สำรวจพบมีแอลกอฮอล์เป็นเครื่องกระตุ้น
กรุงเทพฯ – พม.ย้ำต้องเฝ้าระวังเยาวชนเที่ยวคืนลอยกระทงแล้วเลี้ยงเข้าม้านรูด ยกผลสำรวจปี 48 เป็นตัวชี้วัด เสียตัวกว่าครึ่งพันโดยมีแอลกอฮอล์เป็นเครื่องกระตุ้น
นายอุดมเดช รัตนเสถียร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.)เป็นประธานแถลงข่าวเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ ในโครงการ “ลอยกระทงสุขใจ ปลอดภัยทั้งครอบครัว” ว่ามีความเป็นห่วงต่อพฤติกรรมของกลุ่มเด็กวัยรุ่นในช่วงเทศกาลลอยกระทง เนื่องจากข้อมูลจากการสำรวจ “พฤติกรรมทางเพศและกิจกรรมในคืนวันลอยกระทงของกลุ่มวัยรุ่น” ของศูนย์เฝ้าระวังและเตือนภัยทางสังคม ปี 2548 จากกลุ่มตัวอย่าง 8,317 ราย พบว่ามีกลุ่มตัวอย่างที่ไปเที่ยวในคืนวันลอยกระทง 5,928 รายส่วนใหญ่ไปกับเพื่อน แฟน หรือบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัว ถึง 4,019 ราย กลุ่มที่ไปกับบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัว มีเพศสัมพันธ์ 563 ราย ในจำนวนนี้มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก 75 ราย นอกจากนี้ยังพบว่าพฤติกรรมการดื่มสุราส่งผลให้เกิดการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกด้วย
“จึงขอฝากย้ำเตือนพ่อแม่ ผู้ปกครองและสังคมให้ช่วยกันเฝ้าระวังดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด และ พม.ได้ร่วมกับ สตช. ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศ เฝ้าติดตามพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนอีกแรง หากพ่อแม่ ผู้ปกครอง ประชาชนพบเห็นเด็ก เยาวชน หรือสตรี ตกอยู่ในสภาวะที่เสี่ยงต่อการเกิดอันตราย หรือประพฤติตนไม่เหมาะสม แจ้งได้ที่ศูนย์ประชาบดี โทร.1300 ตลอด 24 ชั่วโมง และใช้บริการได้ทั่วประเทศ” นายอุดมเดชกล่าว
พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานจราจรกล่าวถึงมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงเทศกาลลอยกระทง วันที่ 12 พ.ย.ว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกวดขันจับกุมแก๊งรถจักรยานยนต์ซึ่งที่ออกขับขี่ไปตามถนนต่างๆ ในคืนดังกล่าว พร้อมทั้งตั้งจุดตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในทุกพื้นที่อย่างจริงจังเช่นกัน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ และถือเป็นการป้องปรามผู้เมาสุราที่ใช้รถ นอกจากนี้ได้กำชับให้การกวดขันจับกุมผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรโดยเฉพาะรถแท็กซี่ และรถที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมาก
ด้าน พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบ.ก.น.2 กับพวก แถลงถึงการกวาดล้างอาชญากรรมในพื้นที่ ตามนโยบายการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมก่อนถึงช่วงเทศกาลวันลอยกระทง สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้รวมทั้งสิ้น 301 ราย ผู้ต้องหา 322 คน พร้อมของกลางอีกจำนวนหนึ่ง โดยแบ่งเป็น คดีลักทรัพย์ 2 ราย ผู้ต้องหา 2 คน ทำร้ายร่างกาย 3 ราย ได้ผู้ต้องหา 3 คน ข่มขืนกระทำชำเรา 1 ราย ผู้ต้องหา 1 คน ต่างด้าว 50 ราย ผู้ต้องหา 50 คน จำหน่ายยาเสพติด ยาบ้า กัญชา และเฮโรอีน 137 ราย ผู้ต้องหา 139 คน ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย 20 ราย ผู้ต้องหา 20 คน การพนัน 9 ราย ผู้ต้องหา 28 คน ค้าประเวณี 13 ราย ผู้ต้องหา 13 คน จำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต 50 ราย ผู้ต้องหา 50 คน อาวุธปืน 2 ราย ผู้ต้องหา 2 คน ผู้เล่นและจำหน่ายดอกไม้เพลิงรวม 7 ราย ผู้ต้องหารวม 7 คน ลักรถ จยย.ได้ 4 ราย ผู้ต้องหา 4 คน และคดีบุกรุก ทำร้ายร่างกายรวม 3 ราย ผู้ต้องหา 3 คน
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
update 12-11-51