พนันออนไลน์ภัยร้ายใกล้ตัวคุณ
ยิ่งเล่นยิ่งเสีย ยิ่งเสียยิ่งทำลายชีวิต ไม่ว่าอย่างไรนี่ก็ยังเป็นสัจธรรมของการเล่นพนันมาแต่ไหนแต่ไร และดูเหมือนว่าเมื่อโลกกำลังพัฒนา การพนันก็พัฒนาตามเราไปด้วย อย่างในโลกของโซเชียลมีเดีย การพนันก็ยังคงตามเข้าไปและที่สำคัญมันยังสามารถเล่นได้ง่ายแม้มีเงินน้อยก็ยังสามารถเล่นได้ ซึ่งนั่นถือว่าอันตรายต่อเด็กและเยาวชนบ้านเราเป็นอย่างยิ่ง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายพิริยะ ทองสอน เลขาธิการมูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน บอกกับเราว่า ปัจจุบันการพนันออนไลน์มีมากขึ้น แพร่หลายมาขึ้น ค้นหาได้มากขึ้น เข้าถึงได้ง่ายขึ้น เพียงแค่การเซิร์ชหาในอินเตอร์เน็ทก็สามารถเจอได้ง่าย และที่สำคัญเล่นได้ด้วยจำนวนเงินที่น้อยลง จากสมัยก่อนอาจจำเป็นต้องเล่นด้วยเงินหลักร้อยหลักพัน แต่ปัจจุบันเงินเพียง 10 บาทก็เล่นได้แล้ว อีกทั้งยังไม่ต้องไปเบิกเงินจากธนาคารหรือตู้เอทีเอ็ม เพียงแค่บัตรเติมเงินโทรศัพท์ที่หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อมูลค่าเพียง 50 บาท ก็สามารถเล่นได้แล้ว นอกจากนี้ยังมีการโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดียซึ่งเป็นสิ่งที่วัยรุ่นปัจจุบันกำลังนิยม จนเรียกได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่ต้องเข้าเล่นทุกวันอย่างเฟซบุ๊คอีกด้วย นอกจากนี้การเล่นพนันออนไลน์ทางอินเทอร์เน็ตยังมีทั้งการทายผลสลาก ที่มักยึดเอาผลออกสลากทุกสัปดาห์ สัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง จาก อังกฤษ มาเลเซีย สหรัฐอเมริกา การทายผลกีฬา การทายผลการแข่งขันทั่วไป การทายผลเกมบ่อนกาสิโน และ ผลรางวัลออสการ์ ผลการเลือกตั้งฯ ซึ่งนั้นถือว่าเป็นภัยที่ร้ายแรง…
“เมื่อมันเข้าไปอยู่ในโซเชียลมีเดีย ที่ทุกคนสามารถเข้าถึง เพราะเฟซบุค หรืออินเตอร์เน็ทนั้น ปัจจุบันใครๆ ก็ใช้ ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ และที่สำคัญสามารถเล่นที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะอยู่ที่บ้านหรือร้านอินเตอร์เน็ท นั่นยิ่งทำให้ผู้ที่ไม่เคยเล่น อาจคิดอยากลองได้ เพราะคิดว่าไม่มีใครรู้ว่าตนนั้นเล่นการพนันที่ผิดกฎหมายอยู่ เมื่อลองเล่นแล้วถึงแม้แค่เพียงครั้งเดียวมันก็ง่ายต่อการเข้าไปพัวพันในวงจรของการพนันออนไลน์จนเป็นเหตุให้ติดจนเกิดเป็นหนี้สิ้นตามมาได้” นายพิริยะกล่าว
นายพิริยะ ให้ความเห็นต่อว่า การที่การพนันออนไลน์แพร่หลายมากขึ้นอยู่ในขณะนี้อาจเป็นเพราะภาครัฐยังไม่ได้มีการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง อีกทั้งผู้ประกอบการได้ใช้โอกาสนี้ในการหาผลประโยชน์ส่วนตัว และเมื่อไม่มีการแก้ปัญหา การเปิดเว็บก็สามารถทำได้ง่ายขึ้น และที่ผ่านมาจากข่าวคราวการจับเว็บพนันนั้น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรายเล็กๆ ไม่ใช่ร่ายใหญ่หรือเจ้าของอย่างแท้จริง
ด้วยเล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและผลกระทบที่จะตามมา จึงเกิดเป็นความร่วมมือกันของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับมูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์และเครือข่ายรณรงค์หยุดพนัน เพื่อหาแนวทางการแก้ไขภายใต้การเสวนาในหัวข้อเรื่อง “การพนันออนไลน์ ปัญหาที่จัดการไม่ได้หรือไม่ได้จัดการ” ที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
นายพิริยะ บอกกับเราถึงการหารือครั้งนี้ว่า การจัดการหารือครั้งนี้เราเล็งเห็นถึงช่องว่างทางกฎหมายที่ทำให้ธุรกิจเหล่านี้ยังคงดำเนินกิจการอยู่ ถึงแม้จะมีการสั่งปิดเว็บไซด์บางเว็บแล้วก็ตาม เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เราทุกฝ่ายจำเป็นต้องร่วมมือกันผลักดันและช่วยกันนำข้อมูลที่เป็นประโยชน์มานำเสนอแก่ภาครัฐ ภาคประชาชนต้องสนับสนุนด้วยการนำนักวิชาการด้านกฎหมาย มาหารือร่วมกันร่างข้อปฏิบัติ ด้วยการเสนอตั้งแต่บทนิยาม บทลงโทษ เพื่อให้ครอบคลุมไปในอีก 10-20 ปีข้างหน้า เพราะกฎหมายที่เราใช้กันอยู่นี้ก็ใช้กันมากว่า 70 ปีแล้ว ซึ่งมันล้าหลังเมื่อเทียบในปัจจุบัน
นอกจากนี้ สถาบันครอบครัวเองจำเป็นต้องสอดส่องดูแลบุตรหลานของท่านอย่างใกล้ชิด เพราะปัจจุบันการพนันออนไลน์อยู่ใกล้ตัวมากๆ และการพนันต่างจากเหล้าบุหรี่ เพราะเด็กที่เล่นพนันจะมีหนี้สิ้น ถ้าเราย้อนไปดูสถิติผู้ที่ปล้นร้านทองส่วนใหญ่สารภาพว่าเอาเงินไปใช้หนี้พนัน หากไม่ดูแลอย่างใกล้ชิดบางรายอาจก่อเหตุขโมยของ หรืออาชญากรรมตามมาได้
คงไม่ต้องรอให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเป็นข่าวใหญ่ที่มีเหตุมาจากการเล่นพนัน แล้วจึงแก้ไขเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องซึมลึกมานาน และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เข้ากับวิถีชีวิตคนเรา หากไม่อยากให้การพนันมาทำร้ายคนที่คุณรักในครอบครัว หยุดเล่นพนัน และดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิดนะคะ
เรื่องโดย : ณัฏฐ์ ตุ้มภู่ Team content www.thaihealth.or.th
