พบเอนไซม์ PKM2 ช่วยทำให้มะเร็งโต

ส่งผลไร้การควบคุม หวังใช้เป็นเป้าหมายต่อสู้กับมะเร็งในอนาคต

            ลอนดอน : นักวิจัยสหรัฐพบเอนไซม์ที่ช่วยเสริมฤทธิ์มะเร็งแพร่กระจาย ทำให้เซลล์มะเร็งสามารถดึงกลูโคสได้มากเพื่อใช้ในการเจริญเติบโตและแบ่งตัวอย่างไร้การควบคุม หวังใช้เป็นเป้าหมายต่อสู้กับมะเร็งในอนาคต

            นิตยสารเนเจอร์รายงานความคืบหน้าของการศึกษาวิจัยที่อาจนำไปสู่การต่อสู้กับมะเร็งได้ในอนาคต โดยนักวิจัยซึ่งนำทีมโดยศาสตราจารย์เลวิส แคนท์ลี แห่งวิทยาลัยแพทยศาสตร์ฮาร์วาร์ดในสหรัฐ ได้ค้นพบเอนไซม์ตัวหนึ่งที่มีบทบาทช่วยเสริมความสามารถให้เซลล์มะเร็งดึงกลูโคสมาใช้ได้เป็นปริมาณมาก โดยกลูโคสเป็นพลังงานสำคัญที่ทำให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตอย่างไร้การควบคุม จากเหตุดังกล่าวทำให้อาจเป็นไปได้ว่าการยับยั้งกลไกดังกล่าวจะช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้เช่นกัน

            เอนไซม์ดังกล่าวมีชื่อว่า pyruvate kinase ซึ่งมีอยู่ 2 รูปแบบ แต่มีเพียงชนิดเดียวคือ pkm2 ที่ทำให้เซลล์มะเร็งสามารถใช้ประโยชน์จากกลูโคสได้อย่างรวดเร็ว และเมื่อนักวิจัยทดลองทำให้เซลล์มะเร็งมีเฉพาะเอนไซม์อีกชนิดหนึ่ง โดยทำให้ pkm2 หยุดทำงาน ปรากฏว่าทำให้เซลล์มะเร็งหยุดเจริญเติบโต ซึ่งเท่ากับทำให้เซลล์มะเร็งมีพิษสงน้อยลงไปด้วย เห็นได้จากเมื่อฉีดเซลล์มะเร็งเข้าไปในหนูจะทำให้การเจริญเติบโตของหนูลดลง

            การศึกษาล่าสุดนี้นับว่าต่อยอดการค้นพบของออตโต วอร์เบิร์ก นักเคมีชาวเยอรมนี ซึ่งเคยคว้ารางวัลโนเบลเมื่อประมาณ 75 ปีก่อน โดยวอร์เบิร์กเป็นผู้ค้นพบว่าเซลล์มะเร็งดึงกลูโคสไปใช้ได้ในอัตราสูงกว่าเซลล์ปรกติมาก และยังแสดงให้เห็นอีกว่าเซลล์จำเป็นต้องใช้กลูโคสในปริมาณมาก ช่วยให้มันสามารถเจริญเติบโตและแบ่งตัวได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการค้นพบต่างๆของนักวิจัยรางวัลโนเบลท่านนี้ยังคงถูกนำมาใช้ค้นหาการแพร่กระจายของมะเร็งมากระทั่งปัจจุบัน หรือที่เรียกกันว่า “warburg effect”

            อย่างไรก็ตาม กลไกทางเคมีที่อยู่เบื้องหลังปฏิกิริยาดังกล่าวหรือกระบวนการเมตาบอลิซึมกลูโคสยังไม่เป็นที่เข้าใจกันดีนัก และเชื่อกันว่าอาจแตกต่างกันไปตามชนิดของมะเร็ง แต่การวิจัยของทีมศาสตราจารย์แคนท์ลีพบว่าเอนไซม์ pkm2 มีอยู่ในเซลล์มะเร็งทุกชนิดที่ทดสอบ แต่ไม่พบในเนื้อเยื่อปรกติส่วนใหญ่ จึงเป็นไปได้ว่าเอนไซม์ตัวนี้สามารถเป็นเป้าหมายในการรักษามะเร็งได้

            อนึ่ง มะเร็งเป็นโรคร้ายที่น่ากลัว สำหรับคนทั่วไป ซึ่งก่อนหน้านี้หน่วยงาน ด้านมะเร็งสากลเคยออกมาเตือนว่า ทั่วโลกจะมีผู้เสียชีวิตเพราะโรคมะเร็งกันมากถึงปีละ 17 ล้านคนภายในปี 2030 ทั้งนี้นายปีเตอร์ บอยล์ ผู้อำนวยการสำนักงานระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยมะเร็ง กล่าวว่าการที่ชาวโลกมีอายุเพิ่มขึ้นจะทำให้อัตราผู้ป่วยมะเร็งเพิ่มขึ้นไปด้วยในภายหน้า โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่มีคนสูบบุหรี่และดื่มสุรากันมากขึ้น และมะเร็งจะส่งผลกระทบหนักที่สุดต่อประเทศยากจนเนื่องจากมีงบประมาณด้านสุขภาพค่อนข้างจำกัดและขาดแคลนการรักษาแบบก้าวหน้า เช่น รังสีบำบัด เป็นต้น

ที่มา : โลกวันนี้

ภาพประกอบ : www. thaihealth.or.th

update 19-03-51