ลดการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น เพื่ออนาคตของเยาวชนไทย

ปัญหาความไม่พร้อมในการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น นับเป็นหนึ่งปัญหาสังคมที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยในแต่ละปีประเทศไทยมีคุณแม่วัยใสเพิ่มขึ้น จากรายงานล่าสุดขององค์การอนามัยโลก (WHO) เกี่ยวกับสถานการณ์การตั้งครรภ์ของผู้หญิงอายุต่ำกว่า 20 ปี ทั่วโลก ในปี 2556 พบว่า ประเทศไทยมีจำนวนสูงถึง 74 คน ต่อ 1,000 คน เท่ากับประเทศมาเลเซีย และอยู่อันดับที่ 2 รองจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว


ลดการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น เพื่ออนาคตของเยาวชนไทย thaihealth


แฟ้มภาพ


การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นเป็นประเด็นสำคัญที่เครือข่ายภาครัฐและเอกชนซึ่งทำงานด้านสุขภาพต่างเห็นพ้องเป็น "วาระแห่งชาติ" ในการป้องกันและเข้ามาร่วมแก้ปัญหา โดย มูลนิธิแพธทูเฮลท์ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมกัน จัดงานเปิดตัวโครงการป้องกันและแก้ไขการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พื้นที่กรุงเทพมหานคร (Bangkok for Teen: B4T) ขึ้น ณ โรงพยาบาลตากสิน กรุงเทพมหานคร


"การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นเป็นอุปสรรคในการศึกษาของเด็ก  เนื่องจากสังคมไทยยังไม่เป็นที่ยอมรับ ทำให้ขาดโอกาสที่จะพัฒนาตัวเอง และกระทบต่อตัวเด็กและลูกในครรภ์ด้วย" ทพ.ศิริเกียรติ เหลียงกอบกิจ ผู้อำนวยการสำนักการควบคุมปัจจัยเสี่ยงสุขภาพ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ระบุ


ทั้งนี้ กรุงเทพฯ เป็นจังหวัดนำร่องของโครงการนี้ เนื่องจากมีจำนวนวัยรุ่นเกือบล้านคน และเป็นต้นแบบวัยรุ่นของทั้งลดการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น เพื่ออนาคตของเยาวชนไทย thaihealthประเทศ ซึ่งหากป้องกันและแก้ไขปัญหานี้ได้สำเร็จ เมืองหลวงแห่งนี้ก็จะ กลายเป็นตัวอย่างให้กับวัยรุ่นในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป


หนึ่งในโครงการที่ได้เริ่มไปแล้ว ได้แก่ โครงการ 'ปิ๊งไม่ป่อง' โดยทีมนักศึกษาจาก ม.หัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติจากสภาเด็ก และเยาวชนกรุงเทพฯ ที่รณรงค์ให้เยาวชนมีความรับผิดชอบ และเห็นคุณค่าในตัวเอง ตระหนักและรู้เท่าทันเรื่องเพศ โดยเติม ความรู้และความรับผิดชอบลงไปในตัวเยาวชน ควบคู่กับการสอน เรื่องเพศศึกษาของโรงเรียน ขณะที่ครอบครัว และคนใกล้ชิด ยังต้องเข้าใจ พูดคุยกับลูกได้ พร้อมสนับสนุนให้เด็กได้เรียนรู้หลายๆ อย่างด้วย


"ถ้าเรานำไปขยายผลเรื่องลดการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นให้กว้างขึ้น ประเทศเราจะก้าวข้ามปัญหานี้และนำมาสู่การพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้ามากขึ้น" ทพ.ศิริเกียรติ กล่าว


ขณะที่ น.ส.วิริยา วงศ์นอก ตัวแทนสภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร มองว่า การแก้ปัญหานี้จะสัมฤทธิ์ผลได้นั้น ต้องมี การทำงานที่เชื่อมโยงกันระหว่างภาครัฐและเอกชน พร้อมเสนอให้มีการจัดตั้งแกนนำในโรงเรียนเพื่อร่วมขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม ควบคู่ไปกับการสอนทักษะการดำเนินชีวิตเรื่องเพศศึกษาให้ ครบถ้วนชัดเจน และมีช่องทางให้นักเรียนปรึกษาเรื่องเพศได้ โดยตรงด้วย ขณะที่ด้านสาธารณสุขก็ให้สถานบริการสุขภาพสังกัด กทม. ดำเนินการเชิงรุกในโรงเรียนและชุมชน เพื่อรณรงค์และป้องกันแก่เด็กในโรงเรียนทั่วกรุงเทพฯลดการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น เพื่ออนาคตของเยาวชนไทย thaihealth


สำหรับช่องทางที่สามารถให้วัยรุ่นปรึกษาเรื่องเพศได้นั้น มีทั้งทีมบริการของเยาวชนที่จะคอยให้ความรู้ด้านสุขภาพทางเพศในโรงเรียน และ ให้บริการทางคลินิกออนไลน์ เช่น www.lovecarestation.com www.teenpath.net หรือสายด่วนปรึกษาเอดส์และท้องไม่พร้อม 1663


ด้าน ภาวนา เหวียนระวี ผู้อำนวยการมูลนิธิแพธทูเฮลท์ ทิ้งท้ายว่า โครงการ Bangkok for Teen เป็นการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ของประเทศคือ ภายใน 10 ปี จะลดการตั้งครรภ์ของวัยรุ่นลงครึ่งหนึ่ง ภายใต้ความร่วมมือของทุกภาคส่วนด้านสุขภาวะเยาวชนที่มีแนวทางและเป้าหมาย "ร่วมกัน"


เพราะการป้องกัน และลดอัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคนที่จะร่วมมือกัน เพื่อสร้างอนาคตที่สดใสให้ประเทศ


 


 


ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ

Shares:
QR Code :
QR Code