“ประเวศ” ชู “การศึกษารักษาทุกโรค”

ผ่านมรรค 8 แห่งการพัฒนา โดยชุมชนท้องถิ่น-จังหวัดเข้ามามีส่วนร่วม “สสค.” ระดมพลัง “จังหวัด-ท้องถิ่น” ตั้งคณะกรรมการคัดเลือกครูสอนดี เล็งยกระดับคุณภาพการศึกษา ตั้งเป้ากระจายครูสอนดี 2-3 คน/ตำบล ทั่วประเทศในปี 54

ที่โรงแรมรามาการ์เด้น วันที่ 7 มิ.ย.54 สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ร่วมกับคณะกรรมการปฏิรูปและคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป จัดประชุมคณะกรรมการคัดเลือกครูสอนดีระดับจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจถึงกระบวนการคัดเลือก “ครูสอนดี” จำนวน 20,000 คน ในปี 2554 ในการพัฒนาคุณภาพทางการศึกษา

ศ.นพ.ประเวศ วะสีประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูป กล่าวปาฐกถาพิเศษ “ศักยภาพของชุมชนท้องถิ่นในการปฏิรูปการเรียนรู้”ว่า จุดสำคัญในการปฏิรูปประเทศคือ การให้ชุมชน ท้องถิ่น และจังหวัด จัดการตัวเอง จะทำให้แก้ปัญหาไปได้หลายอย่าง การพัฒนาที่ผ่านมาไม่ประสบความสำเร็จ เพราะสร้างพระเจดีย์จากยอด จึงพังลง ต้องสร้างเจดีย์จากฐาน หากฐานแข็งแรงก็จะมั่นคง ซึ่งฐานพระเจดีย์คือชุมชนและท้องถิ่น ในส่วนของการศึกษา เราต้องมองใหม่ การศึกษาต้องเชื่อมโยงไปเรื่องอื่นๆ ทั้งเศรษฐกิจ จิตใจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม สุขภาพ และประชาธิปไตย รวม 8 เรื่องเชื่อมกันและกันทั้งหมด อาจจะเรียกว่าเป็นมรรค 8 แห่งการพัฒนา

ศ.นพ.ประเวศ กล่าวว่า สสค.ตั้งขึ้นมาเพื่อส่งเสริมเรื่องการเรียนรู้ของคนในสังคม เพราะขณะนี้เรื่องใหญ่ที่สุดของประเทศไทยคือการเปลี่ยนแปลงจากสังคมใช้อำนาจไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ เนื่องจากประเทศไทยมีความซับซ้อน หากไม่สามารถรู้ปัญหาทั้งหมดของประเทศ ก็ไม่สามารถพัฒนาและรักษาดุลยภาพของประเทศไทยไว้ได้ ประเทศของเราก็จะเข้าสู่สภาวะวิกฤติ จึงจำเป็นต้องสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยจะต้องเป็นการเรียนรู้สำหรับคนทั้งมวลและคนทั้งมวลก็จะเกิดการเรียนรู้ การศึกษาที่เกิดขึ้นก็จะเป็นการศึกษารักษาทุกโรค ทำให้เกิดการพัฒนาอย่างบูรณาการเกิดสังคมแห่งศานติสุข

“เมื่อมององค์ประกอบของคณะกรรมการเพื่อการคัดเลือกครูสอนดีระดับจังหวัด เห็นว่ามีศักยภาพที่จะไปได้ไกล เพราะมาจากหลายทางและมีความสำคัญ เช่น ประธานมาจากผู้ทรงคุณวุฒิ เลขานุการมาจาก อบจ.องค์ประกอบเหล่านี้แต่เดิมไม่ได้รวมกัน แยกส่วนตามโครงสร้างของรัฐ เมื่อมารวมกันคิด ร่วมกันทำจะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ในการพัฒนาประเทศ” ศ.นพ.ประเวศกล่าว

ด้าน ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร รองประธานกรรมการส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน คนที่ 2 กล่าวว่า การปฏิรูปการศึกษา ต้องเริ่มจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ซึ่งกลไกการคัดเลือกครูสอนดี ผ่านคณะกรรมการเพื่อการคัดเลือกฯ ระดับจังหวัดและท้องถิ่น ถือเป็นกลไกสำคัญของการมีส่วนร่วมเป็นเจ้าของในการจัดการศึกษา ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการเพื่อการคัดเลือกฯ ในแต่ละท้องถิ่นได้เริ่มกระบวนการคัดเลือกแล้ว โดยเปิดให้สถานศึกษาเสนอชื่อครูสอนดีในสถานศึกษา ส่วนเขต เทศบาล หรือ อบต.จะเสนอชื่อครูสอนดีที่สอนเด็กด้อยโอกาสนอกสถานศึกษาไปยังคณะกรรมการคัดเลือกฯ ระดับท้องถิ่นภายในเดือน ก.ค.54 เพื่อทำการคัดเลือกและส่งต่อไปยังคณะกรรมการเพื่อการคัดเลือกฯ ในระดับจังหวัด ซึ่งจะมีการประกาศผลรายชื่อครูสอนดี 20,000 คนทั่วประเทศ หรือเฉลี่ยตำบลละ 2-3 คนภายในปี 2554

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์สยามรัฐ

Shares:
QR Code :
QR Code