สธ.รุกจับตาเฝ้าระวัง ‘หวัดนก’ พื้นที่เสี่ยง
ไข้หวัดนกระบาดประเทศเพื่อนบ้านของไทยถี่ขึ้น แม้ไทยยังไม่พบผู้ป่วยมานานกว่า 5 ปี ก็ยังวางใจไม่ได้ จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมในการควบคุมโรค โดยกำชับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด มิสเตอร์ไข้หวัดนก ผู้อำนวยการโรงพยาบาล สาธารณสุขอำเภอ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เพื่อให้เฝ้าระวังอย่างเต็มที่
นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข(สธ.) เป็นประธานเปิดการเปิดประชุมผู้บริหารและผู้รับผิดชอบงานป้องกันโรคไข้หวัดนกในพื้นที่เสี่ยง และพื้นที่จังหวัดชายแดน รวม 43 จังหวัด จำนวนกว่า 300 คน เพื่อเร่งรัดการเตรียมความพร้อมป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดนก หรือเชื้อไวรัส เอช 5เอ็น 1 (h5 n1) ในพื้นที่ โดยนายวิทยากล่าวว่า ขณะนี้การระบาดของโรคไข้หวัดนกที่เกิดขึ้นในประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศเพื่อนบ้านของไทยมีความถี่ขึ้น ในปี 2555ตั้งแต่ 1 ม.ค.-24ก.พ. องค์การอนามัยโลกรายงานพบเชื้อไข้หวัดนกในสัตว์ปีก 8ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ ภูฏาน เขตปกครองพิเศษฮ่องกง อินเดีย อิหร่าน เนปาล เวียดนาม และแอฟริกาใต้ และมีรายงานพบผู้ป่วยไข้หวัดนกในคน 8ราย เสียชีวิต 6ราย ใน 5ประเทศ ได้แก่ อียิปต์ จีน เวียดนาม อินโดนีเซีย และกัมพูชา และแม้ว่าประเทศไทยไม่พบผู้ป่วยจากเชื้อดังกล่าวมานานกว่า 5ปีแล้ว ก็ยังวางใจไม่ได้ จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมในการควบคุมโรคที่อาจเกิดขึ้น โดยกำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) มิสเตอร์ไข้หวัดนก ผู้อำนวยการโรงพยาบาล สาธารณสุขอำเภอ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) เพื่อให้เฝ้าระวังอย่างเต็มที่หากพบความผิดปกติให้รีบแจ้งกระทรวงฯ ทันที
น.พ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ. กล่าวว่า ผลการเฝ้าระวังเชื้อไวรัสไข้หวัดนกในประเทศไทยจนถึงขณะนี้ ยังไม่พบการ กลายพันธุ์ แต่อย่างไรก็ตามเชื้อไวรัสนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมอยู่เสมอตามธรรมชาติจึงมีโอกาสกลายพันธุ์ และมีสัตว์ปีกเป็นตัวแพร่เชื้อจึงยังคงมีความเสี่ยงต่อการเกิดระบาดใหญ่อยู่ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้สำรองยาต้านไวรัส 2ชนิดในโรงพยาบาลทุกแห่ง เพื่อดูแลรักษาผู้ป่วยคือยาโอเซลทามิเวียร์และยาซานามิเวียร์ ซึ่งยานี้ยังใช้รักษาได้ผลดี โดยไทยพบผู้ป่วยไข้หวัดนกระหว่างเดือน ม.ค.47ถึงเดือน ก.ค.49รวม 25คน เสียชีวิต 17ราย ขณะที่สถานการณ์ทั่วโลก ตั้งแต่ พ.ศ.2546-24ก.พ.55พบผู้ป่วยไข้หวัดนก 587คน เสียชีวิต 345ราย
ศ.เกียรติคุณ นพ.ประเสริฐ ทองเจริญ ประธานมูลนิธิส่งเสริมการศึกษาไข้หวัดใหญ่ และที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดนกนั้นยังเป็นเรื่องที่น่าห่วงเพราะเชื้อยังไม่ตายและมีแนวโน้มจะติดต่อจากคนสู่คนได้ โดยล่าสุดที่สหรัฐอเมริกามีการทดลองนำเชื้อไปเพาะในสัตว์ฟันแทะ ซึ่งมีลักษณะคล้ายคน พบว่าสัตว์ฟันแทะติดเชื้อ h5 n1ได้ ซึ่งหากนักวิจัยไม่มีการควบคุมห้องทดลองที่มีประสิทธิภาพ ก็อาจเสี่ยงเล็ดลอดออกมาข้างนอกได้ สำหรับอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกนั้น พบว่าป่วย 10คนมีอัตราการเสียชีวิต 8คน และขณะนี้พบว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างเวียดนาม กัมพูชา ก็มีเกิดขึ้นประปราย ขณะที่จีนก็พบว่าสัตว์ปีกมีการติดเชื้อถึงขั้นพบเหยี่ยวบินอยู่ร่วงหล่นลงมาตายก็มีมาก ส่วนอินเดีย เนปาล ก็ยังมีระบาดเช่นกัน ดังนั้นนอกจากการทำหน้าที่เฝ้าระวังในคน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขดูแลเป็นหลักแล้ว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ก็ต้องเร่งดูแลระบบเลี้ยงสัตว์เพื่อควบคุมการระบาดด้วย
ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง