ศิลปินไร้แอลกอฮอล์ เตือนวัยมันควรเอาแบบอย่างที่ดี
จากการที่บริษัทเหล้า-เบียร์ได้พยายามหากลยุทธ์ต่างๆ ในการหลอกล่อให้นักเรียนนักศึกษาตกเป็นเหยื่อของบริษัทเหล้า รวมถึงการมีค่านิยมที่ไม่ถูกต้องในรั้วสถาบัน เกี่ยวกับพฤติกรรมการดื่มจากรุ่นพี่ถ่ายทอดสู่รุ่นน้อง ตลอดจนประเพณีรับน้องใหม่ของรุ่นพี่บางสถาบัน ที่ใช้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในการทำกิจกรรม บ้างก็บังคับน้องใหม่ให้ดื่ม โดยไม่ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น มีหลายฝ่ายพยายามรณรงค์เพื่อช่วยให้สถานศึกษาปลอดเหล้า และพื้นที่ใกล้เคียงเป็นเขตปลอดสถานบันเทิง อย่างผับ บาร์ ร้านอาหารที่จำหน่ายน้ำเมา
ดร.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรมและสื่อผสม) ประจำปี พ.ศ. 2540
การดื่มเหล้าภายในสถาบันการศึกษาเป็นอีกปัญหาที่ต้องพยายามผลักดัน เพื่อไม่ให้เยาวชนกลายเป็นนักดื่มถาวร ดร.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ อาจารย์ผู้ถ่ายทอดความรู้ด้านศิลปกรรมร่วมสมัย นับเป็นต้นแบบที่ดีของนักศึกษาศิลปะ ซึ่งประสบความสำเร็จบนถนนสายศิลปะ เป็นศิลปินไทยคุณภาพที่มีชื่อเสียงโด่งดังไกลถึงต่างแดน และยังเป็นแบบอย่างของบุคคลที่ไม่ดื่มเหล้า เพราะในแวดวงศิลปะ ปฏิเสธไม่ได้ว่าศิลปินหลายคนที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วทำงานศิลปะด้วย เข้าใจว่าเป็นวิธีการหนึ่งในการจะทำให้งานสร้างสรรค์มีความลื่นไหล จนทำให้นักศึกษาศิลปะเอาเป็นแบบอย่าง และนั่นคือพฤติกรรมและค่านิยมอันไม่พึงประสงค์อย่างมากในแนวคิดของอาจารย์ กมล ศิลปินอาวุโสผู้ผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนาน
อาจารย์กมล กล่าวว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่สถาบันการศึกษาและอาจารย์ ต้องมีความเข้มงวดในการดูแลสถานศึกษาให้ปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัยต้องห้ามการดื่มเหล้า อย่างประเพณีรับน้องใหม่ของสถาบันการศึกษาบางแห่ง พี่บังคับขู่เข็ญให้น้องดื่ม ทั้งที่เด็กไม่เคยดื่มเหล้าหรือยุ่งเกี่ยวกับแอลกอฮอล์เลย ไม่มีใครรู้ว่าวันนั้นอาจเป็นจุดหักเหในชีวิตของเด็กคนหนึ่งให้กลายเป็นนักดื่ม โดยเฉพาะนักศึกษาศิลปะอยากให้มีจิตสำนึก รู้ว่าสิ่งใดเป็นเรื่องผิด หากยังปฏิบัติเช่นนั้นจะกลายเป็นลูกโซ่ เด็กที่ถูกกระทำก็จะใช้วิธีนี้กับน้องใหม่รุ่นต่อมา
อาจารย์กมลเห็นว่า เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสารพิษที่เข้าสู่ร่างกาย มีพิษภัยมากรวมทั้งก่อเกิดโรคมากมาย มีคนเสียชีวิตจากการดื่ม อยากให้นักเรียนนักศึกษาเลิกเสียเถอะ นอกจากอันตรายต่อสุขภาพตัวเอง ยังกระทบการเรียน กระทบครอบครัว และแถมส่งผลอันตรายไปยังคนรอบข้าง ถ้าเมาแล้วขาดสติไปทะเลาะวิวาทหรือมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
“คนทำงานศิลปะบางคนเอาเหล้าเข้าปากก่อนสร้างงาน ด้วยเชื่อว่าช่วยเรียกพลัง เพิ่มความกล้า และจะทำงานได้นานยิ่งขึ้น ผลงานที่ออกมาเป็นผลจากน้ำเมา มีสิ่งแปลกปลอมในงาน ไม่มีความเป็นศิลปะบริสุทธิ์ คิดว่าการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะไม่จำเป็นต้องมีเหล้าหรือบุหรี่เป็นเพื่อน สารพิษในบุหรี่ก็มี ฉะนั้น เลิกทั้งสองอย่างจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดกับตัวเองและสังคมโดยรวม ถ้าอยากเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จต้องทำงานให้หนัก สั่งสมประสบการณ์ มีสมาธิแน่วแน่ ที่สำคัญพร้อมทำงานทุกเวลาและทุกสถานที่ อย่าตั้งกฎเกณฑ์ ศิลปินหลายท่านที่มีชื่อ ไม่ข้องแวะกับแอลกอฮอล์” ศิลปินแห่งชาติเตือนด้วยเหตุผลที่น่าฟัง
เท่านั้นยังไม่พอ อาจารย์กมลยังเห็นด้วยกับการรณรงค์แก้ปัญหาเหล้า-เบียร์ โดยทุกฝ่ายต้องร่วมกันทำอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างให้เกิดเป็น กระแสสังคมให้ได้ และการปลูกจิตสำนึกให้กับเด็กนักศึกษาช่วยกันเคลียร์ให้พื้นที่มหาวิทยาลัยปลอดเหล้า จัดกิจกรรมเน้นย้ำถึงผลเสียที่ตามมา ขณะเดียวกันก็หยิบยกต้นแบบหรือฮีโร่ที่ดีให้กว้างขวางยิ่งขึ้น อย่างเช่นสถาบันการศึกษาด้านศิลปะก็ยกย่องเชิดชูศิลปินที่ไม่แตะต้อง เหล้า-เบียร์ เพื่อสร้างค่านิยมไม่ดื่ม ป้องกันนักศึกษาศิลปะรุ่นใหม่ที่จะมาเป็นนักดื่มหน้าใหม่ นี่คือการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ หากทำได้เช่นนี้ไม่ยากเลยที่จะช่วยเยาวชนไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวหรือลองดื่ม ส่วนเยาวชนที่อยากเลิกดื่มก็ต้องเข้าไปช่วย เชื่อว่าปัญหานี้จะแก้ไข ได้หากทุกฝ่ายมีความตั้งใจจริงที่จะขจัดแอลกอฮอล์ออกไปจากสถานศึกษา
นี่เป็นบุคคลตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จในอาชีพศิลปิน และสร้างคุณประโยชน์ต่อสังคมประเทศชาติ สร้างลูกศิษย์ลูกหาในวงการมากมาย หากเยาวชนจะเอาเป็นแบบอย่าง รวมทั้งตื่นตัว รับรู้ และตระหนักถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากการดื่มก็จะสามารถกำจัดเหล้า-เบียร์ ออกจากวงจรชีวิตได้ ที่สำคัญคือร่วมเป็นอีกเสียงชักชวนผู้อื่นที่พบเห็นให้ร่วมกันลด ละ เลิกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีตลอดไป
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์