มาขยับ…ลดพุงกันเถอะ
ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ภาพประกอบจากเว็บไซต์คมชัดลึก
ด้วยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการทำ กิจกรรมทางกาย จึงเป็นที่มาของโครงการ "ชวนขยับลดพุง"
ภายใต้การกำกับของสำนักส่งเสริม วิถีชีวิตสุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เพื่อสนับสนุนให้เกิดการรับรู้และเป็นการเสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง รวมถึงสร้างความเข้าใจถึงประโยชน์ของการมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอในชีวิตประจำวัน ดังนั้นเพื่อให้วัตถุประสงค์ดังกล่าวลุล่วง สสส.จึงเชิญ ผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ และร่วมเวิร์กช็อป ที่โรงแรมเล็ตส์ ซี หัวหิน เมื่อวันก่อน
"โอ๊ต" ภคพงศ์ วิเศษสินธุ์ นักวิทยาศาสตร์การกีฬาและวิทยากรด้านการออกกำลังกาย กล่าวว่า กิจกรรมทางกายนั้นหมายถึงการเคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งควรทำอย่างสม่ำเสมอเพราะเป็นพฤติกรรมที่สร้างเสริมสุขภาพ และมีผลต่อการป้องกันโรคต่างๆ กิจกรรมทางกายนี้แบ่งเป็น 3 ระดับคือ กิจกรรมทางกายระดับเบา คือกิจกรรมที่สามารถทำไปด้วยร้องเพลงไปด้วยได้อย่างสบายๆ ส่วน กิจกรรมทางกายระดับปานกลาง คือกิจกรรมที่ทำแล้วเหนื่อย ทำให้หัวใจเต้นแรง หายใจเร็วขึ้น และไม่สามารถร้องเพลงได้อย่างต่อเนื่อง แต่พูดคุยประโยคยาวๆ ได้ ขณะที่ กิจกรรมทางกายระดับหนัก จะทำให้หัวใจเต้นแรง หายใจหอบ ไม่สามารถพูดประโยคยาวๆ ได้ เพราะหายใจไม่ทัน ซึ่งถ้าต้องการมีสุขภาพดี ควรมีกิจกรรมทางกายระดับปานกลางอย่างสม่ำเสมอเป็นเวลาอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ หรือเฉลี่ยอยู่ที่ 30 นาทีต่อวัน โดยเริ่มจากการปรับพฤติกรรมการเคลื่อนไหวง่ายๆ เช่นการเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ เป็นต้น และสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศ ในทุกๆ 1 ชั่วโมงควรมีการขยับร่างกายอย่างน้อย 5 นาที
ด้าน "นิว" วีระเดช ผเด็จพล ผู้เชี่ยวชาญ ด้านการออกกำลังกาย และโภชนาการ แนะนำว่า ปัจจุบันคนเริ่มมีน้ำหนักตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะคนเมือง ซึ่งมีสาเหตุจากการใช้ชีวิตไม่สมดุล โดยเฉพาะการกินหรือรับพลังงานเข้ามามากกว่าการขยับเขยื้อนร่างกาย นั่นเพราะไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำงานนานๆ นั่งเล่นมือถือนานๆ หรือแม้กระทั่งการนั่งรถไปทำงาน เหล่านี้ล้วนสวนทางกับเรื่องกิน เพราะส่วนใหญ่คนจะเลือกกินอาหารที่หาง่ายและหน้าตาสวยงามมากกว่ากินอาหารจากธรรมชาติที่มีการปรุงแต่งน้อย ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มและค่อยๆ สะสมไปเรื่อยๆ
"ในแต่ละวันเราควรบริโภคอาหารจากธรรมชาติ อาทิ ผัก ผลไม้ อาหารทะเล เป็นต้น เลือกกรรมวิธีการปรุงไม่มากเกินไป โดยปริมาณการกินในแต่ละมื้อแนะนำให้เป็นข้าว 1 ใน 4 ส่วน เนื้อสัตว์ดี 1 ส่วน และอีก 2 ส่วนควรเป็นผัก และควรลดเครื่องดื่มที่ให้พลังงานสูง ลดการกินของแปรรูป ของทอด ของมัน และควรเพิ่มหลัก 6 6 1 เข้าไป นั่นคือในแต่ละวันควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชา ไขมันไม่เกิน 6 ช้อนชา และเกลือไม่เกิน 1 ช้อนชา ซึ่งถ้าสามารถทำได้ตามที่แนะนำเชื่อว่าสุขภาพจะดีขึ้นแน่นอน" ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ