ผู้หญิงรุ่นใหม่ต้องไม่สูบบุหรี่

ยิ่งสูบ ยิ่งแก่เร็ว แถมสารพัดโรครุม ส่งผลอายุสั้น

 

ผู้หญิงรุ่นใหม่ต้องไม่สูบบุหรี่            อย่าให้หญิงไทย ตายจากการสูบบุหรี่มากเท่ากับชายไทย”…เสียงประกาศก้องที่ดังมาจาก ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ที่แสดงเจตนารมณ์ จะปกป้องหญิงไทย ให้รอดพ้นจากพิษภัยของ บุหรี่

 

            อย่างไรก็ตาม แม้ว่าอัตราการสูบบุหรี่ของผู้หญิงไทยในปัจจุบันมีจำนวนไม่มากนักเมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการสูบบุหรี่ของผู้ชาย แต่ก็มีแนวโน้มว่าผู้หญิงจะสูบบุหรี่มากขึ้น…

 

            ด้วยเหตุนี้ ทางมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ และ ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ โดยได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ไม่อาจนิ่งนอนใจได้ จึงจัดงานเสวนา เรื่อง ทำอย่างไรไม่ให้วัยรุ่นหญิงไทยสูบบุหรี่มากขึ้น โดยใช้โอกาสสำคัญเนื่องในวันสตรีสากล วันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา รณรงค์สร้างกระแสให้ ผู้หญิงรุ่นใหม่ไม่สูบบุหรี่

 

            เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เลขาธิการมูลนิธิเพื่อการไม่สูบบุหรี่ เล่าให้ฟังว่า จากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พ.ศ.2550 พบว่า มีผู้หญิงไทยสูบบุหรี่กว่า 5 แสนคน เกือบครึ่งหนึ่งของหญิงไทยที่สูบบุหรี่ในขณะนี้อาศัยอยู่ที่ภาคเหนือ 9 ใน 10 ของหญิงไทยที่สุบบุหรี่ จบการศึกษาระดับประถมศึกษาหรือต่ำกว่า 3 ใน 10 ของหญิงไทยที่สูบบุหรี่มีฐานะอยู่ในกลุ่มประชากรที่จนที่สุด และเกือบ 3 ใน 10 ของหญิงไทยที่สูบบุหรี่มีฐานะอยู่ในกลุ่มประชากรที่เกือบจน

 

            ทั้งนี้ จากการสำรวจปัจจุบันพบว่าอัตราการสูบบุหรี่ของหญิงไทยมีประมาณ 500,000 คน ชายไทย จำนวน 10 ล้านคน คิดเป็นอัตรา 1 ต่อ 20 และพบว่าชายเสียชีวิตจากการสูบบุหรี่ 35,390 คนต่อปี หญิงเสียชีวิต 5,793 คน ซึ่งการสูบบุหรี่ยังพบว่าทำให้อายุขัยของชายสั้นลง 14.7 ปี หญิง 12.6 ปีเลขาธิการมูลนิธิเพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

 

            นอกจากนี้ ศ.นพ.ประกิต ยังได้ยกตัวอย่างประเทศที่มีปัญหาการสูบบุหรี่ในวัยรุ่นหญิงว่า จากการที่บริษัทบุหรี่พยายามใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อขยายตลาดเจาะกลุ่มผู้หญิงโดยตรง เนื่องจากเป็นตลาดที่ยังขยายได้อีกมาก และทำสำเร็จมาแล้วในประเทศส่วนใหญ่ โดยขณะนี้วัยรุ่นหญิงในยุโรปและอเมริกามีอัตราการสูบบุหรี่ที่สูงกว่าวัยรุ่นชาย และอัตราการสูบบุหรี่ของชายต่อหญิง เท่ากับ 1 : 1 ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าตกใจเป็ยอย่างยิ่ง ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายในสังคมไทยจึงต้องร่วมมือกัน เพื่อไม่ให้หญิงไทยสูบบุหรี่มากขึ้น ดังที่เกิดขึ้นกับประเทศอื่น ๆ

 

ด้าน รศ.ธราดล เก่งการพานิช อาจารย์จากคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นหญิงไทย ปี พ.ศ.2551 ในกลุ่มวัยรุ่นหญิงอายุระหว่าง 13 – 25 ปี จำนวน 3,093 คน พบว่า วัยรุ่นหญิงเริ่มสูบบุหรี่อายุต่ำกว่า 12 ปี เท่ากับร้อยละ 10.2 และเริ่มสูบมีการสูบเกือบทุกวันร้อยละ 42.1 และปริมาณบุหรี่ที่สูบ พบว่า ร้อยละ 33 สูบวันละมากกว่า 5 มวน แต่พบว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่ร้อยละ 92.4 รู้ว่าสูบบุหรี่แล้วจะเป็นมะเร็งปอด ร้อยละ 84.9 ทำให้ฟันเหลือง ร้อยละ 84 ทำให้ถุงลมโป่งพอง

 

ปัจจัยหลักที่เอื้อให้เริ่มสูบบุหรี่ คือ  มีเพื่อนสนิทสูบบุหรี่  ก็ทำให้มีโอกาสสูบบุหรี่ถึง 18  เท่า  ของคนที่มีเพื่อนไม่สูบบุหรี่  หากมีทัศนคติเชิงบวกต่อการสูบบุหรี่ที่เห็นว่าดูดี โก้เก๋  ก็จะมีโอกาสสูบบุหรี่  7  เท่า  และถ้าแม่สูบบุหรี่  ก็จะทำให้ลูกมีโอกาสสูบบุหรี่ถึง  4  เท่า ส่วนแหล่งที่ซื้อบุหรี่ พบว่า  ร้อยละ  68  ซื้อจากร้านขายของชำและร้านสะดวกซื้อ นั่นแสดงว่ายังมีผู้ค้าละเมิดกฎหมาย “  รศ.ดร.ธราดล กล่าว พร้อมเสนอแนะว่า รัฐบาลต้องบังคับใช้กฎหมายห้ามขายบุหรี่แก่เด็กอายุต่ำกว่า  18 ปี อย่างเคร่งครัด และเข้มงวด สถาบันการศึกษาจะต้องพัฒนาหลักสูตรการรู้เท่าทันเกี่ยวกับบุหรี่ รู้จักการปฏิเสธการสูบบุหรี่ และผู้ปกครองต้องให้ความสำคัญและเป็นตัวอย่างที่ดีของการไม่สูบบุหรี่

 

เป็นที่น่าตกใจว่า วัยรุ่นหญิงส่วนใหญ่ทราบว่า การสูบบุหรี่เป็นบ่อเกิดของโรคต่าง ๆ แต่ก็ยังสูบกันอยู่ แต่จะมีสาว ๆ สักกี่คนที่รู้ว่าพิษร้ายของบุหรี่นั้นส่งผลอันตรายต่อผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เรื่องดังกล่าวได้รับการเปิดเผยโดย ศ.นพ.สุรศักดิ์ ฐานีพานิชสกุล คณบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ว่า ผู้หญิงที่สูบบุหรี่มีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่าง ๆ เช่นเดียวกับผู้ชาย แต่ผู้หญิงยังมีมดลูก และเต้านมที่ได้รับผลกระทบจากการสูบบุหรี่ โดยมีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูก ภาวะมีบุตรยาก เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ทำให้แท้งลูก ท้องนอกมดลูก และลูกเสียชีวิตก่อนคลอดอีกด้วย

 

นอกจาก บุหรี่ จะนำสารพัดโรคมาสู่ร่างกายของเราแล้ว ยังมีผลทำให้ความงามบนใบหน้าของสาว ๆ ถูกทำร้ายอีกด้วย เรียกได้ว่า ผู้หญิง ยิ่งสูบ ยิ่งแก่!!!

 

โดย ผศ.พญ.สุวิรากร โอภาสวงศ์ ประชาสัมพันธ์สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันผู้หญิงเสียเงินจำนวนมากในการซื้อครีมบำรุง ครีมต้านริ้วรอย หรือกระทั่งศัลยกรรมหน้าตกแต่งเพื่อให้ใบหน้าสวยงาม แต่กลับยังคงสูบบุหรี่อยู่ ทั้ง ๆ ที่บุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวแก่ก่อนไวได้พอ ๆ กับการตากแดด เพราะการสูบบุหรี่ทำให้เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสติน ที่เป็นโครงสร้างของผิวหนังถูกทำลาย ทำให้ผิวเหี่ยวย่น มีริ้วรอยมากกว่าคนที่ไม่สูบ และยังทำให้ริมฝีปากคล้ำ ฟันดำ มีคราบบุหรี่ มีกลิ่นปาก เสียบุคลิกภาพเป็นอย่างมาก จึงขอฝากผู้หญิงยุคใหม่ไว้ว่า อยากสวยต้องไม่สูบบุหรี่

 

ด้านตัวแทนเยาวชนรุ่นใหม่ อย่าง นางสาวปรียาภา รุณหิวา นักศึกษาชั้น ปวช.2 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ โรงเรียนพาณิชยการตั้งจงจิตร ผู้ชนะเลิศฝ่ายหญิงเยาวชนคนพันธ์อา ปี 4 เล่าว่า ปัจจุบันแหล่งซื้อ ขายบุหรี่ มีอยู่หลายช่องทาง ทั้งร้ายขายของชำ ร้านมินิมาร์ท หรือแผงลอยขายบุหรี่ ที่มีอยู่ตามแหล่งท่องเที่ยวของวัยรุ่นนั้น ส่งผลให้วัยรุ่นเข้าถึงบุหรี่ได้ง่าย ที่สำคัญวัยรุ่นหลายคนมองว่า การสุบบุหรี่เป็นเรื่องโก้เก๋ ทั้งที่ความจริงการสูบบุหรี่ เป็นเรื่องน่ารังเกียจอย่างมาก จึงอยากเรียกร้องให้วัยรุ่นไทยหันมาใส่ใจกับการดูแลสุขภาพมากกว่าการทำร้ายสุขภาพตัวเอง ดังนั้น วัยรุ่นยุคใหม่ต้องกล้าคิด กล้าตัดสินใจ และกล้าปฏิเสธบุหรี่อีกด้วย

 

ผู้หญิงสูบบุหรี่ ไม่ใช่เรื่องโก้เก๋ ไม่เท่ ไม่สวยงาม เพราะเพียงแค่คุณหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ ก็เท่ากับว่า คุณได้ชักนำมัจจุราชร้ายให้เข้ามาปลิดชีวิตของคุณเองไปแล้วกว่าครึ่ง ไม่เพียงเท่านั้น มันยังจ้องกระชากวิญญาณของคนที่คุณรักอีกด้วย วิธีที่ดีที่สุดที่จะปกป้องตัวคุณเองและคนที่คุณรักจากพิษภัยของบุหรี่ คือ การลด ละ เลิก บุหรี่ แล้วหันมาดูแลเอาใจใส่สุขภาพด้วยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ หรือสร้างสุขให้กับตัวคุณเองด้วยเสียงเพลงดีกว่าค่ะ เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีสุขภาวะที่ดีและยั่งยืน

 

สสส. ขอเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างค่านิยมใหม่ ผู้หญิงยุคใหม่ สวยได้ โดยไม่พึ่งพาบุหรี่”…

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : อารยา สิงห์สวัสดิ์ Team content www.thaihealth.or.th

 

 

Update  : 12-03-52

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ