สธ. เตือนออกพรรษา งานบุญต้องปลอดเหล้า
ฝ่าฝืนมีโทษถึงจำคุก 6 เดือน
รมช.สาธารณสุข เตือนออกพรรษา งานบุญต้องปลอดเหล้า ฝ่าฝืนจำคุก 6 เดือน โทษปรับ 10,000 บาท ชูกฐินปลอดเหล้าราชบุรี 398 วัดต้นแบบ ผู้ว่าฯลั่นเดินหน้านโยบายเต็มที่หวังลดความเสี่ยงประชาชน เผยคนไทยบริโภคน้ำเมาเฉลี่ยปีละ 46 ลิตร ขณะที่ 69% หนุนงานบุญปลอดเหล้า
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่วัดนาหนอง จ.ราชบุรี สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสำนักเครือข่ายองค์กรงดเหล้าภาคตะวันตก สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดราชบุรี โรงพยาบาลสวนผึ้ง และสำนักงานจังหวัดราชบุรี จัดพิธีประกาศเจตนารมณ์กฐินปลอดเหล้า ถวายเป็นพระกุศลงานฉลองพระชันษา 96 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โดยมีนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธี
นายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า พิธีทอดกฐิน เป็นงานบุญที่มีปีละครั้ง เป็นกาลทาน แปลว่า “ถวายตามกาลสมัย” ตามพระวินัยกำหนดไว้ คือ ในช่วงหลังออกพรรษาระยะเวลา 1 เดือน สิ้นสุดในวันลอยกระทง ในปีนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2552 ซึ่งการทอดกฐินปลอดเหล้าจะทำให้ได้อานิสงส์สูงสุดและเป็นการสืบต่อพระศาสนาอย่างแท้จริง โดยปฏิบัติตนรักษาศีล ละเว้นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตั้งแต่เริ่มเดินทาง จนถึงพิธิทอดกฐิน จึงต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจทั้งเจ้าภาพกฐิน เจ้าอาวาส คนร่วมบุญกฐิน เพื่อให้เป็นการทอดกฐินบุญอย่างแท้จริง และที่สำคัญการดื่มหรือขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในบริเวณวัดยังผิดกฎหมายอีกด้วย โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ขอชื่นชมชาวราชบุรีที่ร่วมใจกันประกาศเจตนารมณ์กฐินปลอดเหล้าทั้งจังหวัด โดยความร่วมมือของเจ้าอาวาสวัดและเจ้าภาพกฐินที่จะมาทอดกฐินที่วัดในจังหวัดราชบุรีทั้ง 398 วัด เพื่อถวายเป็นพระกุศลฉลองพระชันษา 96 ปี สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก นับเป็นแบบอย่างที่ดีที่จังหวัดต่างๆ ควรปฏิบัติตาม
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ รองผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า สถานการณ์การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของสังคมไทยในปี 2550 พบว่า จำนวนผู้ดื่มแอลกอฮอล์มีทั้งสิ้น 14.9 ล้านคน โดยในปี 2551 พบว่า ปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มต่อหัวประชากรลดลงเป็น 46 ลิตรต่อคนต่อปี ผลจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 156,105.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.99 % ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ การส่งเสริมให้ลดพฤติกรรมความเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะการลดปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถือเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งการลด ละ เลิก การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในงานบุญประเพณีของไทย ยังถือเป็นการสร้างวัฒนธรรมอันดีงามที่มีคุณค่าในสังคม อย่างไรก็ตามจากผลสำรวจการประเมินผลการรณรงค์ ปี 2551 : กรณีศึกษาประชาชนอายุ 15 ปีขึ้นไปในเขตกทม.และใน 23 จังหวัดทั่วประเทศ โดยศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จำนวนทั้งสิ้น 5,978 ตัวอย่าง พบว่า ผู้ที่เคยดื่มเครื่องดื่มในงานกฐิน มีจำนวนถึง 22% โดยเห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่เลี้ยงเหล้าในงานบุญถึง 41% ทั้งนี้ 69% เห็นร่วมกันว่า ควรจัดงานบุญประเพณีให้เป็นงานบุญที่ปลอดเหล้า
นายสุเทพ โกมลภมร ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวว่า หลังจากเทศกาลออกพรรษาจะมีประเพณีทอดกฐิน ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่ดีงามของคนไทย จึงได้ประกาศเจตนารมณ์ให้งานทอดกฐินในจังหวัดราชบุรี เป็นกฐินปลอดเหล้าถวายเป็นพระกุศลงานฉลองพระชันษา 96 ปีของสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราชฯ และเพื่อเป็นประโยชน์ในการสร้างความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน เนื่องจากที่ผ่านมาการจัดเทศกาลงานบุญประเพณีต่างๆมักมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นตัวชูโรงหลักในการจัดงาน ซึ่งหลายภาคส่วนเห็นร่วมกันว่าหากยังไม่เร่งรีบแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อความสูญเสียของประชากรในจังหวัดเพิ่มขึ้น จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่การประกาศเจตนารมณ์ทอดกฐินปลอดเหล้าในจังหวัดราชบุรี มีวัดที่แสดงเจตจำนงเข้าร่วมถึง 398 วัด และคาดว่าจะมีจำนวนวัดเข้าร่วมเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ และในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ประชาชนชาวราชบุรีกว่า 100 เครือข่ายจะร่วมกันจัดงานทอดกฐินสร้างเสริมสุขภาวะ ณ วัดประชุมพลแสน อำเภอสวนผึ้ง โดยชาวราชบุรีจะงดดื่มและงดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในระหว่างวันที่ 31 – 1 พฤศจิกายน ในอำเภอสวนผึ้ง
ที่มา: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.
update: 02-10-52
อัพเดทเนื้อหาโดย: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่