ปูพรมตรวจจับ “ร้านเกมผิดกฎหมาย-ไร้จริยธรรม” ทั่วประเทศ ขานรับปกป้อง สิทธิเด็กไม่ให้ตกเป็นเหยื่อติดเกม ผู้การวิสุทธิ์อัดเจ้าหน้าที่รัฐเห็นแก่ส่วย-แก้ปัญหาแบบไฟไหม้ฟาง ทำให้เด็กเป็นเหยื่อไม่สิ้นสุด สพฐ.รับลูก ออก 3 มาตรการป้องกัน คลอดโครงการ 1 โรงเรียน 100 ชมรม 10,000 คนเก่ง

 

          ปัญหา เด็กติดเกมอันเนื่องจากสิทธิเด็กถูกละเมิดจากผู้ใหญ่ ที่มุ่งหวังกำไรทางธุรกิจเกมและร้านเกมเป็นหลัก ที่ผ่านมาการปกป้องสิทธิเด็กไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเสียคนเพราะติดเกม หรือมีพฤติกรรมลอกเลียนแบบเกมที่ไม่เหมาะสมยังไม่เข้มแข็งเป็นระบบ เดลินิวส์จึงนำเสนอปัญหานี้อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด หน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ให้ความสำคัญแลเห็นปัญหามากขึ้น หนึ่งในนั้นคือตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดต่อเด็ก เยาวชน และสตรี (ปดส.)

 

          เมื่อวันที่ 22 ก.ย. พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปดส. กล่าวว่า เด็กติดเกมเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก เกี่ยวพันทั้งเรื่องความรุนแรง ลามกอนาจาร และการพนัน เป็นสิ่งกระตุ้นอย่างหนึ่งที่กลายเป็นปัญหาสังคมที่ใหญ่มากตามมา โดยปัจจุบันเด็กไทยถูกแวดล้อมไปด้วยร้านเกม ทั้งที่ถูกกฎหมายกว่า 20,000 ร้าน และที่ผิดกฎหมายอีกกว่า 50,000 ร้านทั่วประเทศ เด็กที่ตกเป็นเหยื่อจากการติดเกมนั้น ส่วนมากเป็นเด็กมัธยมศึกษาตอนต้น การติดเกมทำให้เกิดเรื่องร้ายตามมาได้หลายด้าน เช่น ติดอบายมุขต่างๆ สุรา การพนัน ยาเสพติด รวมถึงการค้าประเวณี และสุดท้ายเด็กก็เสี่ยงที่จะหลุดออกจากระบบการศึกษา

 

          ผบก.ปดส. กล่าวต่อไปว่า การแก้ปัญหาเด็กติดเกมนั้น ทุกฝ่ายต้องช่วยกันอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นสถาบันครอบครัวที่ต้องเอาใจใส่ดูแลลูกมากๆ ส่วนที่โรงเรียนคุณครูก็ต้องคอยสอดส่องอีกทาง โดยเฉพาะห้องคอมพิวเตอร์ ดังนั้น ปัญหาเด็กติดเกมจึงเป็นปัญหาที่สังคมต้องร่วมกันรับผิดชอบ และทาง  ปดส.ได้ทำเรื่องเสนอรายชื่อเจ้าหน้าที่ของ ปดส. กับกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจร้านเกมตาม พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551 ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้ถือกฎหมายนี้อยู่ โดยจะเตรียมปูพรมจับร้านเกมที่ผิดกฎหมายทั่วประเทศ และทางหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายตำรวจ กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ก็จะเข้าจัดการปัญหาเด็กติดเกมร่วมกันต่อไป

 

          จะไม่ใช่เป็นการจับแค่ครั้งเดียว แล้วเลิก แต่จะจับซ้ำอีกเรื่อยๆ ซึ่งปัญหานี้จะหมดไปได้ ในด้านหนึ่งเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายต้องเอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหา ไม่รับผลประโยชน์จากร้านเกมผิดกฎหมาย ปัญหาเด็กติดเกมนี้หากยังปล่อยปละละเลย หรือแก้ปัญหาแบบไฟไหม้ฟาง เด็กก็จะกลายเป็นเหยื่อของเกมไม่เหมาะสม และของร้านเกมที่เปิดกันแบบไม่มีคุณธรรมต่อไปไม่มีวันสิ้นสุดผู้บังคับการ ปดส. กล่าว

 

          ด้าน นพ.บัณฑิต สอนไพศาล ผอ.สถาบันสุขภาพจิตเด็กวัยรุ่นและราชนครินทร์ เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกับคุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการ  การศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เกี่ยวกับการป้องกันปัญหาเด็กติดเกมนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้มีมาตรการป้องกันทั้งระยะสั้นและระยะยาว โดย  ระยะสั้นมีการดำเนินการไว้ 3 แนวทาง ได้แก่ 1.จะมีการสอนทักษะชีวิตเกี่ยวกับการเรียนรู้อินเทอร์เน็ตเข้าไปอยู่ในชั่วโมงการสอนวิชาไอที 2.ให้โรงเรียนได้มีการหารือกับผู้ปกครองในการช่วยเหลือดูแลเด็กยุคไซเบอร์ และ 3.สนับสนุนกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ ให้กับเด็ก เพื่อให้เด็กมีพื้นที่กล้าแสดงออกและแสดงความสามารถในทางที่ถูก เพราะความจริงแล้วปัญหาของเด็กติดเกมมักจะมาจากการที่เด็กไม่มีกิจกรรมทำ จนต้องแสวงหาความภาคภูมิใจของตนเองในรูปแบบอื่น ขณะเดียวกันที่ประชุมยังได้มีแนวคิด 1 โรงเรียน 100 ชมรม 10,000 คนเก่ง โดยต้องการให้โรงเรียนต่างๆ สนับสนุนการมีชมรมให้มากพอกับความต้องการของเด็ก เพื่อจะได้ค้นพบเด็กที่เก่งตามความสามารถของตนเองด้วย

 

          วันเดียวกัน ที่ จ.ขอนแก่น นางนี (นามสมมุติ) ชาวบ้าน ต.แดงใหญ่ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.อิทธิพล เนตรไธสงค์ สวส. สภ.เมืองขอนแก่น ว่า ด.ช.กบ (นามสมมุติ) อายุ 12 ขวบ บุตรชายได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลานานร่วม 2 สัปดาห์แล้ว โดยหนีออกจากบ้านไปทั้งชุดนักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนเทศบาลแห่งหนึ่ง กระทั่งช่วงเย็นวันที่ 19 ก.ย. ลูกชายได้โทรฯ มาหาตน บอกว่าได้หางานทำอยู่ที่ จ.เลย แล้ววางสายไป ตนตกใจมากเพราะหวั่นเกรงว่าลูกชายจะถูกหลอกไปใช้แรงงานเด็ก และถูกล่อลวงไปในทางไม่ดี จึงตัดสินใจนำเรื่องเข้าแจ้งความ โดยก่อนหน้านี้ลูกชายตนติดเกมคอม พิวเตอร์ที่ร้านเกมแถวโรงเรียนมานานหลายเดือนแล้ว ระยะหลังถึงขั้นนอนค้างคืนที่ร้านเกม ตนได้ว่ากล่าวตักเตือนและทำโทษให้ประพฤติตนเสียใหม่แต่ก็ไม่ได้ผล ลูกชายก็ยังหนีเรียนไปเล่นเกมและไม่กลับบ้านอีก ด้านพนักงานสอบสวนได้ประสานไปยังโรงพัก สภ.เมืองเลย เพื่อช่วยติด ตามเด็กกลับสู่อ้อมอกพ่อแม่ต่อไป

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

 

 

update 23-09-51

 

 

 


 

 

Shares:
QR Code :
QR Code