“มหกรรมเบาหวานโลก” ของขวัญสุขภาพคนไทย

กระตุ้นประชาชน ห่างไกลเบาหวาน

 

          กรุงเทพมหานคร ร่วมกับสมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศ ในพระบรมราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมาคมต่อมไร้ท่อแห่งประเทศไทย, กระทรวงสาธารณสุข และบริษัทผลิตภัณฑ์ยาชั้นนำประเทศไทย จัดมหกรรมเบาหวานเนื่องในโอกาสวันเบาหวานโลก คอนเซ็ปต์ คนไทยรู้ทันป้องกัน ดูแลเบาหวาน เพื่อกระตุ้นให้คนไทยตระหนักถึงผลกระทบจากโรคเบาหวาน รวมถึงการมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้คนไทยห่างไกลเบาหวาน ซึ่งจะจัดขึ้น ณ ชั้น 3 สยามพารากอน ในวันที่ 26 พ.ย. 51 ตั้งแต่เวลา 11.00-17.30 น.

 

          ศ.เกียรติคุณ พญ.ชนิกา ตู้จินดา ประธานคณะกรรมการรณรงค์โรคเบาหวาน กล่าวว่า ปีนี้วันเบาหวานโลกตรงกับวันที่ 14 พ.ย.51 แต่เลื่อนการจัดงานเป็นวันที่ 26 พ.ย.51 ณ สยามพารากอน เนื่องจากมีพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ การรณรงค์ปีนี้เน้นปัญหาโรคเบาหวานในเด็กวัยรุ่น ที่กำลังเป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ เพื่อเป็นของขวัญสำหรับคนเมืองที่จะเปลี่ยนลักษณะการบริโภคและเข้าใจถึงอันตรายของโรคเบาหวาน

 

          “แม้จะเป็นโรคที่เกิดแบบเงียบๆ แต่ผลกระทบจากโรคร้ายแรงไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลแห่งความสุขทั้งคริสต์มาส ปีใหม่ถือเป็นเวลาที่คนไทยมีความสุขเอ็นจอยการสังสรรค์ ผู้หลักผู้ใหญ่ได้รับกระเช้าจากลูกหลานเด็กๆ เพลิดเพลินกับการรับประทานเค้ก คุ้กกี้สารพัดทำจากเนย แยม ช็อกโกแลต เป็นขนมที่มีปริมาณน้ำตาลมาก บางครอบครัวจัดงานเลี้ยงของตัวเองบ้าง หรือไปร่วมงานบ้านเพื่อนบ้าน ญาติรับประทานตลอดเวลาอาหารหวาน มัน เค็ม และน้ำอัดลม” พญ.ชนิกากล่าว

 

          ประธานคณะกรรมการรณรงค์โรคเบาหวาน กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ความจริงไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่สามารถรับประทานอาหารแบบนี้ แต่ต้องในปริมาณที่เหมาะไม่ใช่ทานเป็นประจำ หากเป็นเด็กผู้ปกครองให้คำแนะนำหรือควบคุมการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงและหวานจัดเพราะทั้งเค้ก คุ้กกี้ ไอศกรีม เป็นของโปรดของเด็กทั้งสิ้น ส่วนผู้ใหญ่ลูกหลานควรเลือกกระเช้าของขวัญที่มีประโยชน์ อาจเป็นผลไม้ อาหารเสริมบางประเภท แต่ต้องทราบว่าผลกระทบต่อผู้ป่วยเบาหวานหรือไม่ พยายามหลีกเลี่ยงของขวัญที่เป็นขนมนมเนย

 

          พญ.ศรีวรรณ พูลสรรพสิททธิ์ ที่ปรึกษากระทรวงสาธารณสุข ด้านเวชกรรม กล่าวว่าเนื่องในวันเบาหวานโลกปีนี้ได้รับพระกรุณาธิคุณจากเจ้าหญิงแมรี พระชายามกุฎราชกุมารแห่งประเทศเดนมาร์กเสด็จเยี่ยมการบริการโรคเบาหวานที่ศูนย์แพทย์ชุมชนบางขะแยง ปทุมธานีและทรงสาธารณสุขรับมอบหน่วยบริการตรวจตราเคลื่อนที่

 

          ทั้งนี้ ประเทศเดนมาร์กถือเป็นต้นแบบการควบคุมการแพร่กระจายโรคเบาหวานอย่างดีเยี่ยม สามารถประสานความร่วมมือได้ถึงโรงงานผลิตอาหาร ร้านอาหาร ประชากรจะไม่มีการเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานเพิ่มขึ้น ถือเป็นนิมิตรอันดีที่ได้รับความร่วมมือจากประเทศที่ประสบความสำเร็จจากการควบคุมโรคเบาหวาน การที่มีหน่วยบริการเคลื่อนที่ถึงชุมชน นับเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับคนกรุงเทพฯ ไม่ต้องไปรับการบริการถึงโรงพยาบาลแต่นอกเหนือจากการได้รับของขวัญจากกระทรวงสาธารณสุขแล้ว คนไทยสามารถสร้างสุขได้โดยการเริ่มต้นดูแลสุขภาพ

 

          โดยเฉพาะเทศกาลปีใหม่ ถือเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขของคนไทย และเป็นธรรมเนียมมีการมอบของขวัญให้ผู้ใหญ่หรือเพื่อนร่วมงาน ถ้าจัดเป็นกระเช้าต้องดูมาตรฐานการผลิต มี อย.รับรองวันผลิตเป็นพื้นฐานการพิจารณา ควรเลือกอาหารที่เป็นประโยชน์ ถ้าเป็นบุคคลทั่วไปสามารถเลือกได้หลากหลาย แต่มอบให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานต้องคำนึงถึงผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่อาหารจัด เค้ก คุ้กกี้ ขนมนมเนยเลี่ยงได้ควรเลี่ยงได้ควรเลี่ยงเด็ดขาด เพราะคนไทยบริโภคความหวานเกินความต้องการของร่างกายคนละ 31 กิโลกรัม ต่อคนต่อปี นับเป็นสัญญาณอันตรายของคนไทยอย่างมาก

 

          ทางด้าน นพ.ไกรจักร แก้วนิล ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร กล่าวว่านโยบายของกรุงเทพในปีหน้าเกี่ยวกับด้านสุขภาพมี 4 หัวข้อใหญ่ คือ การทำให้คนเมืองมีหัวใจที่แข็งแรง จิตใจแจ่มใส รูปร่างสมส่วนและมีอากาศที่บริสุทธิ์ โดยจะจัดทำในรูปแบบสื่อประชาสัมพันธ์และกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับภาคีเครือข่าย ถือว่าเป็นการให้ของขวัญกับชาวกรุงเทพมหานคร

 

          “สิ่งที่น่าเป็นห่วงในชีวิตของคนเมืองคือการใช้ชีวิตที่ไม่ค่อยมีเวลาให้กับการดูแลสุขภาพตัวเอง ซึ่งสิ่งที่เห็นได้ชัดคือ การเป็นโรคอ้วนลงพุงปกติรอบเอวผู้ชายไม่ควรเกิน 36 นิ้ว และผู้หญิงไม่ควรเกิน 32 นิ้ว ด้วยเหตุนี้ทำให้เกิดการเจ็บป่วยที่มาจากการอ้วน อาทิ ความดัน เบาหวานและโรคหัวใจ ดังนั้นจึงอยากจะให้ทุกคนหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพขอตัวมันเองมากขึ้น เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้” นพ.ไกรจักรกล่าว

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

 

 

update 17-11-51