‘ปั่นไปไม่ทิ้งกัน’ สร้างพื้นที่ชีวิตให้ผู้พิการ
ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
"ข่าวดี" ถ้ามีทุกวัน โลกจะไปไกลขนาดไหน? เอาแค่มุมเล็กๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นจากนี้ ก็ทำเอาหลายคนหัวใจฟูไปด้วยความสุข นั่นคือ กิจกรรมปั่นจักรยาน โดย "กลุ่มผู้พิการทางสายตา"
ข่าวคราวเรื่องดีๆ นี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 มกราคม โดยเป็นการเปิดตัวโครงการ "ปั่นไปไม่ทิ้งกัน สานต่องานที่พ่อทำ No One Left Behind" ซึ่งจัดโดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่าย
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาทุนสนับสนุนการก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ณ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ และยังเป็นการแสดงศักยภาพคนตาบอดให้สังคมเห็นว่า แม้มองไม่เห็นก็สามารถปั่นจักรยานได้ ที่สำคัญงานนี้ยังถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ผู้พิการทางสายตาจะปั่นจักรยานทางไกลตั้งแต่กรุงเทพฯ ไปถึงเชียงใหม่ รวมระยะทาง 867 กิโลเมตร!!
สำหรับไทม์ไลน์ของกิจกรรม วันแรกของการปั่นคือวันที่ 28 มกราคม โดยมีกำหนดผ่าน 9 จังหวัด คือเริ่ม "จุดสตาร์ท" ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพฯ จากนั้นจะผ่านไปยัง จ.สุพรรณบุรี จ.ชัยนาท จ.นครสวรรค์ จ.พิษณุโลก จ.อุตรดิตถ์ จ.แพร่ จ.ลำปาง และจ.เชียงใหม่ "เส้นชัย" กำหนดไว้ใน วันที่ 5 กุมภาพันธ์
โดยในการปั่นนั้นจะมีผู้พิการตาบอดจำนวน 20 ชีวิต ร่วมกับนักปั่นจิตอาสาปั่นนำอีก 20 ชีวิต โดยใช้จักรยาน 2 ตอน เบาะหน้าเป็นจิตอาสาปั่นนำเพื่อควบคุมจักรยาน ส่วนเบาะหลังคือที่สำหรับผู้พิการทางสายตาเป็นผู้ปั่น
คุณคิดว่าคนพิการทำอะไรได้บ้าง? ที่จริงเรารู้กันแล้วว่าผู้พิการนั้นสามารถทำอะไรได้มากกว่าที่เราคิด และหลายคนก็มีจิตใจที่เข้มแข็งกว่าคนที่มีร่างกายปกติด้วยซ้ำ! แต่กิจกรรมนี้อาจให้คำตอบกับพวกเราได้มากยิ่งขึ้นไปอีก!
เพราะหากว่าโครงการนี้สามารถระดมทุนบริจาคได้ตามเป้า จำนวน 67 ล้านบาท ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ณ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ในพื้นที่รวม 33 ไร่นี้ ก็จะเกิดขึ้น!
และที่นี่จะเป็นพื้นที่ให้ผู้พิการได้เรียนรู้ฝึกฝนในสิ่งต่างๆ มากมาย เกี่ยวกับอาชีพ ทั้งการโรงแรม ท่องเที่ยว ทำอาหาร การเกษตร แปรรูปผลผลิตที่ได้มาตรฐาน โดยจะสอนฟรี ผ่านการสนับสนุนของ กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ที่สำคัญหากกิจกรรมนี้ประสบความสำเร็จกว่าที่ตั้งไว้ คือได้เงินบริจาคเกินที่ตั้งเป้าคือ 67 ล้านบาท ก็สามารถนำไปพัฒนาในพื้นที่อื่นๆ ของศูนย์ และยังอาจนำไปสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการในจังหวัดอื่นๆ ได้อีก
ในการนี้ ศ.วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ ตัวตั้งตัวตีของโครงการนี้ ยังเล่าว่า ศูนย์ฝึกแห่งใหม่นี้คนพิการเมื่อเรียนจบก็จะออกไปทดลองตลาด ได้ลองขายและกลับมาแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน และยังสามารถขยายฐานฝึกอาชีพคนพิการ ขยายเครือข่ายคนพิการประกอบอาชีพในอนาคตต่อไป ซึ่งก็แปลว่าเมื่อผู้พิการมีพื้นที่ให้เรียนรู้และทำงาน พึ่งพาตนเองได้ พวกเขาก็จะสามารถแสดงศักยภาพของตนเอง ประกาศให้โลกรู้ว่าพวกเขายังทำอะไรได้อีกมากมายนัก! และนั่นคือความหมายสูงสุดแล้วของการ "มีชีวิต" แม้จะไม่ครบสมบูรณ์อย่างคนทั่วไป แล้วเรา…จะทำอะไรเพื่อพวกเขา?
ในมุมหนึ่งยังมีดาราหน้าสวย จิตใส ที่อาสาเข้ามาช่วยโปรโมทโครงการนี้ด้วยการเข้าร่วม "ลงแข้งปั่น" ด้วยตนเองในกิจกรรมนี้ เธอคือ "หวานหวาน" อรุณณภา พาณิชจรูญ หลายคนอาจไม่รู้มาก่อนว่าเธอคือ "สิงห์นักปั่น" คนหนึ่ง และในการนี้เธอที่ให้สัมภาษณ์ทีมข่าวบันเทิง คม ชัด ลึก ถึงที่มาและความรู้สึกที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมดีๆ นี้ว่า
"คือเราอยู่ในแวดวงจักรยานอยู่แล้ว เป็นความโชคดีที่เราได้เจอกับคนที่ทำโปรเจกท์นี้ และเราก็ชอบคอนเซ็ปต์ของกิจกรรม คือนอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้ว ยังสร้างกำลังใจและเติมเต็มสิ่งดีๆ ให้ผู้พิการทางสายตา"
ความท้าทายหนึ่งที่หวานหวานต้องการสัมผัส คือความรู้สึกของการปั่นจักรยานโดยไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ ตนเองจึงลองสวมผ้าปิดตาในการปั่น
"ตอนแรกก็กลัวเพราะเรามองไม่เห็นอะไรเลย แต่พอได้ลองปั่นรู้สึกดีมาก โดยเฉพาะเวลาที่ลมปะทะใบหน้า เราจะได้ยินเสียงลมและเสียงรอบข้าง ซึ่งเราเชื่อว่าผู้พิการทางสายตาที่ได้ร่วมกิจกรรมครั้งนี้เขาจะต้องมีความสุขเหมือนเรา"
อย่างไรก็ตามด้วยสุขภาพและภาระหน้าที่จึง ไม่ได้ลงปั่นตลอดทริป หากแต่เมื่อทีมปั่นทั้งหมดมาถึงเชียงใหม่จะเข้าร่วมจากจุดนั้น โดยตอนนั้นเองที่เธอจะปั่นให้ผู้พิการซ้อนท้ายด้วยเป็นระยะทางถึง 20-30 กิโลเมตร!! หลังจากนั้นก็จะเปลี่ยนปั่นจักรยานเสือหมอบ ซึ่งเป็นจักรยานที่เธอถนัด และปั่นร่วมกับกลุ่มไปจนถึงเชียงดาว พร้อมกับบอกถึงสิ่งที่จะได้รับจากการร่วมกิจกรรมนี้ว่า
"ที่เราได้แน่ๆ นอกจากออกกำลังกายแล้ว คือความสุข เราโชคดีที่เรามีดวงตาให้เห็นโลกที่กว้างไกล ชีวิตไม่มีอะไรง่ายอย่าหมดกำลังใจ หากเราท้อให้มองไปรอบข้างแล้วเราจะรู้ว่าเราโชคดีกว่าใครหลายๆ คน เพราะในสังคมยังมีใครอีกหลายคนที่ลำบากกว่าเรา"
ส่วนพวกเรา หรือคนไทยที่เหลือ เชื่อว่าน่าจะยังมีจิตใจที่จะหนุนเสริมให้โครงการดีๆ เรื่องราวดีๆ แบบนี้อีกไหนๆ บริจาคให้พี่ตูนมาแล้วคนละ 10 บาท ลองมาช่วยกันบริจาคในโครงการนี้อีกสักหน่อย เพื่อสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นต่อไปไม่หยุดยั้ง!
โดยสามารถร่วมบริจาคเงินผ่านช่องทางต่างๆ เช่น 1.พิมพ์ Y 100 แล้วส่ง sms ไปที่หมายเลข 4899666 แล้วกดโทรออก เพื่อบริจาค 100 บาท ทุกเครือข่าย 2.กด *948*6666*100# แล้วโทรออก เพื่อบริจาค 100 บาท ทุกเครือข่าย 3.หรือจะโอนเข้าบัญชี ชื่อบัญชี มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ บัญชีกระแสรายวัน ธ.กรุงเทพ สาขาสะพานพระปิ่นเกล้า 162-3-07772-2, ธ.กรุงไทย พรานนก 196-6-00208-4, ธ.ไทยพาณิชย์ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า 264-3-00153-0, ธ.กสิกรไทย เซ็นทรัลปิ่นเกล้า 758-1-01398-6 และธ.กรุงศรี เซ็นทรัลปิ่นเกล้า 494-0-00140-9