สปสช.-กรมอนามัย พัฒนาไอคิวเด็กไทย
เน้นแม่และเด็ก เริ่มตั้งแต่ในครรภ์
น.พ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า นอกเหนือจากเรื่องการพัฒนาด้านการรักษาพยาบาลให้ครอบคลุมประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว สิ่งสำคัญที่ สปสช.ดำเนินการร่วมกับภาคส่วนต่างๆ คือการส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค เพราะการป้องกันเพื่อสุขภาพแข็งแรง ดีกว่าป่วยแล้วตามรักษา ซึ่งในปี 2551 มีงบประมาณสำหรับกองทุนส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศกว่า 1,462 ล้านบาท
ทั้งนี้โครงการหนึ่งที่สำคัญพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิด คือ โครงการโรงพยาบาลสายใยรักแห่งครอบครัว ซึ่งเป็นการพัฒนาสุขภาพแม่และเด็ก ตามชุดสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยดำเนินการร่วมกับกรมอนามัย มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาคุณภาพบริการอนามัยแม่และเด็กของหน่วยบริการสาธารณสุข ให้จัดระบบบริการที่ได้มาตรฐานตามกระบวนการคุณภาพตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์ คลอด หลังคลอด การเลี้ยงดูบุตรแรกเกิดถึง 5 ปี เชื่อมโยงสู่ชุมชนให้มีส่วนร่วมดำเนินงานรวมตัวเป็นชมรมต่างๆ อันจะส่งผลให้แม่-ลูกปลอดภัย ลูกได้รับการเลี้ยงดูให้เจริญเติบโต และพัฒนาการสมวัยมีระดับไอคิวเทียบเท่ามาตรฐานสากล งบประมาณในการดำเนินการนั้น สปสช.จัดสรรให้กับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขจำนวน 121 ล้านบาท
สำหรับการดำเนินการโครงการจะผ่านกรมอนามัยและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งมีกิจกรรม เช่น การส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การป้องกันและควบคุมโรคธาลัสซีเมีย การป้องกันภาวะปัญญาอ่อนจากภาวะต่อมไทรอยด์บกพร่อง การป้องกันการถ่ายทอดเชื้อเอชไอวี จากแม่สู่ลูก หญิงตั้งครรภ์ได้รับสารไอโอดีน หญิงตั้งครรภ์และเด็กแรกเกิด-5 ปี ได้เฝ้าระวังสุขภาพช่องปาก การเฝ้าระวังสุขภาพของหญิงตั้งครรภ์และบุตรด้วยตนเองโดยใช้สมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก การพัฒนาระบบบริการคลินิกฝากครรภ์คุณภาพ คลินิกเด็กดีคุณภาพ และพัฒนาชมรมสายใยรักแห่งครอบครัว โดยต้องมีชมรมสายใยรักแห่งครอบครัวอย่างน้อยใน รพ.แห่งละ 1 ชมรม เป็นต้น
ที่มา: บ้านเมือง
ภาพประกอบ: www.thaihealth.or.th
update 26-03-51