สงกรานต์ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์
เพิ่มพื้นที่จัดงานปลอดเหล้ากว่า 27 จังหวัดทั่วประเทศ หวังลดอุบัติเหตุ
สงกรานต์ปีนี้ไปไหนดีครับ! นี่อาจเป็นคำเชิญชวนที่ดูดีน่าฟัง แต่รู้หรือไม่ว่า คำนี้แหละคือต้นเหตุแห่ง “การสูญเสีย” เห็นได้จากตัวเลขของอุบัติเหตุ!!! ที่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยข้อมูลของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระบุว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปี 52 ที่ผ่านมามีการเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งสิ้น 3,977 ครั้ง เสียชีวิตรวม 373 ราย ซึ่งถือว่ามากกว่าปีก่อนถึง 5 ราย และพบผู้บาดเจ็บรวม 4,332 ราย ซึ่งต้นตอของสาเหตุพบว่ามาจาก “การเมาแล้วขับ” สูงถึงร้อยละ 40.66 ของการเกิดอุบัติเหตุทั้งหมด รองลงมา คือ การขับรถเร็ว ง่วงแล้วขับ และหลับใน และเมื่อมองให้ลึกไปอีกจะเห็นได้ว่าปัญหาเหล่านี้จริงๆ แล้วมี “เหล้า” เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดแทบทั้งสิ้น นี่ยังไม่รวมถึงปัญหาของการทะเลาะวิวาท การลวนลามทางเพศที่มักพบบ่อยในเทศกาลสงกรานต์ ที่ส่วนใหญ่ก็มี “เหล้า” เป็นตัวช่วยกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ด้วยเช่นกัน
เมื่อเกิดปัญหาเช่นนี้ ย่อมส่งผลให้เกิดความเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายที่ตีค่าเป็นตัวเงินได้ เช่น การสูญเสียทรัพย์สิน และความเสียหายที่ไม่สามารถตีค่าเป็นตัวเงินได้ เช่น การสูญเสียคนในครอบครัว ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับครอบครัวของตัวเองเป็นแน่…
เมื่อเป็นเช่นนั้น หาก “วันสงกรานต์ปีนี้ไม่มีเหล้า” ได้จึงจะเป็นเรื่องที่ดี ปัญหาต่างๆ ที่มีเหล้าเป็นต้นเหตุน่าจะลดลงได้มาก หากแต่พฤติกรรมของคนไทยเราที่ ไม่ว่าเทศกาลไหน คนไทยก็เมา กลายเป็นนิสัยที่มีให้เห็นได้เกือบทุกครัวเรือน น่าจะเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ประเพณีไทยปราศจากเหล้าได้โดยสิ้นเชิงเป็นแน่!!…
แต่ทว่าวันนี้…ด้วยพลังจากกลุ่มคนเล็กๆ อย่างสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.)และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่ได้พยายามผลักดันให้เกิดการรณรงค์ปลอดเหล้าในประเพณีสงกรานต์ ภายใต้สโลแกน “สงกรานต์ปลอดภัย สนุกสุขใจไร้แอลกอฮอล์” โดยทำมาอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งในปี 52 ที่ผ่านมา มีจังหวัดที่เข้าร่วมโครงการสงกรานต์ปลอดเหล้าแล้วทั้งหมด 12 จังหวัด แต่เป็นที่น่ายินดีที่ในปี 2553 นี้ มีจำนวนจังหวัดที่ที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มขึ้นแล้วกว่า 27 จังหวัดทั่วประเทศ
ได้แก่จังหวัดน่าน พิษณุโลก เชียงใหม่ อุทัยธานี สุโขทัย ตาก มหาสารคาม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ อุดรธานี หนองบัวลำพู สุรินทร์ อ่างทอง ปทุมธานี สิงห์บุรี จันทบุรี นครนายก ชลบุรี ราชบุรี สมุทรสาคร กาญจนบุรี หาดใหญ่ พัทลุง หาดใหญ่ นครศรีธรรมราช และบางลำพู
โดยไฮไลท์น่าสนใจที่มีคนอยากไปเที่ยวสงกรานต์มากที่สุดเห็นทีจะเป็น จ.เชียงใหม่ ภายใต้ชื่อว่า “ป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเชียงใหม่ สืบสาน ต๋ามฮีต ย้อนฮอย ปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ 53” ซึ่งจะมีการจัดงานตั้งแต่วันที่ 10-18 เม.ย.โดยมีทั้งขบวนแห่และสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง การแสดงพื้นเมือง และมีการเล่นน้ำสงกรานต์รอบคูเมืองยาวถึง 9 วัน ใครได้มาสัมผัสแล้วคงอยากจะกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน…
ตามมาด้วยจังหวัดทางภาคอีสานอย่าง ขอนแก่น ที่มีการจัดงานในวันที่ 8-15 เม.ย. ภายใต้ชื่ออันยาวเหยียดว่า “สุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูนเสียงแคม และถนนข้าวเหนี่ยวประจำปี 2553 สนุกปลอดภัยไร้แอลกอฮอล์” งานนี้มีขบวนแห่เกวียนบุปผชาติลดโลกร้อน รับความเป็นสิริมงคลกับอุโมงค์น้ำมนต์จาก 20 คุ้มวัด และการเล่นคลื่นมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ลงใต้มากันมาที่ หาดใหญ่ กับงาน “หาดใหญ่ มิดไนท์ สงกรานต์ 2010” ที่ปราศจากเหล้าอย่างแน่นอน งานนี้จะมีตั้งแต่วันที่ 9-15 เม.ย. มีการสรงน้ำพระพุทธสิหิงค์ หลวงปู่ทวด และที่สำคัญได้สัมผัสกับบรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ยามค่ำคืน
สุดท้ายมากันใกล้ๆ ที่กทม. มีการจัดงานในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่สวนสันติชัยปราการ โดยใช่ชื่อว่า “สงกรานต์…บางลำพู ปลอดภัย สนุกสุขใจ ไร้แอลกอฮอล์” ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12-14 เม.ย. โดยภายในงานจะมีการแห่พระพุทธบางลำพูประชานาถ มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมไทยและอื่นๆ อีกมากมาย
นี่เป็นเพียงแค่ไฮไลท์จาก 4 จังหวัดจาก 27 จังหวัดที่เริ่มแล้ว หากทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศเริ่มทำบ้าง “ความสูญเสีย” ที่เกิดขึ้นเพราะ “เหล้า” คงลดลงและหมดไปเป็นแน่…
สงกรานต์นี้ถ้าให้ดีต้องปลอดภัย สนุกสุขใจไร้แอลกอฮอล์ นะครับ….
ที่มา: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่ Team content www.thaihealth.or.th
Update:08-04-53
อัพเดทเนื้อหาโดย: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่