พบไฟช็อร์ต/ฟ้าผ่า ปีละกว่า1 หมื่นราย

ส่วนใหญ่เกิดในบ้าน แนะต้องป้องกัน

พบไฟช็อร์ต/ฟ้าผ่า ปีละกว่า1 หมื่นราย 

          นพ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากกระแสไฟฟ้า มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แม้ปัจจุบันอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ จะพัฒนาเทคโนโลยีให้มีความปลอดภัยในระดับสูงแล้วก็ตาม สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ได้เฝ้าระวังและวิเคราะห์สถานการณ์อันตรายจากกระแสไฟฟ้าในไทย ช่วงปี 2545-2549 พบทั่วประเทศมีแนวโน้มการบาดเจ็บสูงขึ้นจาก 9,128 รายในปี 2545 เป็น 12,692 ราย ในปี 2549 เฉลี่ยปีละ 11,060 ราย ซึ่งร้อยละ 5 บาดเจ็บรุนแรง และจำนวนการเสียชีวิตเพิ่มจาก 493 ราย เป็น 673 ราย ในช่วงเดียวกัน เฉลี่ยปีละ 548 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ร้อยละ 81 เป็นชายมากกว่าผู้หญิง 4-5 เท่าตัว โดยร้อยละ 42 อายุ 15-29 ปี และพบเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี ถูกไฟฟ้าช็อร์ตปีละ 6-10 ราย เสียชีวิตปีละ 1 ราย ซึ่งในเด็กเล็กพบว่ามักเกิดมาจากการกัด เคี้ยวสายไฟ หรือแหย่วัตถุโลหะ เข้าปลั๊กไฟ

 

          นพ.สุพรรณกล่าวว่า สถานที่เกิดเหตุเกือบครึ่งเกิดขึ้นที่บ้านหรือในบริเวณบ้าน รองลงมาคือสถานที่ก่อสร้าง โรงงาน ร้อยละ 22 ถนนทางหลวง ร้อยละ 8 ในไร่นา ร้อยละ 6 สถานที่ขายสินค้า ร้อยละ 5 โดยส่วนใหญ่มักจะถูกไฟดูดจากเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องซักผ้า ตู้เย็น เครื่องทำน้ำเย็น รวมถึงตู้โทรศัพท์ ตู้เอทีเอ็ม และการสัมผัสไฟฟ้าแรงสูง นอกจากนี้ ยังพบการบาดเจ็บจากการถูกฟ้าผ่า ขณะใช้โทรศัพท์มือถือช่วงที่มีฝนฟ้าคะนอง และมีรายงานการเสียชีวิตจากการถูกฟ้าผ่าขณะใช้โทรศัพท์มือถือ 3 ราย ที่จีน เกาหลี และมาเลเซีย สำหรับการช่วยเหลือผู้ที่ถูกไฟดูด ขั้นแรกต้องปิดสวิตช์เพื่อตัดวงจรไฟฟ้าก่อน ไม่ควรใช้มือเปล่าจับผู้ถูกไฟดูดโดยตรง ให้ใช้ผ้าคล้องออกมาก่อนทำการช่วยชีวิตขั้นต้น แต่หากเป็นกระแสไฟแรงสูง ไม่ควรเข้าใกล้

 

          นพ.สุพรรณกล่าวว่า บาดแผลจากถูกไฟฟ้าดูด/ช็อร์ต ภายนอกจะเห็นเพียงรอยผิวหนังไหม้เล็กน้อย แต่อาจพบอวัยวะภายในบาดเจ็บรุนแรง ได้แก่ 1.ภาวะหัวใจล้มเหลวจากกระแสไฟฟ้าวิ่งผ่านหัวใจ ทำให้หัวใจเต้นผิดปกติ กล้ามเนื้อหัวใจตายได้ หากสัมผัสกระแสไฟแรงสูงจะส่งผลให้หัวใจหยุดเต้น 2.กล้ามเนื้อ ระบบประสาทและเนื้อเยื่อต่างๆ ถูกทำลาย จากกระแสไฟฟ้าไปกดการทำงานของระบบประสาทส่วน ควบคุมการหายใจ และ 3.ผิวหนังเป็นบาดแผล มีรอยไหม้ ขึ้นอยู่กับปริมาณกระแสไฟฟ้า พื้นที่ผิวที่สัมผัสและเวลาที่สัมผัส วิธีป้องกันประชาชนควรดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ปลั๊กไฟ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขัง ควรย้ายปลั๊กไฟให้อยู่ในที่สูง หากจำเป็นต้องใช้ไฟ ให้ตัดวงจรส่วนที่น้ำท่วมออก บ้านที่มีเด็กเล็กต้องดูแลให้ห่างมือเด็ก และขณะร่างกายเปียก เช่น มือ เท้าเปียก ไม่ควรแตะต้องอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้า และขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองไม่ควรอยู่กลางแจ้ง ไม่ควรใช้โทรศัพท์มือถือหรือพกพาในที่แจ้ง

 

 

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

 

 

update : 25-06-51

 

 

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code