ยกระดับอสม.เป็น “นักจัดการสุขภาพชุมชน”
กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารสุข จัดพิธีเชิดชูเกียรติอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ทั่วประเทศอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องใน "วันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ"ประจำปี 2558 ขยับสถานะ อสม. กว่า 1 ล้านคนทั่วประเทศ เป็น "นักจัดการสุขภาพ ภาคประชาชน" ร่วมทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทีมหมอครอบครัว ดูแลสุขภาพประชาชนทุกหมู่บ้าน และชุมชน โดยเฉพาะผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ พร้อมทั้งเป็น "ไอดอลชุมชน คนหวงชีวิตและหวงสุขภาพดี" ขยายผลถึงทุกหลังคาเรือน
แฟ้มภาพ
นาวาอากาศตรีนายแพทย์ บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2536 ให้ทุกวันที่ 20 มีนาคม ของทุกปีเป็น "วันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ" เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ที่อาสาทำหน้าที่ดูแลสุขภาพประชาชนในชุมชน หมู่บ้าน ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 37 ปี สามารถลดปัญหาสุขภาพในชุมชนได้ พลัง อสม.จึงเปรียบเสมือนเป็นหัวใจของระบบสุขภาพสมควรได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสาธารณชน
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มี อสม.มากที่สุดในโลก ขณะนี้มีอสม.ทั่วประเทศจำนวน 1,047,800 คน ดูแลประชาชนเฉลี่ย 1 คนต่อ 19 หลังคาเรือน โดยทำหน้าที่ "แก้ข่าวร้าย กระจายข่าวดี ชี้บริการ ประสานงานสาธารณสุข บำบัดทุกข์ประชาชน ดำรงตนเป็นแบบอย่างที่ดี" ซึ่งในปี 2558 รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข มี นโยบายยกระดับคุณภาพบริการด้านสาธารณสุข และสุขภาพของประชาชน วางรากฐานการเสริมสร้างความเข้มแข้ง การให้บริการด้านสาธารณสุขประชาชน โดยเฉพาะบริการดูแลขั้นพื้นฐาน ประชาชนสามารถเข้าถึง มีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพ โดยจัดโครงการหมอครอบครัวดูแลประชาชนทุกหลังคาเรือน เป็นที่ปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง และมีบริการดูแลสุขภาพประชาชนที่ต้องพึ่งพิงคนในครอบครัวช่วยดูแล 3 กลุ่ม ได้แก่ ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ผู้ป่วยที่รักษาไม่หายและอยู่ในระยะสุดของท้ายชีวิต
"ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป กระทรวงสาธารณสุขวางแผนพัฒนาศักยภาพ อสม.ใน 2 เรื่อง สนองนโยบายรัฐบาล ในการลดความเหลื่อมล้ำและแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น ได้แก่ การพัฒนาศักยภาพระบบสุขภาพระดับอำเภอ มุ่งเน้นการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรคลดจำนวนผู้เจ็บป่วย โดยจะอบรม อสม. 250,000 คน เป็น อสม.เชี่ยวชาญในการดูแลสุขภาพประชาชน 5 กลุ่มวัน ได้แก่ สตรีและเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี เด็กวัยเรียน วัยรุ่น วัยทำงาน และผู้สูงอายุทำงานร่วมกับทีมหมอครอบครัวในระดับชุมชน ออกเยี่ยมบ้านผู้ที่ต้องดูแลใกล้ชิด 3 กลุ่ม คือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วยระยะสุดท้าย รวมประมาณ 2 ล้านคน และสำรวจจำนวนผู้พิการเพื่อดูแลช่วยเหลือให้เข้าถึงสิทธิตามกฎหมาย พบว่าผู้พิการร้อยละ 90 มีปัญหาสุขภาพและดูแลตนเองยากลำบาก มั่นใจว่าทีมหมอครอบครัวของกระทรวงสาธารณสุข จะช่วยประชาชนทุกคนทุกพื้นที่ เข้าถึงบริการ และได้รับการช่วยเหลือในสิทธิอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพชีวิตยิ่งขึ้นเนื่องจาก อสม.เป็นคนในพื้นที่ รู้สภาพความเป็นอยู่ของหมู่บ้านชุมชน และส่วนใหญ่เป็นเครือญาติ เพื่อนบ้านที่รู้จักคุ้นเคยกัน คาดว่าจะทำให้ปัญหาความทุกข์ของชาวบ้านจะลดลงเรื่อยๆได้รับการดูแลดีขึ้น"
อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จะสร้าง อสม.ป้องกันและ ปราบปรามทุจริต หรือ อสม. ปปช. โดยจัดอบรม อสม.ป.ป.ช. จำนวน 87,800 คน ภายในเดือนเมษายนนี้ เพื่อขยายผลไปยัง อสม.ทั่วประเทศ เป็นเครือข่ายพลเมืองดี มีหน้าที่ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ส่งเสริมให้เกิดความโปร่งใสขึ้นสในทุกชุมชนของประเทศ และทำตนเป็นแบบอย่างทีดีในการไม่ทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย หลุดโผประเทศคอร์รัปชั่นสูงของโลก และสร้างอันดับไทยเป็นประเทศโปร่งใส อันดับต้นของโลก เนื่องจาก อสม.เป็นบุคคลที่ใกล้ชิดพื้นที่ ได้รับการยอมรับ ไว้วางใจจากชุมชน
"จะยกระดับ อสม. ให้เป็นนักจัดการสุขภาพชุมชน เป็นผู้เชี่ยวชาญดูแลสุขภาพ 5 กลุ่มวัย ซึ่งจะทำให้ อสม.มีศักยภาพเพื่อร่วมทำงานกับทีมครอบครัว และปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นแกนนำปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงการเจ็บป่วยของชุมชน โดยเฉพาะด้านอุบัติเหตุจราจร ซึ่งประเทศไทย มีอัตราการเสียชีวิตจากสาเหตุนี้มากเป็นอันดับ 3 ของโลก ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีฝากความหวังในวาระการปฏิรูปประเทศไทย โดยใช้พลัง อสม.ในการมีส่วนช่วยลดความขัดแย้ง สร้างความปรองดอง เฝ้าระวังป้องกันการทุจริตในพื้นที่ ได้อีกด้วย"
สำหรับกิจกรรมในวัน อสม. แห่งชาติ ประจำปี 2558 นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง กล่าวว่า มีพิธีมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์แก่ อสม. ที่ทำงานครบ 25 ปี และมีผลงานดีเด่นอย่างต่อเนื่อง ชั้นเหรียญเงิน และเหรียญทอง รวม 23 คน การนำเสนอผลงาน อสม.ดีเด่นระดับชาติ และพิธีมอบรางวัลแก่ อสม.ดีเด่นประจำปี 2558 จำนวน 10 สาขา รวมทั้งพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และกรุงเทพฯ ในระดับชาติ 15 คน ระดับภาค 30 คน ระดับเขตสุขภาพ 80 คน ระดับจังหวัด 78 ทีม รวม 651 คน และทีมสนับสนุน อสม.ดีเด่นระดับชาติ 15 ทีม การบรรยายพิเศษเรื่อง "การขับเคลื่อนงานสุขภาพภาคประชาชนในประชาคมอาเซียน" และมอบรายชื่อ อสม.ที่ร่วมสนับสนุนร่างพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ….กว่า 100,000 รายชื่อ รวมทั้งการประกาศเจตนารมณ์ของ อสม.เนื่องในวันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก