มะนาวช่วยเลิกบุหรี่ได้!!!
ชี้วิตามินซีมีสารช่วยลด ความอยากนิโคติน
พบคุณวิเศษมะนาวกินเลิกบุหรี่ได้ ชี้ในวิตามินซีมีสารช่วยลดความอยากนิโคติน ทั้งทำให้รสชาติของบุหรี่เปลี่ยนไป เผยผลทดลองในนักเรียนได้ผลดี สามารถเลิกบุหรี่ได้ภายใน 2 สัปดาห์
ผศ.กรองจิต วาทีสาธกกิจ ที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวในการประชุมวิชาการ “บุหรี่กับสุขภาพแห่งชาติ” ครั้งที่7 เรื่อง “เยาวชนรุ่นใหม่ ร่วมใจต้านภัยบุหรี่” จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) ว่า จากผลการวิจัยพบในวิตามินซีจะมีสารที่ช่วยลดความอยากนิโคตินได้ และช่วยฟื้นฟูร่างกายที่ทรุดโทรมให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า จึงมีการนำไปใช้เพื่อช่วยเลิกบุหรี่ โดยเทคนิคการรับประทานผลไม้รสเปรี้ยวที่มีวิตามินซีสูง โดยเฉพาะมะนาวพบว่าเมื่อนำไปใช้แล้วมีประสิทธิภาพได้ผลดีมาก เนื่องจากมะนาวมีผลต่อการทำงานของต่อมรับรสขม ทำให้รสชาติของบุหรี่เปลี่ยนไป
ผศ.กรองจิตกล่าวว่าวิธีการกินมะนาวช่วยเลิกบุหรี่ต้องหั่นมะนาวเป็นชิ้นเล็กๆ ให้มีเปลือกติดมาด้วย ขนาดเท่าหัวแม่โป้ง หรือพอคำ เมื่อมีความรู้สึกอยากสูบบุหรี่ให้กินมะนาวแทน โดยอมแล้วค่อยดูดความเปรี้ยว จากนั้นเคี้ยวเปลือกอย่างช้าๆ นาน 3-5 นาที จะมีผลทำให้ลิ้นขม เฝื่อน จากนั้นดื่มน้ำ 1 อึก นอกจากช่วยลดความอยากนิโคตินแล้ว เมื่อสูบบุหรี่จะทำให้รสชาติบุหรี่เปลี่ยนเป็นขมจนไม่อยากสูบ และสามารถกินมะนาวหรือผลไม้ชนิดอื่นที่มีความเปรี้ยวมากๆ ได้ทุกครั้งที่เกิดความอยากบุหรี่ แต่เมื่อเทียบกันพบว่ามะนาวจะได้ผลดีที่สุด
“การเลิกบุหรี่ด้วยการกินมะนาว ส่วนใหญ่จะสามารถเลิกบุหรี่ได้ภายใน 2 สัปดาห์ และไม่อยากบุหรี่อีก ถือว่าชนะนิโคตินได้ มีการนำไปทดลองกับนักเรียน หลายคนที่ได้ทดลองวิธีนี้จะรู้สึกว่าสูบบุหรี่แล้วไม่อร่อย รสชาติไม่เหมือนเดิม ทำให้ไม่อยากสูบบุหรี่อีก อย่างไรก็ตาม แม้อาการทางกาย คือความอยากจะหมดไป แต่อาการทางใจบางครั้งจะยังมีอยู่ เช่น เศร้า หงุดหงิดเหมือนคนอกหัก คนรอบข้างต้องให้กำลังใจ และตั้งใจเลิกอย่างเด็ดขาดจะสามารถเลิกได้อย่างแน่นอน” ผศ.กรองจิตกล่าว
ด้านนางอนงค์ พัวตระกูล อาจารย์โรงเรียนบางมดวิทยา “สีสุกหวาดจวนอุปถัมภ์” ซึ่งได้รับรางวัลควบคุมยาสูบแห่งชาติ ประเภทสถานศึกษาปลอดบุหรี่ กล่าวว่าจากการทำค่ายลดละเลิกบุหรี่ โดยนำนักเรียนที่สูบบุหรี่จำนวน 75 คนมาทำกิจกรรม โดยให้ความรู้ถึงพิษภัยของบุหรี่ และให้เด็กใช้เวลาในการเลิกบุหรี่อย่างจริงจังประมาณ 3-7 วัน รวมทั้งใช้วิธีการเคี้ยวมะนาวเพื่อช่วยลดความอยากสูบบุหรี่ พบว่าร้อยละ 75 จะสูบเป็นครั้งคราว เมื่อผ่าน 2 สัปดาห์ จะมีเด็กที่เลิกสูบเด็ดขาดร้อยละ 50 และภายใน 1 ปีมีเด็กเพียงร้อยละ 30 ที่กลับไปสูบอีก โดยปัจจัยเสริมที่ทำให้เลิกได้ พบว่า หากเป็นเด็กที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงก็จะเลิกง่ายกว่าเด็กที่หัวอ่อนตามเพื่อน
“ภาย 2 สัปดาห์พบว่าการติดตามพฤติกรรมร่วมกับการใช้มะนาวช่วยเลิกบุหรี่สามารถทำให้เด็กลดและเลิกบุหรี่ได้ นอกจากนี้ต้องมีคนให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ ซึ่งโรงเรียนต้องใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็งในการดูแลเด็ก มีการทำโทษ แจ้งผู้ปกครอง หรือแม้แต่การให้ไปเสียค่าปรับที่โรงพักก็เคยมี เนื่องจากการเลิกบุหรี่ในเด็กกับผู้ใหญ่มีความแตกต่างกัน ส่วนใหญ่ที่เลิกได้จริงก็จะเกิดจากความตระหนักรู้เกี่ยวกับพิษภัย และไม่กลับมาสูบบุหรี่อีกตลอดไป” นางอนงค์กล่าว
นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในปี 2550-2551 นี้ สธ.มีนโยบายให้สถาบันการศึกษาในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนก เป็นต้นแบบของสถาบันการศึกษาด้านสุขภาพในการแก้ไขปัญหาบุหรี่และสุขภาพ เนื่องจากบุหรี่เป็นสาเหตุให้คนไทยตายจากโรคมะเร็งปอด โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคถุงลมโป่งพอง และเส้นเลือดในสมองแตก หรือตีบ รวมปีละกว่า 42,000 คน เฉลี่ยวันละ 115 คน
ดังนั้น บุคลากรและนักศึกษาของสถาบันฯ ควรมีบทบาทสำคัญในการรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และเป็นตัวอย่างที่ดีและมีความรู้ความสามารถในการส่งเสริมการไม่สูบบุหรี่ด้วย เพื่อลดการเจ็บป่วยจากโรคที่มีสาเหตุจากการสูบบุหรี่ สธ.จึงร่วมกับมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ นำร่องโครงการใน 6 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ใน 5 จังหวัด คือ ชลบุรี ชัยนาท ลำปาง มหาสารคาม ตรัง และวิทยาการสาธารณสุขสิรินธร 1 แห่ง ที่จังหวัดพิษณุโลก เป็นวิทยาลัยต้นแบบจัดสิ่งแวดล้อมให้เป็น “เขตปลอดบุหรี่” บรรจุเรื่องการแนะนำการเลิกสูบบุหรี่เข้าไปในหลักสูตรการเรียนการสอนนักศึกษา ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ดำเนินการระหว่างเดือนสิงหาคม 2550-พฤษภาคม 2551 การประเมินผลพบว่าได้ผลดี ผู้ที่สูบบุหรี่ร้อยละ 93 อยากเลิกสูบบุหรี่ ส่วนบุคลากรของสถาบันร้อยละ 98 รู้สึกสบายใจเมื่อทราบว่าวิทยาลัยเป็นเขตปลอดบุหรี่ ในปี 2552 จึงมีนโยบายขายผลเพิ่มอีก 31 แห่ง
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
update : 18-08-51