“มะเร็งปากมดลูก”คร่าชีวิตหญิงไทย

เหตุอายไม่กล้าให้หมอตรวจ

 “มะเร็งปากมดลูก”คร่าชีวิตหญิงไทย

          กระทรวงสาธารณสุข เปิดตัว โครงการรณรงค์ตรวจหามะเร็งปากมดลูก เฉลิมพระเกียรติ 116 วัน จากวันแม่ถึงวันพ่อแห่งชาติเริ่มที่ผู้หญิงอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ตั้งเป้าให้ได้ 1 ล้านคน ไอเดียเก๋ผลิตกางเกงในวิเศษ เมดอินไทยแลนด์ ให้สวมใส่ลดความอายขณะตรวจมะเร็งปากมดลูก เหตุเพราะจำนวนหญิงไทยมีอัตราการเสียชีวิต จากมะเร็งปากมดลูกเพิ่มขึ้น 8 ล้านคน เพราะอายหมอ ไม่กล้าไปตรวจ คาดปีสิ้นปี 2551 อาจะพบผู้ป่วยรายใหม่มากถึง 8,000 ราย

 

          นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โครงการรณรงค์ตรวจหามะเร็งปากมดลูกเฉลิมพระเกียรติ 116 วัน จากวันแม่ถึงวันพ่อแห่งชาติจะเริ่มให้บริการพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 5 ธันวาคม ศกนี้ ตั้งเป้าตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในหญิงอายุ 35 ปี ขึ้นไป จำนวน 1,000,000 คน โดยเริ่มให้บริการวันแรกที่ บริษัท เดลต้า อิเลคโทรนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมบางปู อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ มีพนักงานหญิงประมาณ 1,000 คน โดยในปี 2549 มีผู้หญิงสมุทรปราการเสียชีวิตจากโรคนี้ 54 ราย

 

          ขณะนี้โรคมะเร็งปากมดลูกเป็นสาเหตุที่ทำให้หญิงไทยเสียชีวิตมากเป็นอันดับ 1 ในปี 2539 พบผู้ป่วยรายใหม่ 6,228 ราย และในปี 2551 คาดว่าจะมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 8,000 ราย โดยร้อยละ 90 พบผู้ป่วยมากในช่วง 35-50 ปี และส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 80 จะเสียชีวิตเพราะโรคลุกลามไปแล้ว ซึ่งแท้จริงแล้วมะเร็งชนิดนี้เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ และรักษาได้หายขาดได้ ถ้าตรวจพบและได้รับการรักษาตั้งแต่แรกเริ่มที่เซลล์มะเร็งยังไม่ลุกลาม

 

          จากผลการวิจัยหากสามารถตรวจหามะเร็งปากมดลูกให้ครอบคลุมร้อยละ 80 ของผู้หญิงไทยทุกปี จะลดอัตราการตายจากมะเร็งปากมดลูกได้ถึงร้อยละ 61 และภายใน 5 ปี คาดว่าจะลดอัตราการเกิดมะเร็งปากมดลูกลงได้ร้อยละ 50 ที่ผ่านมาพบว่าหญิงไทยยังติดเรื่องอายหมอมากที่สุด ไม่กล้าไปตรวจมะเร็งปากมดลูก ทำให้ตรวจคัดกรองได้ไม่ถึงร้อยละ 20 ของผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งมี 10 ล้านคน

 

          แสดงให้เห็นว่าขณะนี้มีผู้หญิง 8 ล้านคน ที่อายหมอ หากหญิงไทยไม่อายก็จะไม่ตาย ถ้าอายก็จะเสี่ยงสูง เพื่อแก้ปัญหาเรื่องอาย ในการตรวจพบความผิดปกติ ก็จะทำการรักษาต่อจนหาย และต่อไปจะรณรงค์การตรวจมะเร็งเต้านมด้วย เพราะป้องกันได้

 

          ด้าน นายแพทย์ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข จะได้จัดทำกางเกงในวิเศษ เป็นกางเกงที่เจาะเป้าให้หญิงที่จะตรวจมะเร็งปากมดลูกใส่แทนถุงที่เคยใช้อยู่ในโรงพยาบาล เพื่อลดความอายในการเปิดเผยร่างกายมากเกินไป การตรวจมะเร็งปากมดลูกนั้นมี 2 วิธี ได้แก่ วิธีแบบแป๊บสเมียร์ (pap smear) คือการป้ายเซลล์เยื่อบุบริเวณปากมดลูกไปตรวจหาเซลล์มะเร็ง และ วิธีวีไอเอ (via) คือตรวจด้วยกรดน้ำส้มสายชูความเข้มข้น 3-5 % ซึ่งง่ายทั้ง 2 วิธี ใช้เวลาตรวจไม่ถึงรายละ 5 นาที

 

          โรคมะเร็งปากมดลูก ใช้เวลาก่อตัวนาน 5-10 ปี โดยไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด หากเป็นในระยะแรก สามารถตรวจพบโดยใช้วิธีแป็บสเมียร์ หากอยู่ในระยะลุกลาม จะมีอาการตกขาวมีกลิ่น มีเลือดออกทางช่องคลอด หรือตกขาวมีลักษณธคล้ายน้ำคาวปลา หากเป็นมากอาจถ่ายปัสสาวะเป็นเลือด หรือปัสสาวะลำบาก

 

          ผู้หญิงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ไม่ว่าจะเคยหรือไม่เคยมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ ควรรับตรวจหามะเร็งปากมดลูกทุกปี หรืออย่างน้อย 5 ปีครั้ง การตรวจจะทำในขณะที่ไม่มีรอบเดือน และก่อนเข้ารับการตรวจหามะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีแป๊บเสมียร์ 2 วัน ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ ไม่สวนล้าง หรือทำความสะอาดภายในช่องคลอด ยกเว้นการเหน็บยาทางช่องคลอด ซึ่งการใช้วิธีแป๊บเสมียร์ จะแจ้งผลการตรวจกลับภายใน 15 วัน

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

 

 

update : 25-08-51

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code