สธ.เผยวัยทำงาน เสี่ยงพิการ จากอุบัติเหตุมากสุด

คาดเข็มขัด-สวมหมวกกันน็อค เมาไม่ขับ 

              สธ. เผยตัวเลขวัยทำงาน เสี่ยงพิการมากสุดจากอุบัติเหตุปีใหม่ “เมาเหล้า”ติดอันดับ 3 ของปัจจัยเสี่ยง เป็นรอง ไม่คาดเข็มขัด-หมวกกันน็อค   2 ใน 3 ทำงานไม่ได้ ต้องมีผู้ดูแล 80%…

              เมื่อวันที่ 4 ม.ค. นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงตัวเลขความพิการจากอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเฉพาะการบาดเจ็บ รุนแรงทำให้อวัยวะสำคัญถูกทำลาย หรือสูญเสียการทำงานไปอย่างถาวร ว่า  ผลการวิจัยของศูนย์สิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ กรมการแพทย์ ศึกษาอุบัติความพิการและผลกระทบที่เกิดจากอุบัติเหตุจราจรในช่วงเทศกาลปีใหม่ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ 8 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลเลิดสิน โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า โรงพยาบาลชลบุรี โรงพยาบาลราชบุรี โรงพยาบาลพระพุทธชินราช โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โรงพยาบาลขอนแก่น และ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช

              ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า ผลการวิจัยพบว่า มีผู้พิการจากการบาดเจ็บรุนแรง หรือ ที่เรียกว่าบาดเจ็บสาหัส 4 % ช่วงอายุที่พบมากที่สุด คือ 15-29 ปี เป็นชายมากกว่าหญิง 4 เท่าตัว โดยผู้ประสบอุบัติเหตุใช้รถจักรยานยนต์ 93% ที่เหลือใช้รถยนต์กระบะ รถยนต์เก๋ง ผู้ได้รับบาดเจ็บและพิการส่วนมากเป็นผู้ขับขี่ 83% การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากการถูกชนหรือชนกัน 64%

              นพ.ไพจิตร์ กล่าวต่ออีกว่า พฤติกรรมเสี่ยงของผู้พิการที่สำคัญ 3 ประการ ได้แก่ ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 100% รองลงมา คือ ไม่สวมหมวกนิรภัย 86% และเมาเหล้า 35% สภาพความเป็นอยู่ภายหลังเกิดอุบัติเหตุพบว่า 2 ใน 3 ทำงานไม่ได้ ต้องมีผู้ดูแลมากถึง 80% ในจำนวนนี้มากที่สุด เป็นพ่อ-แม่ 64% ส่วนที่เหลือเป็นคู่สมรส

              ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวด้วยว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญของการป้องกันความพิการหลังบาดเจ็บ โดยพัฒนาทีมแพทย์ฉุกเฉินที่มีหลายระดับ เพื่อออกไปให้การช่วยชีวิตอย่างทันท่วงทีและเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บอย่างถูกวิธี ขณะนี้ มีหน่วยแพทย์ฉุกเฉินได้รับการพัฒนามาตรฐาน และขึ้นทะเบียนบริการ 10,000 ทีมทั่วประเทศแล้ว

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

update: 05-01-53

อัพเดทเนื้อหาโดย:อภิชัย วรสิทธิ์ขจร