ปั่นเรียนรู้สุขภาวะ วิ่งทวงสิทธิ์ห้ามสูบ
ต้องยอมรับเลยว่า ในช่วงนี้เทรนด์การออกกำลังกายเป็นที่นิยมอย่างมาก ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็เห็นแต่คนออกไปเล่นกีฬาทั้งสิ้น ตั้งแต่เด็ก เยาวชน คนทำงาน ครอบครัวต่างๆ มาร่วมออกกำลังกายตามสถานที่ต่างๆ เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ หรือกีฬายอดฮิต อย่างเช่น การปั่นจักรยาน โดยหวังว่าจะมีสุขภาพที่ดี ไร้พุง ห่างไกลโรค
ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ต่อไปนี้ เมื่อใครๆ ต้องการจัดกิจกรรมต่างๆ ทั้งเรื่องการรณรงค์ หรือกิจกรรมท่องเที่ยว ก็จะนำกระแสของกีฬาเข้าไปเกี่ยวข้องเพื่อดึงดูดความสนใจของประชาชนให้หันมาร่วมงาน เช่น โต้โผใหญ่ในเรื่องสุขภาพ อย่างสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่ปิ๊งไอเดียนำการวิ่งและปั่นจักรยานเข้ามาเสริมการรณรงค์การท่องเที่ยว และขอพื้นที่สาธารณะให้ปลอดบุหรี่ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีประชาชนมาร่วมกิจกรรมทั้ง 2 งานอย่างคึกคัก โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน
กิจกรรมแรกคือ “ปั่นเล่นปั่นรู้…เข้าสู่ 200 ปี ปทุมธานี” ที่เกิดจากความร่วมมือจากองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) และ สสส. ที่ต้องการสร้างแนวคิดเสริมสุขภาวะคนไทย ด้วยการเชิญชวนนักปั่นจักรยานผู้รักสุขภาพร่วมสร้างประสบการณ์ใหม่บนเส้นทางแรลลี่รอบเมืองปทุมธานีในโอกาสครบรอบ 200 ปี
พร้อมชมนิทรรศการ “ถีบฉันทำไมอีก” และ “ถีบ…เปลี่ยนเรา เปลี่ยนโลก” งานนี้นอกจากจะส่งเสริมสุขภาพและสร้างเสริมสุขภาวะคนไทย ยังได้ท่องเที่ยวรอบเมืองปทุมธานีด้วยการปั่นจักรยาน นับเป็นการเดินทางที่ลดภาวะโลกร้อนได้อีกทางหนึ่งที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับเกียรติจากนายศิริพงษ์ ห่านตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี มาเป็นประธานเปิดงานด้วย
ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวเป็นการปั่นจักรยานรอบจังหวัดปทุมธานี ตั้งแต่เวลา 06.30 น. จนถึง 14.15 น. รวมเป็นระยะทาง 39.5 กิโลเมตร โดยมีจุด Check Point บนเส้นทางการเรียนรู้ทั้งหมด 8 จุด ได้แก่ วัดปัญญานันทาราม หอจดหมายเหตุ : ปทุมธานี หออัครศิลปิน
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติธรณีวิทยาเฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกาญจนาภิเษก พิพิธภัณฑ์บัว (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี) ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษาท้องฟ้าจำลอง (รังสิต) และจุดสุดท้ายคือ อพวช.
นางเบญจมาภรณ์ จันทรพัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. กล่าวว่า โครงการนี้เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด เส้นทางการเรียนรู้เพื่อสุขภาวะ Knowledge Bike Rally เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายด้วยจักรยาน โดยได้เชิญชวนนักปั่นจักรยานหน้าเก่าและหน้าใหม่มาร่วมค้นหาแรงบันดาลใจไปกับกิจกรรมที่จะสร้างประสบการณ์ และทัศนคติที่ดีบนเส้นทางการเรียนรู้ อีกทั้งเพื่อประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้ในจังหวัดปทุมธานี ที่ชาวกรุงเทพฯ สามารถเดินทางมาร่วมกิจกรรมได้ง่ายด้วย
อีกด้านหนึ่ง ที่สวนวชิรเบญจทัศ สสส. ร่วมกับสมาพันธ์ชมรมเดิน วิ่ง เพื่อสุขภาพไทย จัดกิจกรรมรณรงค์ "วิ่ง ปั่น รวมพลัง ทวงสิทธิ์ ห้ามสูบ" ภายใต้โครงการรณรงค์จิตอาสาขยายพื้นที่ปลอดบุหรี่ “รวมพลัง ทวงสิทธิ์ ห้ามสูบ ในพื้นที่ปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย 100%”
โดยมีเครือข่ายนักวิ่ง นักปั่นจักรยานมาร่วมกิจกรรมมากกว่า 600 คน โดยตลอดเส้นทางการวิ่งและปั่นจักรยานจากสวนรถไฟไปยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และสุดปลายทางที่สนามศุภชลาศัยกรีฑาสถานแห่งชาติ จะมีการแจกสติกเกอร์ และสื่อรณรงค์ “ทวงสิทธิ์ ห้ามสูบ” ในที่สาธารณะให้แก่ประชาชนร้านค้า ผู้ใช้รถ ใช้ถนนด้วย
นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สสส. ในฐานะประธานเปิดงาน กล่าวว่า กิจกรรมนี้ต้องการกระตุ้นให้เจ้าของสถานที่สวนสาธารณะ สถานประกอบการ และประชาชนทุกคน ได้มีส่วนร่วมในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี และปลอดภัยจากพิษภัยควันบุหรี่มือสองให้กับสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่เพื่อการออกกำลังกายในสวนสาธารณะ หรือพื้นที่สาธารณะต่างๆ ให้มีอากาศบริสุทธิ์ ไร้ควันบุหรี่ทำลายสุขภาพ
ดร.นพ.บัณฑิตกล่าวต่อว่า ปัจจุบันประชากรไม่สูบบุหรี่ถือเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ มีสัดส่วน 80% ขณะที่ผู้สูบบุหรี่มีเพียง 20% ถือว่าการปกป้องสิทธิของคนส่วนใหญ่ของประเทศเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งประเทศไทย พ.ร.บ.คุ้มครองสุขภาพผู้ไม่สูบบุหรี่ ตั้งแต่ปี 2535 และมีการออกประกาศเพื่อทำให้พื้นที่สาธารณะปลอดจากควันบุหรี่ เพราะเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคเช่นเดียวกับการสูบบุหรี่
จากข้อมูลองค์กรด้านสุขภาพของสหรัฐอเมริกา รายงานว่า ผู้ไม่สูบบุหรี่ที่สัมผัสหรือสูดดมควันบุหรี่มือสอง เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดประมาณ 3,400 คนต่อปี และโรคหัวใจประมาณ 46,000 คนต่อปี นอกจากนี้ ควันบุหรี่มือสองยังเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ เช่น โรคหอบหืด และอาการเรื้อรังในระดับทางเดินหายใจ
ด้านนายพจน์ เพิ่มพรพิพัฒน์ ประธานสมาพันธ์ชมรมเดิน วิ่ง เพื่อสุขภาพไทย กล่าวว่า โครงการ “วิ่ง ปั่น รวมพลัง ทวงสิทธิ์ ห้ามสูบ” เป็นความร่วมมือระหว่างสมาพันธ์ชมรมเดิน วิ่งฯ ชมรมจักรยานพับประเทศไทย กลุ่มบางกอกคริติคิลแมส ชมรมคอฟฟีไบค์ ตลอดจนนักวิ่ง นักจักรยานที่มีจิตอาสาและสสส.
โดยกิจกรรมรณรงค์ติดสติกเกอร์ “ทวงสิทธิ์ ห้ามสูบ” ได้เลือกสถานที่การรณรงค์ในพื้นที่สวนรถไฟ สวนจตุจักร สถานีขนส่งหมอชิต ตลาดนัดจตุจักร ตลาด อ.ต.ก. ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และในย่านชุมชน ซึ่งเป็นสถานที่ที่อยู่ในขอบเขตประกาศกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ โดยการรณรงค์ดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้ประชาชนสามารถเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ
ทั้งนี้ โครงการรณรงค์จิตอาสาขยายพื้นที่ปลอดบุหรี่ “รวมพลัง ทวงสิทธิ์ ห้ามสูบ ในพื้นที่ปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย 100%” ได้จัดทำสติกเกอร์ห้ามสูบบุหรี่เพื่อติดในสถานที่สาธารณะ และแจกจ่ายไปทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนเป็นอาสาสมัครติดสติกเกอร์ในสถานที่ห้ามสูบ 11 ประเภทที่กฎหมายกำหนด โดยติดต่อขอรับสติกเกอร์ได้ที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่งทั่วประเทศ
นอกจากนี้ สสส.ยังได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น “ทวงสิทธิ์ ห้ามสูบ” บนโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และ IOS ให้ประชาชนถ่ายรูปสติกเกอร์รณรงค์ที่ติดตามสถานที่สาธารณะ และโพสต์รูปพร้อมเช็กอินผ่านแอพพลิเคชั่น เชื่อมต่อกับเฟซบุ๊ก และ www.nonsmokersright.com เพื่อนำไปจัดแสดงบนแผนที่ประเทศไทย ทวงสิทธิ์ขอคืนพื้นที่ปลอดควันบุหรี่ พร้อมๆ ไปกับการโฆษณารณรงค์ทางโทรทัศน์ชุด “ไม่สูบ ก็เหมือนสูบ” และสื่อรณรงค์ต่างๆ เช่น สปอตโฆษณาทางวิทยุ ป้ายกลางแจ้ง ฯลฯ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงสิทธิของตนเองและผู้อื่น
สองงานนี้นอกจากประชาชนจะได้ประโยชน์จากการท่องเที่ยวและการทวงพื้นที่ปลอดควันบุหรี่แล้ว ผลพลอยได้ที่ตามมาคือร่างกายแข็งแรงจากการออกกำลังกาย
ที่มา: เว็บไซต์ไทยโพสต์