ร่วมคืนเด็กดี สู่สังคม

ก้าวใหม่ของการทำดีเพื่อสังคมแบบยั่งยืน ด้วยการ “คืนเด็กดี สู่สังคม”


ร่วมคืนเด็กดี สู่สังคม thaihealth


มูลนิธิหัวใจอาสา ร่วมกับ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน, กองทุนเวลาเพื่อสังคม สมาคมนักสร้างสุขภาวะองค์กร  และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)  ดำเนินงาน โครงการ “New Step New Day ก้าวใหม่ วันใหม่”  ณ ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนชายบ้านมุทิตา จังหวัดนครปฐม  โดยได้ร่วมกันออกแบบกิจกรรม และร่วมกันทำกิจกรรม “การให้และการช่วยเหลือสังคม” ตลอดระยะเวลา 7 เดือน ที่ผ่านมา  เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้องค์กรทุกภาคส่วน และประชาชนที่สนใจ ร่วมเป็นจิตอาสา สร้างให้เกิดเครือข่ายองค์กรแห่ง "การให้" และสังคมแห่งความดี อย่างต่อเนื่อง


กรรชิต  สุขใจมิตร ผู้อำนวยการมูลนิธิหัวใจอาสา กล่าวชี้แจ้งวัตถุประสงค์การจัดโครงการ ว่าการจัดกิจกรรมมีวัตถุประสงค์ในการดำเนินงานอยู่ 2 ส่วน ได้แก่ คือ มุ่งเน้นการพัฒนาทัศนคติเชิงบวกให้กับเด็กและเยาวชนที่ก้าวพลาด  เป็นการสร้างแรงบันดาลใจที่มีค่าให้กับเด็ก และ มุ่งเน้นการกระตุ้นและส่งเสริมให้องค์กรทุกภาคส่วนในสังคม และประชาชนที่สนใจ เพื่อสร้างให้เกิดจิตใจที่ “ให้” ภายในองค์กรต่างๆ 


เมื่อปลายเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา องค์กรภาคีเครือข่ายทั้งหมดที่ร่วมพิธิปิดโครงการ และได้สรุปบทเรียนการดำเนินงานโคร่วมคืนเด็กดี สู่สังคม thaihealthรงการฯ ที่ผ่านมา  ซึ่งมีความเห็นร่วมกันว่า การดำเนินงานขงโครงการฯ ได้รับผลสำเร็จที่น่าพอใจ  เด็กและเยาวชนเกิดความเปลี่ยนแปลงทางด้านทัศนคติและพฤติกรรมในเชิงบวกอย่างชัดเจน  กระบวนการและหลักสูตรที่ใช้ในการดำเนินงาน สามารถสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นได้  และเห็นว่าควรมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไป  และควรจะพยายามขยายการดำเนินงานไปยังศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนที่อื่นๆ ต่อไปด้วย  


วิชิต  ภิรมยาภรณ์  ผู้ตรวจราชการกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กล่าวว่า  การจัดกิจกรรมดังกล่าว เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้าง “โอกาส” ให้เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชนในศูนย์ฝึกฯ นับเป็นภารกิจหนึ่งเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมให้องค์กรและอาสาสมัครในทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการทำจิตอาสาช่วยเหลือสังคม  


กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มีภาระหน้าที่หลักในการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชน ที่เข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมให้กลับคืนสู่สังคม และสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุขไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ ซึ่งจะเห็นได้ว่า กรมพินิจฯ ไม่สามารถดำเนินการได้เพียงลำพัง จะต้องอาศัย ภาคีเครือข่ายในการส่งต่อเด็กและเยาวชน ให้กลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยการให้โอกาสในการทำงาน ในการศึกษาต่อ และ การช่วยเหลือดูแล ให้เด็กและเยาวชน สามารถยืนอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นส่วนหนึ่งของสังคม  กิจกรรมดังกล่าวสร้างให้เด็กปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในด้านบวก  พร้อมทั้งออกไปดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีชัยชนะและมีความสุขมีความมั่นใจจากแรงสนับสนุนขององค์กรในทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมสร้างสรรค์กิจกรรม  อันจะนำมาซึ่งการพัฒนาศักยภาพของเด็ก ให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้เพื่อให้เด็กมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  และมีพื้นที่ในการได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับทีมอาสาสมัครจากองค์กรต่างๆ  ซึ่งกรมพินิจฯ มีความพยายามที่จะ "คืนเด็กดีสู่สังคม" โดยให้โอกาสและสนับสนุนปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ให้กับเด็กที่ก้าวพลาด ได้กลับเข้าไปใช้ชีวิตอยู่กับสังคมตามปกติ  ซึ่งเป็นที่มาของการดำเนินโครงการฯ ในครั้งนี้  โดยคำนึงถึงความยั่งยืนร่วมกัน


จารุวรรณ  ชาญเดช   ผู้จัดการกองทุนเวลาเพื่อสังคม ผู้ดำเนินงาน โครงการ “New Step New Day ก้าวใหม่ วันใหม่ กล่าวว่า การดำเนินงานโครงการฯ ในครั้งนี้ ได้ตั้งความมุ่งหมายไว้ 3 ประการ ได้แก่   1) เพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมร่วมคืนเด็กดี สู่สังคม thaihealthให้เป็นเครื่องมือสื่อสาร เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจ และการเห็นคุณค่าชีวิตตัวเองและสังคม 2 )เพื่อทำให้เกิดการเรียนรู้และความเข้าใจถึงความสำคัญในการที่จะก้าวต่อไปในวันข้างหน้าอย่างมีคุณภาพ 3)เพื่อลดช่องว่างระหว่างสังคมกับเด็กและเยาวชนในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน


การดำเนินงานของกองทุนเวลาเพื่อสังคม มุ่งเน้นงานด้านบทเรียน และการจัดกิจกรรมรองรับและส่งเสริมบทเรียน โดยเด็กจะได้รับการพัฒนาทักษะผ่านกิจกรรมดังกล่าว อาทิ


  • กล้าแบ่งปันต่อหน้าเพื่อนๆ

  • กล้าขอโทษ

  • มีความเชื่อมั่นในตัวเอง กล้าแสดงออกมากขึ้น

  • มีความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น

  • ได้เรียนรู้ทักษะ ความรู้ ที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิต

  • มีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้น

  • ได้รับการยอมรับจากเพื่อน และจากครูฝึกมากขึ้น


ในด้านของภาคีเครือข่าย ที่มาร่วมดำเนินงาน ได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมการให้และช่วยเหลือสังคม ช่วยสร้างสังคมให้ดีขึ้น และในอนาคตกิจกรรมที่ทำสามารถพัฒนา หรือยกระดับให้เป็นหลักสูตรสำหรับอบรมเด็กและเยาวชนในศูนย์ฝึกฯ ของกรมพินิจฯ ได้ และคาดหวังว่า องค์กรภาคเอกชนจะให้โอกาสเด็กมากขึ้น ที่จะช่วยส่งเสริมเรื่องการให้ทุนการศึกษาเด็ก และพัฒนาทักษะอาชีพเด็ก หรือจัดหางานให้เด็ก ต่อไป


 


 


ที่มา: มูลนิธิหัวใจอาสา


 

Shares:
QR Code :
QR Code