ประมวลภาพงาน “Car Free Sunday หยุดใช้รถ เพิ่มพลังกาย ใช้รถสาธารณะ 7 วัน 1 ครั้ง เพื่อคุณ เพื่อเรา เพื่อโลก”

 

(13 ก.ย.) ลานพาร์ค พารากอน สยามพารากอน กระทรวงพลังงาน ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย ร่วมเปิดโครงการ “car free sunday หยุดใช้รถ เพิ่มพลังกาย ใช้รถสาธารณะ 7 วัน 1 ครั้ง เพื่อคุณ เพื่อเรา เพื่อโลก โดย นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า อยากขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนช่วยกันตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม ด้วยการลดการใช้รถยนต์ส่วนตัวในทุกวันอาทิตย์ เพราะปัจจุบันกิจวัตรประจำวันของประชาชนทุกคนล้วนก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ จากการสำรวจ พบว่า กรุงเทพฯ เป็นฐานการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดในประเทศไทย โดยมาจากภาคอุตสาหกรรมปีละ 33.79 ล้านตัน ภาคการใช้ไฟฟ้าปีละ 20,922,768 ตัน และภาคการขนส่งปีละ 17,300,480 ตัน นอกจากนี้ในปี 2551 ประเทศไทยยังต้องนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นมูลค่าถึง 555 ล้านบาทต่อวัน

 ประมวลภาพงาน “Car Free Sunday หยุดใช้รถ เพิ่มพลังกาย ใช้รถสาธารณะ 7 วัน 1 ครั้ง เพื่อคุณ เพื่อเรา เพื่อโลก”

ศ.ดร.ธงชัย พรรณสวัสดิ์ กรรมการบริหารแผน คณะที่ 5 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ กล่าวว่า การลดใช้รถยนต์ส่วนบุคคลจะช่วยทำให้เกิดประโยชน์ทางด้านสุขภาพ โดยเฉพาะการใช้จักรยานเป็นพาหนะเดินทางในชีวิตประจำวัน ช่วยในการออกกำลังกายไปด้วย เช่น ใช้เป็นพาหนะเดินทางไป – มาในละแวกบ้าน  ด้วยความเร็วเฉลี่ยประมาณ  16 – 18  กิโลเมตรต่อชั่วโมง  ในระยะทางจากที่พักไปถึงที่ทำงานประมาณ  10  กิโลเมตร ทำให้ผู้ใช้จักรยานได้ออกกำลังกายถึงวันละ 60 นาที  และสามารถเผาผลาญพลังงานได้อย่างน้อย  576  กิโลแคลอรี่  ต่อการเดินทางไปทำงาน  10  กิโลเมตรต่อวันและ  1,152  กิโลแคลอรี่ ต่อการเดินทางไปทำงาน  20  กิโลเมตรต่อวัน   ซึ่งหากปฏิบัติเช่นนี้ได้ทุกวันจะส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว นอกจากนั้น  การใช้จักรยานเพื่อกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันอย่างเป็นประจำยังสามารถลดอัตราความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคเบาหวานและโรคอื่นๆ สำหรับโครงการ car free day เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อต้น ค.ศ.1970 ในช่วงวิกฤตน้ำมันและได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายในเมืองต่างๆ ทั่วโลก

ประมวลภาพงาน “Car Free Sunday หยุดใช้รถ เพิ่มพลังกาย ใช้รถสาธารณะ 7 วัน 1 ครั้ง เพื่อคุณ เพื่อเรา เพื่อโลก” 

          ด้าน ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ประธานมูลนิธิกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย กล่าวว่า มูลนิธิกองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อมไทย ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. ต้องการให้เกิดการแก้ปัญหาที่ยั่ง  ยืน และต่อเนื่อง จึงได้ดำเนินโครงการ คาร์ฟรี ซันเดย์ เนื่องในวัน คาร์ฟรีเดย์ โดยได้ระดมความร่วมมือจากองค์กรภาคี และหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนให้เกิดการใช้การเดินทางโดยระบบขนส่งมวลชน ลดการใช้พลังงาน อีกทั้งกระตุ้นให้คนหันมาใช้จักรยาน หรือการ เดินในระยะทางใกล้ ๆ ที่จะเกิดประโยชน์ด้านสุขภาพ และด้านสิ่งแวดล้อม ที่สำคัญยังมุ่งหวังในการกระตุ้นภาครัฐให้ผลักดันในส่วนของนโยบายที่จะทำให้เกิดการดำเนินการเรื่องของระบบขนส่งมวลชน หรือการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้เกิดขึ้นจริง เพื่อให้ประชาชนหันมาใช้การเดินทางแบบไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

 

 

บรรยากาศภายในงาน

 

 ประมวลภาพงาน “Car Free Sunday หยุดใช้รถ เพิ่มพลังกาย ใช้รถสาธารณะ 7 วัน 1 ครั้ง เพื่อคุณ เพื่อเรา เพื่อโลก”

ประมวลภาพงาน “Car Free Sunday หยุดใช้รถ เพิ่มพลังกาย ใช้รถสาธารณะ 7 วัน 1 ครั้ง เพื่อคุณ เพื่อเรา เพื่อโลก”

ประมวลภาพงาน “Car Free Sunday หยุดใช้รถ เพิ่มพลังกาย ใช้รถสาธารณะ 7 วัน 1 ครั้ง เพื่อคุณ เพื่อเรา เพื่อโลก”

ประมวลภาพงาน “Car Free Sunday หยุดใช้รถ เพิ่มพลังกาย ใช้รถสาธารณะ 7 วัน 1 ครั้ง เพื่อคุณ เพื่อเรา เพื่อโลก”

ประมวลภาพงาน “Car Free Sunday หยุดใช้รถ เพิ่มพลังกาย ใช้รถสาธารณะ 7 วัน 1 ครั้ง เพื่อคุณ เพื่อเรา เพื่อโลก”

ประมวลภาพงาน “Car Free Sunday หยุดใช้รถ เพิ่มพลังกาย ใช้รถสาธารณะ 7 วัน 1 ครั้ง เพื่อคุณ เพื่อเรา เพื่อโลก”

ประมวลภาพงาน “Car Free Sunday หยุดใช้รถ เพิ่มพลังกาย ใช้รถสาธารณะ 7 วัน 1 ครั้ง เพื่อคุณ เพื่อเรา เพื่อโลก”

ประมวลภาพงาน “Car Free Sunday หยุดใช้รถ เพิ่มพลังกาย ใช้รถสาธารณะ 7 วัน 1 ครั้ง เพื่อคุณ เพื่อเรา เพื่อโลก”

ประมวลภาพงาน “Car Free Sunday หยุดใช้รถ เพิ่มพลังกาย ใช้รถสาธารณะ 7 วัน 1 ครั้ง เพื่อคุณ เพื่อเรา เพื่อโลก”

ประมวลภาพงาน “Car Free Sunday หยุดใช้รถ เพิ่มพลังกาย ใช้รถสาธารณะ 7 วัน 1 ครั้ง เพื่อคุณ เพื่อเรา เพื่อโลก”

 

 

 

ดาวน์โหลดภาพงานทั้งหมด คลิกที่นี่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : team content www.thaihealth.or.th

 

 

update 05-10-52

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์

Shares:
QR Code :
QR Code