วอนรัฐทบทวนขึ้นทะเบียนสารเคมีอันตราย 4 ชนิด

วอนรัฐทบทวนขึ้นทะเบียนสารเคมีอันตราย 4 ชนิด

วอนรัฐทบทวนขึ้นทะเบียนสารเคมีอันตราย 4 ชนิด

น.พ.ปัตพงษ์ เกษสมบูรณ์ เครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (thai-pan) กล่าวถึงกรณีพบการก่ออาชญากรรม โดยมีสารเคมีทางเกษตรกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง คนร้ายใส่สารเคมีทางการเกษตรในกาแฟให้เจ้าของรถกระบะรับจ้างกินเพื่อฆ่าชิงทรัพย์ เสียชีวิตไปถึง 4 ราย และสูญหายอีก 2 ราย ว่า ปัจจุบันพบเหตุการณ์ที่มีการใช้สารเคมีซึ่งก่อให้เกิดอันตรายอีกหลายกรณี ก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณีที่แม่ครัวโรงเรียนอนุบาล ผสมสารเคมีตัวนี้ใส่ในนมให้เด็กดื่มจนป่วยหนักต้องหามส่งโรงพยาบาลหลายคน นอกจากนี้ยังพบว่าคนไทยจำนวนมากนิยมใช้สารเคมีตัวนี้ฆ่าตัวตาย คนที่กินสารเคมีตัวนี้ 3 ใน 5 คนจะตายภายใน 3 ชั่วโมง ซึ่งตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2551 กำหนดให้มีการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายทางเกษตรใหม่ 27,000 รายการ เพื่อควบคุมการนำเข้าการใช้ไม่ให้กระทบต่อเกษตรกรและผู้บริโภค ซึ่งกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สามารถขึ้นทะเบียนสารเคมีที่มีอันตรายสูงและมีผลกระทบกับวงกว้างได้ โดยเฉพาะสารเคมี 4 ชนิด คือ คาร์โบฟูราน เมโทมิล ไดโครโตฟอส และอีพีเอ็น ซึ่งปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกประกาศเป็นสารเคมีต้องห้าม ทั้งห้ามใช้ และปฏิเสธการขึ้นทะเบียน

น.พ.ปัตพงษ์ กล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่หลายประเทศได้ประกาศห้ามใช้สารเคมีทั้ง 4 ชนิดดังกล่าวเป็นสารต้องห้าม เนื่องจากมีความเป็นพิษสูง หากใช้อย่างไม่เหมาะสมจะทำให้ปนเปื้อนในแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคโดยมีฤทธิ์กดไขกระดูก ทำลายม้าม ซึ่งเป็นระบบสร้างเม็ดเลือด รวมทั้งระบบภูมิคุ้มกันที่สำคัญ ทำลายต่อมหมวกไต ทำให้ท่อไตบวม ทำลายดีเอ็นเอของคน ซึ่งเป็นจุดตั้งต้นของกระบวนการชีวิตหลายระบบ จะทำให้เกิดโรคร้ายต่างๆ ตามมาในระยะยาวในประเทศไทย ขณะนี้สารเคมีทั้ง 4 ชนิดนี้ และสารเคมีกำจัดศัตรูพืชที่มีพิษร้ายแรงอีก 7 ชนิด ถูกบรรจุอยู่ในบัญชีวัตถุอันตราย ที่กรมวิชาการเกษตรเฝ้าระวัง แต่ยังไม่มีมาตรการควบคุมในการนำเข้า การทำการตลาด และการโฆษณา โดยทะเบียนสารเคมีกลุ่มดังกล่าวหมดอายุเมื่อวันที่22 ส.ค.54 ที่ผ่านมา แต่กรมวิชาการเกษตรอนุโลมให้จำหน่ายสารเคมีกลุ่มดังกล่าวได้จนถึงเดือน ส.ค.56 แต่จากการสำรวจพบว่าในช่วงที่ทะเบียนจะหมดลง ปริมาณการนำเข้าในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดถึง 200% และปัจจุบันกรมวิชาการเกษตรกำลังพิจารณาอนุญาตให้มีการขึ้นทะเบียนสารเคมีอันตรายร้ายแรงดังกล่าว โดยไม่มีการเปิดเผยข้อมูลที่ใช้ประกอบการพิจารณาใดๆ ที่ยืนยันความปลอดภัยของสารเคมีกำจัดศัตรูพืชต่อสุขภาพของเกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม

         

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

Shares:
QR Code :
QR Code