รณรงค์งดเผากระดาษช่วงตรุษจีน ลดมลพิษทางอากาศ
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
แฟ้มภาพ
ช่วงเทศกาลตรุษจีน คนไทยเชื้อสายจีนจำนวนมากจะเตรียมสิ่งของทั้งอาหารหวานและคาวไว้สำหรับการไหว้เจ้าเพื่อความเป็นศิริมงคลในการเริ่มต้นปีใหม่ นอกจากนี้ยังมีการเผากระดาษเงินกระดาษทองตามความเชื่อที่สืบต่อกันมายาวนาน ซึ่งหากมีปริมาณการเผากระดาษเหล่านี้จำนวนมากจะทำให้เกิดมลพิษทางอากาศ ส่งผลกระทบต่อร่างกาย
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) รายงานการตรวจวัดปริมาณฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล มีปริมาณฝุ่นละอองเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ หรือ พื้นที่สีส้ม 10 พื้นที่ วัดค่าได้ 28-55 มคก./ลบ.ม. ได้แก่ ริมถนนดินแดง เขตดินแดง แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม ริมถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 95 เขตวังทองหลาง ริมถนนพระราม3-ถนนเจริญกรุง เขตบางคอแหลม ริมถนนนวมินทร์ แยกบางกะปิ เขตบางกะปิ ริมถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง ริมถนนเจริญนคร เขตคลองสาน ริมถนนสามเสน เขตพระนคร แขวงคลองเตย เขตคลองเตย และ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงเทศกาลตรุษจีน คนไทยเชื้อสายจีน จะมีการจุดธูป เผากระดาษเงินกระดาษทอง ในแต่ละครั้งที่เผาจะปล่อยควันและขี้เถ้าออกมา รวมถึงสารก่อมลพิษ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก สารก่อมะเร็งหลายชนิด และยังพบโลหะหนักอยู่ในขี้เถ้ามากกว่าฝุ่นละอองในอากาศ 3-60 เท่า อาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ จึงขอให้ช่วยกันลดปริมาณฝุ่นและสารก่อมลพิษ โดยใช้ธูปขนาดสั้น ลดปริมาณการ เผากระดาษเงิน กระดาษทอง ให้น้อยลง สวมหน้ากากป้องกันฝุ่นขณะจุดธูปหรือเผา เมื่อจุดแล้วดับหรือเก็บธูปให้เร็วขึ้น รวมทั้งกำจัดขี้เถ้าจากส่งให้ท้องถิ่นรับไปกำจัดอย่างถูกวิธี พร้อมชงมาตรการให้หน่วยงานภาครัฐเร่งดำเนินการจัดเก็บ "ภาษีฝุ่น" จากผู้ประกอบการหรือเจ้าของอาคารที่ไม่ใส่ใจ และปล่อยปละละเลย จนทำให้เกิดปัญหามลพิษเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ นายกสภาวิศวกร กล่าวถึงกรณีเตรียมชงมาตรการให้ภาครัฐเร่งจัดเก็บภาษีฝุ่นจากผู้ประกอบการหรือเจ้าของอาคารที่ไม่ใส่ใจ และปล่อยปละละเลยเพิ่มมากขึ้นว่า อยู่ในระหว่างการรวมรวมข้อมูล และทำประชาพิจารณ์ เพื่อเสนอหนังสือไปถึงรัฐบาลให้พิจารณาต่อไป นอกจากนี้ยังเสนอให้จัดเก็บภาษียานพาหนะเก่าที่ปล่อยควันดำ สร้างปัญหามลพิษในอากาศเพิ่มขึ้นด้วย.