ยลเสน่ห์ ‘นางเลิ้ง’ปลุกวิถีชุมชนดั้งเดิม
ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง
หากพูดถึงย่านดังที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่มา อย่างยาวนาน ไปจนถึงมีความเจริญมากในอดีตเชื่อว่า 'นางเลิ้ง' เป็นอีกหนึ่งชื่อที่ได้รับการกล่าวถึง เมื่อเวลาผ่านไปความเจริญเข้ามาทำให้หลายชุมชนได้ค่อยๆ ถูกกลืนกินวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวบ้านในอดีต
แต่นางเลิ้งกลับไม่เช่นนั้น ชุมชนนางเลิ้งเลือกที่จะหวงแหนวิถีชีวิต วัฒนธรรม และภูมิปัญญา ด้วยการสืบทอดความรู้จากคนเก่าแก่ส่งต่อไปยังเด็กรุ่นใหม่ ทำให้ยังคงเป็น นางเลิ้ง ได้ถึงทุกวันนี้แบบไม่ตกยุคสมัยเมื่อไม่นานนี้ ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้พาเราย้อนกลับไปสัมผัสกับบรรยากาศประวัติศาสตร์ของย่านนางเลิ้งอย่างใกล้ชิด ผ่านกิจกรรม SOOK Travel "เยี่ยม เยือน ยล วิถีผู้คนชุมชนวัดสุนทรธรรมทาน"
โดยมี คุณสุวรรณ แววพลอยงาม ผู้นำชุมชนนางเลิ้ง พาลัดเลาะสัมผัสวิถีชีวิต พร้อมถ่ายทอดความเป็นมาถึงชุมชนแห่งนี้ว่า ย่านนางเลิ้งเป็นชุมชนเก่าแก่ของพระนคร มีชื่อเดิมว่าย่านสนามกระบือหรือ สนามควาย ภายหลังได้เริ่มมีการพัฒนาขยายอาณาเขตพระนครให้กว้างขวางขึ้นจากการขุดคลองผดุงกรุงเกษม และในสมัยร.4 จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น อีเลิ้ง เพราะมีชาวมอญล่องเรือบรรทุกตุ่มอีเลิ้ง มาวางขายเป็นจำนวนมากกลายเป็นชื่อเรียกคุ้นปาก จนถึงยุคสมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นนายกรัฐมนตรี จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อให้สุภาพขึ้นเป็น นางเลิ้ง และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นย่านที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและการค้าในสมัยนั้นอีกด้วย
ทั้งนี้ จุดแรกที่มาทำความรู้จักกัน คือ 'วัดสุนทรธรรมทาน หรือ วัดแคนางเลิ้ง' เป็นวัดที่เป็นศูนย์กลางแรกเริ่มของย่านนางเลิ้ง ตั้งแต่ก่อนที่จะมีการขุดคลองผดุงกรุงเกษม โดยมีวิหารหลวงพ่อบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่วัด ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่ชาวนางเลิ้งเคารพบูชาเป็นอย่างมาก อีกทั้งที่นี่ยังเป็นที่เก็บอัฐิของพระเอกหนังไทยตลอดกาล 'มิตร ชัยบัญชา' ซึ่งมีบ้านเกิดในย่านนี้
จากนั้น คุณสุวรรณ ได้นำผู้ร่วมกิจกรรมเดินลัดเลาะตามตรอก และได้พบกับ 'ตลาดนางเลิ้ง' ซึ่งเป็นตลาดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัย ร.5 ด้านในตลาดยังเป็นที่ตั้งของ 'ศาลกรมหลวงชุมพร' อันศักดิ์สิทธิ์ของคนในชุมชน และเดินไปไม่ไกลก็จะพบกับ 'ศาลาเฉลิมธานี หรือโรงหนังนางเลิ้ง' เป็นอาคารไม้เก่าแก่หลังใหญ่ โดยเมื่อก่อนจะมีการฉายหนังซึ่งยุคนั้นเป็นหนังเงียบ ขณะที่ฉายจะมีการเล่นดนตรีแตรวงประกอบไปด้วย และเป็นสถานที่ที่ผู้คนในย่านนี้มารวมตัวพบปะกัน แม้ว่าการฉายหนังจะยกเลิกไปแล้ว แต่ศาลาเฉลิมธานีก็ยังคงอยู่คู่กับนางเลิ้งมาจนถึงปัจจุบัน
เดินลัดเลาะมาต่อที่ 'บ้านนางเลิ้ง หรือบ้านศิลปะ' ที่นี่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้สัมผัสวิถีนางเลิ้งให้มากขึ้น ด้วยการเรียนรู้และลงมือทำ ขนมเรไรด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นขนมโบราณของชุมชน จากนั้นลึกเข้าไปในตรอกเดียวกันนี้เอง จะได้พบกับ 'บ้านเต้นรำ' บ้านเก่าหลังนี้เป็นพิพิธภัณฑ์และโรงเรียนสอนลีลาศ แต่ก่อนเป็นที่รวมตัวกันของนักธุรกิจมาพบปะสังสรรค์ ต่อมาเจ้าของบ้านจึงเปิดเป็นโรงเรียนสอนเต้นลีลาศ เพียงแค่ก้าวเท้าเข้าไปในบ้านเต้นรำ ก็เหมือนได้ย้อนอดีตกลับไปในยุคก่อน
นอกจากนี้ การไปเยือนของ SOOK Travel ในครั้งนี้ ยังเป็นโอกาสดีที่ได้ฟังครูกัญญา ทิพโยสถ ครูผู้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับละครชาตรีมาร้องรำละครชาตรีให้ฟังแบบสดๆ ซึ่งกระบวนท่ารำของครูกัญญาเป็นต้นตำรับละครไทยที่ไม่มีการผสมผสานละครแบบสมัยใหม่เลยแม้แต่ส่วนเดียว
ด้านผู้เข้าร่วมกิจกรรม คุณสุพัตรา วิทยานุดิษฐ์ อายุ 52 เล่าว่าการมาร่วมกิจกรรมครั้งนี้นอกจากได้รับความรู้แล้ว ยังได้ความสนุกสนาน ได้ฝึกทำขนมโบราณ อย่างขนมเรไรด้วยตัวเองและได้ชมการแสดงละครชาตรี จากครูที่มีความรู้เกี่ยวกับละครชาตรีแบบดั้งเดิม ซึ่ง ตอนนี้หาชมได้ยากมากอยากให้ สสส. จัดกิจกรรมแบบนี้ออกมาเรื่อยๆ เพราะมีประโยชน์กับทุกเพศทุกวัย
คุณสุภาสิริ ก้องเจริญกิจ อายุ 36 ปี บอกเล่าความประทับใจในการเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ว่า ได้รับความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนนางเลิ้งสมัยนั้น และชื่นชมคนในชุมชนที่มีความเข้มแข็งที่ยังสามารถอนุรักษ์และคงความเป็นวิถีชุมชนดั้งเดิมแบบนี้ได้
"ไม่คิดว่าจะมีชุมชนดั้งเดิมแบบนี้อยู่ในกรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้รู้จักนางเลิ้งในเรื่องของตลาดเก่าแก่ที่มีของกินอร่อย แต่พอมาได้สัมผัสนางเลิ้งอย่างใกล้ชิดแล้ว เป็นชุมชนที่มีเสน่ห์มาก หากมีเวลาว่างต้องมาอีกแน่นอน ต้องขอบคุณ สสส. ที่มีกิจกรรมดีๆ อย่างนี้มาตลอด และเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่ได้มาร่วมกิจกรรมกับ SOOK Travel และทุกครั้งที่มาก็จะได้รับความรู้ดีๆ ที่ได้จากวิทยากรในพื้นที่อย่างใกล้ชิด" คุณสุภาสิริเล่าทิ้งท้าย
เสน่ห์ของความเก่าแก่นี้เองทำให้ย่านนางเลิ้งมีความน่าสนใจไม่แพ้สถานที่อื่น หากใครที่อยากสัมผัสกับบรรยากาศย้อนยุค หรือเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมยุคเก่า ย่านนางเลิ้งก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ และสำหรับผู้ที่สนใจร่วมกิจกรรมกับ SOOK Travel ของทางศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. สามารถติดตามได้ที่ กกก.thaihealthcenter.org หรือ โทร. 08-1731-8270