ปัญหาที่เกิดจาก “ปาก”

คนไทยกำลังอยู่ในภาวะที่เสี่ยงมากๆ

 

 

 

          อากาศกำลังเย็นๆอย่างนี้ ไม่ได้จะยกหัวข้อเกี่ยวกับ ปัญหาเรื่องปากของคนไทย ที่ กำลังพูดกันจนจะกลายเป็นสงครามกลางเมืองอย่างทุกวันนี้ มาทำให้ร้อนหรอกนะเจ้าคะ

 

          แต่ที่ว่า “ปัญหาอันเกิดจากปาก”ที่ขึ้นเป็นหัวเรื่องเอาไว้นี้ มัน เป็นความจริงว่า ปัญหาดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นจากปากของคนแต่ละจริงๆ

 

          ส่วนบรรทัดรองลงมาที่บอกว่า คนไทยกำลังอยู่ในภาวะเสี่ยงมากๆนั้น จะเห็นได้ว่ามันเป็น ความจริง ที่น่ากลัว จากการที่ มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ต้องจัดกิจกรรมเพื่อแก้ไขกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ดังที่จะกล่าวให้ทราบต่อไปนี้

 

          ก่อนอื่น ต้องขอบอกว่า จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุข ที่ทำการสำรวจตัวเลขเกี่ยวกับ ภาวะโรคอ้วนของคนทั่วประเทศ ที่ใช้เวลาทำกันมาเป็นแรมปี พบว่า โรคอ้วน หรือ จะพูดแบบไม่ให้น่าตกใจ ก็ต้องบอกว่า ความสมบูรณ์ของร่างกายคนไทยแบบว่า สมบูรณ์อย่างไม่มีคุณภาพ คือ เอาแต่อ้วนขึ้นๆ แต่ร่างกายกลับอ่อนแอลง อ่อนแอลง เนื่องจาก มีภาวะ เกิดโรคแทรกซ้อนมาจาก ความอ้วนของร่างกาย จนทำให้หลายคน ตายก่อนอายุขัย หรือ ไม่ก็เดี้ยงไปซะก่อนที่ จะถึงวัยอันสมควร รวมความแล้ว เหล่าบรรดา นายแพทย์ เขาจึงสรุปว่า ความเจริญสมบูรณ์ของร่างกายที่ขาดคุณภาพอย่างนี้ ต้อง เรียกว่า “กำลังเป็นโรคอ้วน”

 

          สาเหตุจะเกิดจากอะไรน่ะหรือ ก่อนที่ “ปานมณี”จะบอกให้ทราบ ขอ บอกตัวเลขของ โรคอ้วนของคนไทยทั้งประเทศก่อนว่า หากจะแยกคนออกมาเป็น สองส่วน คือ คนในต่างจังหวัด กับ คนในเมืองหลวง ปรากฎว่า คนในเมืองหลวง หรือ ใน กทม.นี้ สถานการณ์การเป็นโรคอ้วนมีมากกว่า คนในต่างจังหวัด

 

          พูดมาอย่างนี้ หลายคนที่รักชีวิต อยากให้ ชีวิต มีความสุขตามธรรมชาติ คงอยากจะไปตั้งรกรากอยู่ที่ต่างจังหวัดแน่นอน

 

          แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ อะไรๆมันย่อมมีสองด้านเสมอ ในขณะที่ คนกรุงอยากไปอยู่ต่างจังหวัด เพราะทำให้ชีวิตมีความสุข คนต่างจังหวัดก็อยากจะมาอยู่ในเมืองหลวง เพราะ คิดว่า ชีวิตมันมีความสุขมากกว่า

 

          ถามว่า ใคร คิดผิด ใครคิดถูก คำตอบคือ ไม่มี ใคร คิดผิด คิดถูกทั้งนั้น เพียงแต่ คนที่ คิด มองถึงเหตุผลไปคนละมุม หรือ มองต่างมุมกัน

 

          ก็ไอ้เรื่องที่ ขัดแย้งกันอยู่ในสังคม แล้ว เถียงกันจนต้อง แยกสีเสื้อ ไม่ใส่ให้เหมือนกันก็เพราะ “เจ้าความคิดที่มองกันคนละมุมนี่เอง”

 

          คนกรุงมองว่า ต่างจังหวัดดี เพราะมองถึงสุขภาพ และความเป็นอยู่เป็นสำคัญ ด้วย รู้ว่า ต่างจังหวัดนั้น มี อากาศดี มีมลพิษน้อย มีสถานที่เหลือเฟือพอที่จะหาที่ออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ ดังนั้นใครก็ตามที่ไปอยู่ต่างจังหวัด จะต้องได้รับ สิ่งสำคัญของสิ่งนี้แน่นอน คือ ได้ อากาศบริสุทธิ์กว่า และ ได้มีโอกาสออกกำลังกายได้มากกว่า

 

          มนุษย์เราว่ากันว่า หากชีวิตประจำวัน ร่างกายได้รับสองสิ่งนี้อย่างสม่ำเสมอ เชื่อได้เลยว่า ชีวิตจะสุขสมบูรณ์แบบไม่ต้อง พึ่งยารักษาโรคเลย

 

          ส่วนคนต่างจังหวัด มองว่า เมืองหลวงดีกว่า เพราะมองไปด้านของความสุขสบาย และ ความหรูหรา เป็น ต้นว่า ไปไหนมาไหน ก็มีรถมาเกยรับตั้งแต่หัวบันไดบ้าน ไม่เหมือน อยู่ต่างจังหวัดบางแห่ง กว่าจะได้ขึ้นรถสักครั้งต้องเดินจนเหงื่อตก จึงจะมีโอกาส นอกจากนี้ ในเรื่องของ ความหรูหรา สง่างาม คนกรุงต่างก็สวย หล่อ เพราะ มีเครื่องประทินโฉม มีตัวเลือกมากมายที่จะเอาเงินไปหาซื้อมาใส่ให้กับตัวเอง เพราะ ฉนั้นเลยอยากหรูหรา สง่างาม เหมือนคนกรุงบ้าง จึงอยากจะมามีชีวิตอยู่ในเมืองหลวง (ซึ่งไม่แน่ว่า พอมาได้เจอเข้าจริงๆแล้วจะรีบเผ่นกลับหรือไม่)

 

          ก็เพราะเมืองหลวง เต็มไปด้วย คนที่อยากจะเข้ามากันมากมายนี่เอง เลยทำให้เกิด ภาวะมลพิษขึ้น แล้ว ภาวะโรคอ้วนก็ปรากฎขึ้น

 

          โดยแพทย์สาธารณสุข ยืนยันว่า สถานการณ์โรคอ้วนของไทยเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะใน กทม. ที่มีภาวะอ้วนน้ำหนักเกินในอัตราที่สูงมากกว่าประชากรในต่างจังหวัด สาเหตุน่าจะมาจากการ ที่คนกรุงเทพฯ บริโภคอาหารหลากหลายที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ขาดการออกกำลังกายและอยู่ใต้ภาวะเครียดจากชีวิตในชุมชนเมือง ตัวเลข สถิติของ โรคอ้วนในเมืองหลวงจึงมีมากกว่าใน ต่างจังหวัด

 

          สำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. จึงอยากเชิญชวนคนกรุงเทพฯ ให้ มาร่วมงานในวันเสาร์ที่ 28 พ.ย. 2552 โดย กทม. เครือข่ายคนไทยไร้พุง สสส. ได้จัดงาน “มหกรรม ลดพุง คนกรุงเทพ ครั้งที่ 1” ขึ้นที่ บริเวณศาลาแปดเหลี่ยม สวนลุมพินี โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ มากมาย อาทิ ตรวจร่างกายฟรี จากแพทย์สำนักอนามัย กทม. กิจกรรมเดินวิ่งชิงรางวัล ชมการแสดงเต้นเอโรบิคคุณหนู พร้อมชิมเมนูกินถูกส่วน 211 ลดอ้วนลงพุง เรียนรู้ฉลากอาหารสุขภาพจาก อย. และตอบปัญหา 3 อ.ชิงรางวัล ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เพียงขอให้ ติดต่อลงทะเบียน ที่โทร. 02-7166744 ต่อ 25 หรือ 086-305 4268 และ 084 051 6749

 

          ใครที่อยู่ใน กทม. และ กำลังวิตกกังวล หรือ มองการณ์ไกลในอนาคตว่า ตัวเอง อาจจะต้องเจอกับปัญหาโรคอ้วนเข้าสักวันใดวันหนึ่งแน่ๆ อย่าลืม จดบันทึกเอาไว้ในสมุดพก แล้วพอถึงวันที่ 28 เดือนนี้ ก็รีบไปร่วมงานกับเขา เพื่อจะได้มีความรู้พกติดตัวกลับมาใช้ปฏิบัติให้กับตนเองที่บ้านให้ปลอดภัยจากโรคอ้วน ที่กำลังคุกคามคนเมืองหลวงอยู่ในเวลานี้

 

 

 

 

ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า

 

 

Update:25-11-52

อัพเดทเนื้อหาโดย: ณัฏฐ์ ตุ้มภู่