วิธีเก็บของ ‘สด’ ไม่ให้ ‘เน่า’

วิกฤตแห่งอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดนี้ สิ่งสำคัญคือการเตรียมตัวให้พร้อมรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนอกจากการเตรียมการด้านทรัพย์สินบ้านเรือนแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องเตรียมเพื่อความอยู่รอด นั่นก็คือ “อาหาร” วีณา สุขวิบูลย์ หัวหน้าแผนกโภชนาการ โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล พหลโยธินให้คำแนะนำว่า อาหารที่จำเป็นในยามนี้คือ อาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน ประเภทอาหารกระป๋อง ปลากระป๋องแกงกระป๋อง หรืออาหารที่สามารถเปิดแล้วทานได้เลย รวมทั้งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่สามารถเก็บไว้ทานได้นานโดยไม่บูดเสีย

หรือจะเป็นอาหารแห้งพร้อมทาน ประเภทเนื้อเค็ม หมูหวาน ไข่เค็ม ฯลฯ รวมทั้งน้ำพริกต่าง ๆ อาทิ น้ำพริกเผา น้ำพริกตาแดงฯลฯ ก็สามารถเก็บไว้ทานได้นานเช่นกัน

สำหรับของสดต่าง ๆ ก็มีวิธีการเก็บรักษาไม่ให้บูดเสีย เริ่มจากเนื้อสัตว์ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัวแนะนำให้นำมารวนให้สุกแล้วนำไปแช่ในช่องแข็ง ซึ่งสามารถแบ่งมาทานหรือประกอบอาหารประเภทต่าง ๆ ได้

ส่วนไข่สดนั้นให้นำมาต้มโดยเติมน้ำส้มสายชูลงไปในน้ำที่ต้มไข่เล็กน้อย แล้วนำไปเก็บไว้ในช่องแช่แข็ง ก็จะสามารถเก็บรักษาไข่ได้ประมาณ 20-25 วันเลยทีเดียว และยังสามารถนำมาประกอบอาหารประเภทอื่น ๆ ได้อีก อาทิ ไข่พะโล้ ไข่ลูกเขย ฯลฯ ผักและผลไม้ก็มีวิธีการเก็บรักษาโดยนำมาห่อกระดาษแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นโดยไม่ต้องล้างทำความสะอาดเมื่อจะใช้ก็แบ่งมาล้างตามความต้องการก็จะสามารถรักษาความสดและไม่ให้บูดเสียได้

ส่วนผักประเภทที่มีหัว เช่น บร็อกโคลี่ ฯลฯ ก็ให้นำมาลวกแล้วนำเข้าช่องฟรีซ ก็จะสามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน

สำหรับวิธีการหุงข้าวสวยที่สามารถเก็บไว้ทานได้นานหลายวันนั้น ก็ให้ใส่น้ำส้มสายชูเข้าไปในตอนหุงข้าวด้วย โดยใช้สัดส่วนข้าว 3 กระป๋อง ต่อน้ำส้มสายชู 1 ช้อนชา ก็สามารถเก็บข้าวสวยไว้ได้นานขึ้น ที่สำคัญคือต้องไม่ใช้ ข้าวหอมมะลิ เพราะจะมีโอกาสบูดได้ง่ายกว่า ควรเลือกเป็นข้าวตาแห้ง หรือข้าวสารชนิดอื่น ๆ แทน

นอกจากนั้นควรต้องมีการเตรียมเตาถ่าน ถ่านไม้ ไม้ขีดไฟ ไว้ใช้ในยามที่เตาแก๊สหมดด้วย เพื่อให้พร้อมในการประกอบอาหารได้

ในส่วนของนมสำหรับเด็ก ควรเลือกเป็นนมยูเอชทีสำหรับเด็กโตส่วนเด็กเล็กที่ยังต้องใช้นมผงนั้น แนะนำให้ใช้น้ำดื่มในการชงนมได้ซึ่งต้องมั่นใจว่าเป็นน้ำสะอาด และไม่ต้องต้มให้ร้อนก็สามารถชงนมได้สำหรับแม่ที่ต้องให้นมลูก แนะนำให้นำน้ำผสมเกลือเล็กน้อย เช็ดทำความสะอาดบริเวณหัวนม ก็สามารถให้ลูกดูดได้แล้ว

ทั้งหมดนี้คือวิธีการถนอมอาหารเพื่อให้เราดำรงชีวิตอยู่ในช่วงวิกฤตเช่นนี้ !

ที่มา: หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ