สธ.ลงนาม MOU จัดสถานที่ปลอดเหล้า เดินหน้าใช้กม.เต็มสูบ
วันที่ 11 พ.ค. นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ร่วมกับผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผู้แทนองค์การบริหารส่วนตำบล และผู้แทน สสส. เพื่อให้สถานที่ราชการและสถานที่สาธารณะที่อยู่ในกำกับดูแลของหน่วยงานภาครัฐเป็นสถานที่ปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551
ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค จะจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ จำนวน 10 ครั้ง ตามเขตรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจภูธรภาค 1-9 และส่วนกลางกรุงเทพฯ โดยครั้งแรกนี้จัดขึ้นที่จังหวัดสุโขทัย ในความรับผิดชอบของสำนักงานตำรวจภูธรภาค 6 ประกอบกอบด้วยผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากจังหวัดกำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี และจังหวัดเพชรบูรณ์
จากปีที่ผ่านมาได้จัดพิธีการลงนามร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดไปแล้ว ในปีนี้จึงได้ดำเนินงานในระดับท้องถิ่นเพื่อสร้างความร่วมมือและสร้างแนวทางให้หน่วยงานราชการและข้าราชการเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นแนวทางแก่ผู้ประกอบการของสวนสาธารณะอื่นๆ ด้วย
นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล กล่าวว่า สาระสำคัญตามบันทึกความร่วมมือครั้งนี้ คือ 1.จัดให้สถานที่ราชการและสวนสาธารณะที่อยู่ในกำกับดูแลของทางราชการปลอดการ ขายและบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามกฎหมาย 2.งดการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภท ในสถานที่ราชการและสวนสาธารณะที่อยู่ในกำกับดูแลของทางราชการ 3.จัดให้มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เฉพาะในร้านค้า หรือสโมสรที่เปิดบริการเป็นประจำหรือถาวร และได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องเท่านั้น
ทั้งนี้ ห้ามมิให้มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เฉพาะในเวลาที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น นับว่ากฎหมายนี้เป็นกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับแรกของประเทศไทย ที่มีเจตนารมณ์ในการป้องกันควบคุมผลกระทบในทุกมิติที่เกิดจากการบริโภค เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นการเฉพาะ โดยมุ่งเน้นที่การคุ้มครองเยาวชนและประชาชน
ด้าน นพ.สมาน ฟูตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สสส. กล่าวเพิ่มเติม จากผลสำรวจครัวเรือนระดับชาติ ปี 2550 พบประชากรไทยทั่วประเทศอายุ 12-65 ปี มีจำนวน 46.53 ล้านคน และในจำนวนนี้มีถึง 13.23 ล้านคน หรือร้อยละ 28.4 ดื่มเหล้าภายใน 1 ปีที่ผ่านมา จำแนกเป็นรายวันได้ดังนี้ ผู้ชายดื่มเฉลี่ย 32.80 กรัมต่อวัน ผู้หญิงดื่มเฉลี่ย 11.02 กรัมต่อวัน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมี พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ออกมาบังคับใช้แล้ว ยังพบว่าผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไปยังมีการละเมิดกฎหมายอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้มีสาเหตุมาจากการไม่ทราบข้อกฎหมายหรือทราบแต่คิดว่าไม่มีการบังคับใช้อย่างจริงจัง หรือมีการดำเนินการจริงจังเฉพาะในบางพื้นที่ นอกจากนี้การดำเนินงานในระดับพื้นที่ที่ผ่านมายังขาดการประสานความร่วมมือ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พนักงานเจ้าหน้าที่ที่แต่งตั้งตามกฎหมายของภาครัฐ ภาคเอกชนและเครือข่ายต่างๆ ขาดการบูรณาการในการดำเนินงานร่วมกันอย่างจริงจัง
ที่มา: เว็บไซต์ไทยรัฐ