สพฐ.ระดมสมองแก้ไขปัญหา นร.ติดเกม
เผยพบผู้ปกครองคุมลูกตัวเองไม่ได้
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานประชุมระดมความคิดเห็นเพื่อวางแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหานักเรียนติดเกม โดยมีรองผู้อำนวยการโรงเรียน เช่น โรงเรียนสีกัน (วัฒนานันท์อุปถัมภ์) โรงเรียนเทพลีลา โรงเรียนดอนเมืองจาตุรจินดา ฯลฯ เครือข่ายผู้ปกครอง บุคลากรที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือดูแลนักเรียน ประมาณ 20 คนเข้าร่วมประชุม ซึ่ง คุณหญิงกษมา กล่าวยอมรับว่า ปัญหาเด็กติดเกมมีอยู่ทั่วประเทศ และไม่ใช่แค่ในระดับมัธยมเท่านั้นที่มีปัญหารุนแรง แต่พบว่าในระดับประถมก็มีไม่น้อยไปกว่ากัน เพราะตนประสบกับตนเองว่าแม้แต่เด็ก 10 ขวบก็ติดเกมแล้ว ซึ่งทางโรงเรียนส่วนใหญ่ก็ออกมายอมรับว่าที่ผ่านมาพบมีร้านเกมอยู่บริเวณรอบสถานศึกษาเป็นจำนวนมาก ซึ่งครูฝ่ายปกครอง ไม่สามารถเข้าไปตรวจค้นได้เนื่องจากไม่มีกฎหมายรองรับ และบางครั้งครูที่เข้าไปตรวจสอบในร้านเกมต่างๆ ยังถูกข่มขู่อีกด้วย
“อยากให้ทุกโรงเรียนไปพูดคุยกับนักเรียนว่านักเรียนมีความคิดในการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร เพราะต้องการให้ทุกฝ่ายได้รับฟังการแก้ปัญหาผ่านมุมมองของเด็กๆ จากนั้นจะนำมาประมวลหาแนวทางแก้ไขในระดับจังหวัด และคัดเลือกประเด็นที่สำคัญเข้าสู่การประชุมในระดับชาติ ซึ่งจะจัดขึ้นในกลางเดือนกันยายนนี้ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมสุขภาพจิต กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ไอซีที เอ็นจีโอ เครือข่ายผู้ปกครอง ฯลฯ เข้าร่วมในช่วงประมาณเดือน ก.ย.” คุณหญิงกษมา กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ให้ความสนใจกับเรื่องนี้มากและคิดว่าน่าจะมาเป็นประธานในการแก้ปัญหา
คุณหญิงกษมา กล่าวถึงการนำเสนอแนวทางของโรงเรียนโดยสรุปว่า โรงเรียนมีข้อเสนอหลายประการ รวมถึงนำเสนอแนวทางที่เคยทำไปและได้ผล นอกจากนี้มีการเสนอให้ สพฐ.ทำการวิจัยเรื่องการสำรวจร้านเกม หรือจำนวนนักเรียนที่ติดเกม ซึ่งจุดนี้ สพฐ.คงไม่ลงไปทำเองแต่จะขอความร่วมมือจากโรงเรียนซึ่งเป็นผู้อยู่ในพื้นที่และเข้าใจปัญหาเป็นผู้ทำการสำรวจจากนั้นนำข้อมูลมารวมกันเพื่อสรุป
ด้าน นายสมโรจน์ เตียงนิล รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานบุคคล โรงเรียนเทพลีลา กล่าวว่า บริเวณ ร.ร.แวดล้อมไปด้วยร้านเกม และโรงเรียนได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนในชุมชน ทำการสำรวจร้านเกมที่อยู่บริเวณโรงเรียนซึ่งพบว่ามีเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญร้านเกมเหล่านี้ค่อนข้างเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพล ซึ่งเท่าที่ตนได้ลงพื้นที่สำรวจร่วมผู้ปกครองก็เคยโดนขมขู่หลายครั้ง
“แนวทางแก้ปัญหาของโรงเรียนที่ผ่านมา ได้จัดโครงการพุทธบุตร โดยการพาเด็กไปเข้าค่ายที่วัด พร้อมทั้งให้ความรู้เรื่องภัยที่เกิดจากการติดเกม จักกิจกรรมพี่ดูแลน้องโดยเสริมเรื่องดนตรีและกีฬา ร่วมทั้งหารือกับผู้ปกครองเกี่ยวกับปัญหาเด็กติดเกม สำหรับคนที่มีปัญหาเยอะ ซ้ำซ้อน มาร่วมแก้ไขภายใต้โครงการครอบครัวอบอุ่นด้วยสองมือแม่” นายสมโรจน์ กล่าว
ด้าน นายไชยา กัญญาพันธ์ รอง ผอ.โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์ ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร กล่าวว่า อยากให้ สพฐ.ทำวิจัยว่าทำไมปัญหาเด็กติดเกมจึงไม่ลดลงหรือทำวิจัยเปรียบเทียบปริมาณร้านเกมกับจำนวนเด็กที่ติดเกม เพราะจากการสำรวจร้านเกมรอบๆ ร.ร.พบว่าภายใน 4 เดือน มีร้านเกมเปิดเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และที่สำคัญไม่รู้ว่าร้านทั้งหมดได้จดทะเบียนโดยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ นอกจากนั้นยังพบว่าผู้ปกครองไม่สามารถควบคุมดูแลลูกของตนเองได้ ซึ่งเคยมีกรณีผู้ปกครองไม่สามารถพาลูกออกจากร้านเกมได้ จนถึงขนาดต้องโทร.ไปตามให้ครูมาช่วยพาเด็กกลับบ้าน ดังนั้นจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันประสานและทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
update : 13-08-51