ผู้จัดการ สสส.ลุยเยี่ยมภาคี สถาบันChangeFusion

ทพ.กฤษดา รุกเชื่อมสัมพันธ์คนทำงานจิตอาสา ลุยดูงานสถาบัน changefusionแหล่งผลิตนวัตกรรม เทคโนโลยีและพื้นที่สร้างสรรค์เพื่อสังคม บนโลกออนไลน์

ผู้จัดการ สสส.ลุยเยี่ยมภาคี สถาบันchangefusion

เร็วๆ นี้ ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เดินทางสู่โอลิมเปียทาวเวอร์ ถนนรัชดาภิเษก เพื่อเยี่ยม “changefusion” สถาบันภายใต้มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูประถัมภ์ มี นายไกลก้อง ไวทยการ และนายสุนิตย์ เชรษฐา ผู้บริหารสถาบันฯ ให้การต้อนรับ

นายสุนิตย์ เชรษฐา นายสุนิตย์ กล่าวว่า สถาบันchangefusion ได้มีโอกาสร่วมงานกับ สสส.หลากหลายโครงการด้วยกัน ซึ่งโครงการส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะการให้บริการไอทีเทคโนโลยีแก่ภาคสังคม เช่น แผนงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อการเรียนรู้ดิจิทัลและสนับสนุนภาคีเครือข่าย หรือแผนงาน ict ที่ให้คำปรึกษาฟรี เพื่อออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีที่ตรงกับเป้าหมายและความต้องการ รวมถึงมีบริการเว็บโฮสติ้งประสิทธิภาพสูงให้บริการ หรือ โครงการศูนย์ความร่วมมือเพื่อฟื้นฟูประเทศไทย ที่เป็นความร่วมมือของทั้งภาครัฐและเอกชนช่วยกันฟื้นฟูชุมชนอย่างยั่งยืนจากวิกฤตการณ์นํ้าท่วมครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2553 – 2554 ผ่านการจัดการข้อมูล การจับคู่พื้นที่ และผู้สนับสนุน และชุดข้อมูลความรู้และนวัตกรรมต่างๆ บนเว็บไซต์ thairecovery.org

ผู้จัดการ สสส.ลุยเยี่ยมภาคี สถาบัน changefusion ผู้จัดการ สสส.ลุยเยี่ยมภาคี สถาบัน changefusion

“เราได้พัฒนา finedaytvหรือสถานีโทรทัศน์ด้านสุขภาวะบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ขึ้นภายใต้สโลแกน “fineday tv ทีวีที่เปลี่ยนทุกวันเป็นวันสุข” เป็นแหล่งรวบรวมสื่อโทรทัศน์ที่ สสส. ผลิต และสนับสนุน มีรูปแบบการนำเสนอในลักษณะผังรายการประจำวันแบบ real time ที่ผู้ชมสามารถเลือกดูรายการที่ต้องการได้ตลอดทั้งวัน” นายสุนิตย์ กล่าว

นายไกลก้อง ไวทยการ ส่วนนายไกลก้อง ได้ยกตัวอย่างโครงการที่น่าสนใจที่ช่วยเชื่อมโยงคนในสังคม ด้วยนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อสร้างเป็นเครือข่ายคนทำงานภาคสังคมขึ้น อย่าง โครงการระดมไอเดียเจ๋ง สร้างสรรค์กิจกรรมปิดเทอม ส่งเสริมให้เยาวชนได้ใช้เวลาว่างให้ประโยชน์ในช่วงปิดเทอม โดยประชาสัมพันธ์กิจกรรมผ่านหน้าแฟนเพจ (fan page) ของโครงการฯ บนเฟสบุ๊ค (facebook) เป้าหมายเป็นกลุ่มเด็กและเยาวชนผู้ใช้ facebook ซึ่งมีถึง 8.4 ล้านคน ในประเทศไทย ซึ่งได้รับความสนใจจากเยาวชนเป็นจำนวนมาก

“นอกจากนี้ ยังมีโครงการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมด้านสุขภาวะ (social enterprise) และการพัฒนาระบบบริการดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ หรือศูนย์สร้างสุข สสส. ด้วยเรียกได้ว่ามีงานล้นมือทีเดียว ซึ่งเรามักประสบปัญหาแบบเดียวกับหลายๆ ภาคี นั้นคือ การรักษาคนทำงาน กับการดึงศักยภาพคนออกมาใช้ในงานให้ได้มาก อย่างที่รู้กันว่า องค์กรภาคสังคมในไทยยังขาดความมั่นคง ผลตอบแทนน้อย ซึ่งต่างจากของต่างประเทศ” นายไกลก้อง กล่าว

ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ด้าน ทพ.กฤษดา กล่าวว่า จากที่ได้ไปเยี่ยมมาหลายๆ ภาคี พบว่า ส่วนใหญ่มักจะขาดคนเจเนอเรชันที่ 2 ที่จะมาสานต่อ ทำให้การทำงานของภาคีขาดความต่อเนื่อง ตนมองว่า ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจกับงานภาคสังคมหรืองานจิตอาสามากขึ้น แต่ยังขาดช่องทางหรือแหล่งข้อมูล ในอนาคตอาจจะจัดเป็น social expo หรือตลาดนัดแรงงานภาคสังคมขึ้น ให้ภาคีต่างๆ มาออกบูธ จัดเวิร์คชอป (workshop) งานจิตอาสา งานเพื่อสังคม ให้พวกเขาได้รับรู้หรือลองมาเป็นอาสาสมัครกัน อีกเรื่องคือ สสส.พยายามจะสนับสนุนให้ภาคีเป็น social enterpriseเรามีสำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (สกส.) มาช่วยให้ความรู้และคำปรึกษาแก่ภาคีด้วย

 

เรื่องโดย: ศิรินทิพย์ อิสาสะวิน teamcontent www.thaihealth.or.th

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code