ปีใหม่ ของไหนต้องห้าม-ของไหนต้องให้..

ส่งสุขปีใหม่ ไม่รับ ไม่ให้ “เหล้า” เป็นของขวัญ

 

 

            ปีใหม่…ปี ใหม่…ปีใหม่…สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ การมอบของขวัญให้แก่กันและกัน … ทุกครั้งที่มอบของขวัญให้คนเรารักและเคารพ การมีสุขภาพดี แข็งแรง…คือสิ่งที่ทุกคนปรารถนา แต่!!! คุณสังเกตหรือไม่ว่า ที่ผ่านมา กระเช้าของขวัญที่คนไทยกลับเลือกที่จะซื้อเป็น เหล้า ทั้ง ๆ ที่ก็รู้ว่าเหล้าเป็นต้นตอของปัญหาต่างๆ มากมาย แล้ว “ของไหนต้องห้าม-ของไหนต้องให้” กันแน่!!!

 

ปีใหม่ ของไหนต้องห้าม-ของไหนต้องให้..            เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ประธานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า เล่าให้ฟังว่า แต่เดิมเมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ คนไทยจะมีการทำบุญตักบาตร เพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเอง มีการอวยพรปีใหม่ ด้วยการมอบของขวัญ เพื่อเป็นการแสดงน้ำใจ และแสดงความเคารพรักต่อกัน ขณะที่ประเทศไทยมีอัตราการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอันดับต้นๆ ของโลก จึงเกิดมีพ่อค้าหัวใสได้สร้างค่านิยมใหม่ที่ผิดศีลธรรม นำเอาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาจัดใส่ในกระเช้าของขวัญ

 

            การให้ของขวัญที่เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกประเภทกับคนที่เรารัก เพื่อน ญาติผู้ใหญ่ หัวหน้า ลูกน้อง หรือแม้กระทั่งคนรู้จัก นอกจากจะส่งผลทำลายสุขภาพแล้ว ยังเท่ากับเราอวยพรให้เขาประสบอุบัติเหตุ มีโรคภัยต่างๆ โดยเร็ววัน และยังทำให้เกิดโรคต่างๆ ในจำนวนที่มากกว่าบุหรี่ ถึง 60 โรค เช่น โรคมะเร็งตับ, โรคหัวใจ, โรคเบาหวาน ฯลฯ อีกทั้งทำให้เกิดปัญหาในครอบครัว การทะเลาะวิวาท อุบัติเหตุ อาชญากรรม รวมถึงโรคเอดส์ ฯลฯ ดังนั้น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จึงไม่ใช่สินค้าธรรมดา และไม่ควรนำมาเป็นของขวัญแด่คนที่เรารัก ประธานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวด้วยความเป็นห่วง

 

            นอกจากนี้ ศ.นพ.อุดมศิลป์ ยังเล่าอีกว่า นอกจากปัญหาสุขภาพกายแล้วยังมีปัญหาสุขภาพจิต  และสังคม นั่นคือผู้ดื่มสุราเรื้อรังจะมีความเครียดได้ร้อยละ 51.2 และมีอาการซึมเศร้าได้ร้อยละ 48.6 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่รุนแรงสมควรได้รับการบำบัด ร้อยละ 11.9 มีความคิดฆ่าตัวตาย ร้อยละ 11.3 คิดฆ่าผู้อื่น  ส่วนวัยรุ่นที่มีพ่อเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังนั้น  มีปัญหาสุขภาพจิตมากกว่าเด็กทั่วไป 11.5 เท่า และครอบครัวที่มีการดื่มสุรามีโอกาสเกิดความรุนแรงในครอบครัวเป็น 3.84 เท่า เมื่อเทียบกับครอบครัวที่ไม่ดื่มสุรา นอกจากนี้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด  ยังเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุจราจรถึงร้อยละ 40 ในช่วงปกติ และเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 50 – 60 ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 

 

            รู้ว่าเหล้าเป็นสิ่งไม่ดี ทำไมยังให้เป็นของขวัญกับคนที่เรารัก!!เพราะบางคนยังมีค่านิยมที่ผิด ๆ โดยคิดว่าการมอบกระเช้าของขวัญที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่แสดงถึงความภูมิฐานของทั้งผู้ให้และผู้รับ โดยเฉพาะการมอบของขวัญให้แก่หัวหน้างานหรือผู้ที่มีฐานะสูงกว่าผู้ให้ และคิดว่าจะเกิดความพอใจแก่ผู้รับ ทั้งที่จริงแล้วไม่ใช่ทุกคนที่ยินดีเมื่อได้รับเหล้าเป็นของขวัญปีใหม่ อีกทั้งราคาที่แพงก็มิได้แสดงถึงคุณค่าที่แท้จริงของของขวัญเลย

 

            เพราะจากการสำรวจของเอแบคโพลล์ เรื่อง การสำรวจความคิดเห็นต่อเทศกาลวันปีใหม่ 2552 (ก่อนเทศกาล) ระบุว่า คนไทยร้อยละ 65 ไม่ต้องการรับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์) เป็นของขวัญปีใหม่ เพราะเห็นว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นของขวัญปีใหม่ที่ทำลายสุขภาพถึงร้อยละ 81.1 โดยร้อยละ 80 ต้องการมอบของขวัญที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางจิตใจ นอกจากนี้สังคมไทยส่วนใหญ่ร้อยละ 60 ไม่เห็นด้วยที่มีการจัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นของขวัญปีใหม่ และร้อยละ 73.1 ต้องการร่วมรณรงค์ให้งานเลี้ยงสังสรรค์ปีใหม่ ปลอดภัย ไร้แอลกอฮอล์

           

  

ปีใหม่ ของไหนต้องห้าม-ของไหนต้องให้..

           

ปีใหม่ ของไหนต้องห้าม-ของไหนต้องให้..

           

            ห้างดัง ขายกระเช้าเหล้าเกลื่อน!!..ล่าสุด…เครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ ได้ออกสำรวจการขายกระเช้าเหล้าตามห้างต่าง ๆ ผลปรากฎว่า ยังมีการวางขายกันเกลื่อน!!!…ซึ่งเป็นการขัดพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พุทธศักราช 2551 ที่มีสาระสำคัญว่า มิให้โฆษณาโชว์ภาพผลิตภัณฑ์ หรือทำการส่งเสริมการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในลักษณะการลด แลก แจก แถม ใดๆ  อีกทั้งสถานที่ห้ามนำมาดื่มหรือขาย ในวัด สถานที่ราชการ โรงเรียน สวนสาธารณะ  จะมีช่วงเวลาซื้อและขาย ที่กำหนดเท่านั้น รวมถึงมีการระบุอายุของผู้ซื้อสินค้าประเภทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยไม่ต่ำกว่า 20 ปี เป็นต้น

 

              อีกทั้ง สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้ออกประกาศเรื่อง การจำหน่ายกระเช้าปีใหม่ที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้ระบุชัดเจนว่า การจัดจำหน่ายกระเช้าของขวัญสำเร็จรูปที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมอยู่ด้วย หรือกระเช้าที่มีเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ล้วนเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีโทษทั้งจำทั้งปรับ

 

            ผู้ประกอบการฟังทางนี้!!!..สำหรับแนวทางการจัดกระเช้าของขวัญ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องนั้น ต้องไม่จัดกระเช้าของขวัญสำเร็จรูปให้มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมอยู่ มิฉะนั้นจะมีความผิดตามมาตรา 27 คือต้องขายให้ถูกสถานที่ มาตรา 28 ถูกวันเวลา มาตรา 30 ต้องไม่ขายโดยวิธีต้องห้าม มาตรา 29 ต้องไม่ขายให้แก่บุคคล และมาตรา 32 ต้องไม่กระทำการใดๆ อันเป็นการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

 

            ด้านสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เองก็ไม่เคยนิ่งนอนใจ ล่าสุดได้มีการผสานกำลังกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ออกเดินหน้ารณรงค์ งดมอบและรับของขวัญที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาด เพื่อสุขภาพที่ดีเป็นการส่งความสุขให้กันโดยแท้จริง เพราะการมอบกระเช้าของขวัญที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เท่ากับหยิบยื่นความตายให้แก่กัน มากกว่าการส่งความสุข เพราะการให้เหล้าเท่ากับแช่งให้ผู้รับเสียชีวิตเร็วขึ้น  อย่างสโลแกนล่าสุดที่ว่า ให้เหล้า = แช่ง

 

            ถึงเวลาแล้ว ปีใหม่นี้มามอบสุขภาพดี ๆ ให้กัน ด้วยของขวัญเป็นกระเช้าสุขภาพ และปลอดเหล้าดีกว่า!!!เพราะอย่างที่เรารู้ๆ กันว่าสุขภาพที่ดี คือ จุดเริ่มต้นของการรังสรรค์ผลงานที่ดี และน่าชื่นชม ดังนั้นปีใหม่ปีนี้ เรามาหยิบยื่นสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ให้กับคนที่เรารักด้วยการมอบสิ่งดี ๆ ด้วยการไม่ให้เหล้า บุหรี่ เพราะของขวัญวิเศษที่สุดของการมีสุขภาพดี มีสุขภาวะที่ยั่งยืนตลอดไป

 

            ปีใหม่ ปีนี้ หากใครยังมอบกระเช้าของขวัญที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แสดงว่า คุณไม่ได้ใส่ใจในสุขภาพของผู้รับ เพราะฉะนั้น รักกันจริง…อย่าให้เหล้าเป็นของขวัญปีใหม่!!!

 

 

 

 

 

 

ที่มา : อารยา สิงห์สวัสดิ์ Team content www.thaihealth.or.th

 

 

Update  :  23-12-51

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์

Shares:
QR Code :
QR Code