วิจัยฮาร์วาร์ดชี้เลิกบุหรี่ลดเสี่ยงหัวใจ 21%ใน 5 ปี
โรคอื่นๆ ก็ลดตามไวบ้างช้าบ้างแล้วแต่กรณี
ระบุไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะเลิกสูบ
หนังสือพิมพ์เดอะวอชิงตันโพสต์ฉบับออนไลน์รายงานผลการวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ล่าสุดซึ่งพบว่าผู้หญิงที่เลิกสูบบุหรี่แล้วทำให้มีความเสี่ยงในการเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจลดลงได้อย่างรวดเร็วโดยพบว่าสามารถลดได้ถึง 21 % ในระยะเวลาเพียงแค่ 5 ปี หลังสูบบุหรี่มวนสุดท้าย
นอกจากนี้แล้วทีมนักวิจัยยังพบด้วยว่าความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคอื่นๆ ก็ลดลงตามกันไปด้วยเช่นกันหลังจากที่คนเราเลิกสูบบุหรี่แล้ว ซึ่งระยะเวลาที่ใช้ในการลดความเสี่ยงในแต่ละโรคนั้นจะหลากหลายแตกต่างกันออกไป
“อันตรายที่เกิดจากการสูบบุหรี่เป็นสิ่งที่สามารถแก้ไขให้กลับฟื้นคืนมาดีได้” คุณสเตซีย์ เคนฟิลด์ ผู้เขียนรายงานผลการวิจัยชิ้นนี้กล่าว ทั้งนี้ผลการวิจัยดังกล่าวนี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการของสมาคมแพทย์อเมริกันเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคมนี้
“สำหรับโรคบางโรค เป็นต้นว่า โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง พบว่าร่างกายต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูนานกว่า 20 หลังเลิกสูบบุหรี่ แต่สำหรับโรคบางโรคอื่น ๆ การเลิกสูบบุหรี่สามารถช่วยให้ลดความเสี่ยงลงได้เร็วกว่านี้เยอะ” คุณ เคนฟิลด์กล่าว
“การเลิกสูบบุหรี่นั้นไม่มีคำว่าเร็วเกินไป หรือว่าสายเกินไปที่จะเลิก” เขากล่าว คุณเคนฟิลด์นั้นเป็นนักวิจัยในระดับหลังปริญญาเอกของภาควิชาระบาดวิทยาของโรงเรียนการสาธารณสุขแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
สำหรับปัญหาเรื่องการสูบบุหรี่นั้นถือว่าเป็นสาเหตุการตายลำดับของคนในประเทศสหรัฐฯ ต้น ๆ ซึ่งอันที่จริงแล้วเป็นสิ่งที่สามารถป้องกันได้ และนอกจากโรคมะเร็งปอดแล้วการสูบบุหรี่ยังเป็นสาเหตุของโรคหัวใจและโรคมะเร็งชนิดอื่น ๆ และโรคในระบบทางเดินหายใจอีกมากมายหลายชนิด
จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกพบว่ามีการคาดการณ์กันว่าจะมีคนประมาณ 3 ล้านคนในประเทศอุตสาหกรรมที่จะเสียชีวิตจากการใช้ยาสูบในปีค.ศ. 2030 นอกจากนี้แล้วยังจะมีคนที่ต้องตายด้วยโรคจากการสูบบุหรี่อีก ถึง 7 ล้านในประเทศกำลังพัฒนาในช่วงเวลาเดียวกัน
สำหรับรายละเอียดของการวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดนี้นักวิจัยระบุว่าเป็นการติดตามผลของกลุ่มตัวอย่างจำนวนทั้งสิ้น 100,000 คน โดยนักวิจัยได้เก็บข้อมูลของกลุ่มประชากรตัวอย่างมาเป็นเวลายาวนานถึง 22 ปี
นักวิจัยพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่ยังคงสูบบุหรี่อยู่มีความเสี่ยงในการเสียชีวิตด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่สูงเป็น 3 เท่าเมื่อเทียบกับคนที่ไม่เคยสูบบุหรี่เลย นอกจากนี้แล้วคนที่ยังคงสูบบุหรี่อยู่ก็ยังมีความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งลำไส้สูงกว่าคนไม่สูบถึง 63 % แต่คนที่เคยสูบแต่เลิกได้แล้วมีความเสี่ยงลดลงเหลือเพียงแค่ 23 % เท่านั้นเอง
ที่มา : สำนักข่าวต่างประเทศ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.
update 08-05-51