วันที่ 9 เดือน 9 ปี 09 ร่วมมือร่วมใจสู้ภัยสังคม

 ปลุกจิตสำนึกคนไทย ต้อง รักกัน

 

วันที่ 9 เดือน 9 ปี 09 ร่วมมือร่วมใจสู้ภัยสังคม

 

          สถานการณ์ของประเทศไทย ทุกวันนี้(และมีแนวโน้มว่าจะยืนยาวไปอีกนานในวันข้างหน้า) กำลังอยู่ใน “ภาวะเสี่ยง” ที่ คนในประเทศทุกคนจะต้อง ร่วมแรงร่วมใจ “สามัคคี”กันเอาไว้เพื่อต่อสู้กับสิ่งไม่ดีที่กำลังจะถาโถมเข้าใส่คนไทยทั้งประเทศ ทั้งในด้าน “รูปธรรม” และ “นามธรรม”

 

          ภาวะเสี่ยง ที่อยู่ในรูปแบบของนามธรรม คือ ความแตกแยกกันในด้านความคิดของคนไทย ที่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ จนทำให้สังคมไทยของประเทศ แบ่งออกเป็น สีต่างๆ ที่ แต่ละสีล้วนแต่จะหาทางห้ำหั่นกันให้วินาสกันไปข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งเชื่อเถอะว่า ก่อนที่ สีใดสีหนึ่งจะย่อยยับ หรือ ยกธงขาวยอมแพ้ วันนั้นย่อมหมายถึงว่า สังคมไทยย่อยยับลงไปก่อนแล้ว ดูกันง่ายๆในช่วงเวลานี้ ขนาดว่า ยังไม่มีใครย่อยยับลงกับมือให้เห็น แต่วิกฤติสถานการณ์ของสังคมไทยก็สับสนกันไปจนหมดแล้ว เศรษฐกิจตกสะเก็ด ความแตกแยกกระจายไปทั่ว ความเชื่อถือจากประเทศรอบข้างถดถอยน้อยลงไป ทั้งหมดนี้ก็เกิดขึ้นจาก ความแตกแยกกันทางด้านความคิดของคนไทยในประเทศนั่นเอง

 

          ภาวะเสี่ยงที่เป็นรูปธรรม ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดในเวลานี้ก็คือ ภัยพิบัดจาก โรคร้ายที่แปลกใหม่ ประดังกันเข้ามาทำลายสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง หมดจากโรคนั้น ก็มีโรคนี้เข้ามาไม่รู้จักหมดสิ้น ยิ่งมาเจอกับความไม่เอาใจใส่ของคนในประเทศเข้าด้วย โรคร้ายยิ่งระบาดได้อย่างสุขกายสบายใจ

          ล่าสุดต้องเป็นที่น่ายินดีที่ การระบาดของ โรคร้ายสายพันธุ์ใหม่ที่เรียกกันว่า ไข้หวัดใหญ่ 2009 ยังมีหน่วยงานทั้งจากภาครัฐ และภาคเอกที่ รวมตัวกันต่อต้าน จนทำให้เกิดความอบอุ่นกับคนในประเทศที่ยังมีความรู้สึกว่า คนไทยยังไม่ว้าเหว่ และยืนอยู่คนเดียว ซึ่งกลุ่มคนที่เข้ามาเป็นเพื่อนเพื่อคอยช่วยเหลือ ก็คือ คุณหมอมงคล ณ สงขลาประธานคณะอนุกรรมการสนับสนุนป้องกัน ควบคุม และการแก้ปัญหาการแพร่ระบาด ของไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ 2009 ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ,ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวิทยา แก้วภราดัย และผู้บริหารห้างค้าปลีก อีก 9 เครือข่าย ร่วมมือกัน” รวมพลังธุรกิจค้าปลีกสู้หวัด 2009″

 

          สำหรับการดำเนินการในเรื่องนี้ คุณวิทยา แก้วภราดัย รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า

 

          ขณะนี้นอกเหนือจากไข้หวัดใหญ่ 2009 แล้วยังมี การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เก่าที่มาตามฤดูกาลระบาดเช่นกัน เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูกาลการระบาดของทุกปี แต่ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่หรือสายพันธุ์เก่า วิธีการป้องกันตนเองจากเชื้อร้าย ก็คือวิธีการเดียวกัน และเป็นที่น่ายินดีที่ คณะอนุกรรมการหวัดฯ 2009 จับมือกับภาคธุรกิจค้าปลีก 9 เครือข่าย จัดโครงการ ” รวมพลังธุรกิจค้าปลีกสู้หวัด 2009″ ขึ้นมา ซึ่ง ผู้เข้าร่วมโครงการประกอบด้วย 1.บิ๊กซี 2.คาร์ฟูร์ 3.เซ็นทรัลพัฒนา 4.เซ็นทรัลรีเทล 5.เดอะมอลล์ กรุ๊ป 6.แฟชั่นไอซ์แลนด์ 7.ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต 8.ซีคอน 9.เทสโก้โลตัส โดยที่ ห้างสรรพสินค้า / ธุรกิจค้าปลีก ทั้ง 9 เครือข่าย มีสาขาทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดกว่า 1,200 สาขา มีพนักงานกว่า 2 แสนคน โดย กลุ่มคนเหล่านี้จะช่วยกัน ให้บริการที่ดีทางด้านสุขภาพ ดูแล สถานที่ทำความสะอาดอย่างถูกสุขลักษณะ ให้บริการข้อมูล แก่ผู้ที่ไปใช้บริการ ซึ่งจะทำให้คนส่วนใหญ่เกิดภูมิคุ้มกันที่ถูกต้องตามสุขลักษณะ และมีข้อมูลที่จะนำไปแก้ไข ป้องกันมิให้โรคร้ายคุกคามต่อไป

 

          ทางด้าน นพ.มงคล ณ สงขลา ประธานคณะอนุกรรมการฯ ขยายความถึงกิจกรรมที่ห้างสรรพสินค้าให้ความร่วมมือว่า จะมีกิจกรรมดังนี้ คือ 1.มีการดูแลสภาพแวดล้อม อุปกรณ์ และสถานที่โดยเฉพาะบริเวณจุดสัมผัสร่วม อาทิ ลูกบิด ราวบันได ปุ่มกดลิฟท์ โทรศัพท์ เครื่องเล่นเด็ก และจัดเตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคเพื่อความมั่นใจของทุกคน 2.รณรงค์และเผยแพร่ข้อมูลสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัด 2009 พร้อมคำแนะนำ โดย สสส.จะสนับสนุนข้อมูลและสื่อต่างๆ อาทิ แผ่นพับ โปสเตอร์ สติกเกอร์ ประชาชนที่สนใจขอรับได้ที่จุดประชาสัมพันธ์ของห้างสรรพสินค้าและห้างค้าปลีก ข้อที่ 3.การเปิดลานแอโรบิค 150 จุด บริเวณห้างสรรพสินค้า/ห้างค้าปลีก ทั่วประเทศ ให้คนไทยมาออกำลังกายสู้หวัด ซึ่ง สสส. จะสนับสนุนด้วยการจัดกิจกรรมพิเศษ อาทิ การแต่งเพลง “รวมพลังสู้หวัด” ขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อให้ทางห้างสรรพสินค้า / ธุรกิจค้าปลีก นำไปส่งเสริมการออกกำลังกายภายในองค์กร และบริการแก่ลูกค้า การจัดพื้นที่ออกกำลังกายของห้าง และชุมชนโดยรอบ ด้วยการเชิญชวนนักกีฬา ศิลปิน มาร่วมให้ข้อมูลและออกกำลังกายด้วยกัน อาทิ นายสมจิตร จงจอหอ นักมวยเหรียญทองโอลิมปิก นายลีซอ วิโนทัย นักกีฬาฟุตบอลทีมชาติ นายพีรพล เอื้ออารียกูล หรือแชมป์ พิธีกรรายการกีฬา พร้อมทั้งกิจกรรมทดสอบ สมรรถภาพร่างกายให้ประชาชน ตระเวณไปตามห้างสินค้าสินค้า/ห้างค้าปลีก สาขาต่างๆ โดยจะถือฤกษ์ดีในวันที่ 9 เดือน 9 ปี 2009 หรือ 9 ก.ย. นี้ เป็นวันเริ่มจัดกิจกรรม

 

          โครงการนี้ ไม่เพียงแค่จะสร้างความสุขให้กับวิถีชีวิตของคนไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการปลุกจิตสำนึกให้คนไทยทั้งประเทศที่กำลังจะแบ่งแยกคนไทยด้วยกัน เกิดจิตสำนึกได้บ้างว่า วันนี้ประเทศไทยต้องการความสามัคคีมากกว่าการแบ่งแยก

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

 

 

 

Update 22-09-52 

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์

Shares:
QR Code :
QR Code