ประกาศให้ 132 สถานีตำรวจเป็นเขตปลอดบุหรี่
เพื่อปกป้องสุขภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจจากควันบุหรี่มือสอง
กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ขานรับนโยบายกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่ราชการ โดยรุกติดป้าย “สถานีตำรวจเป็นเขตปลอดบุหรี่” หน้าสถานีตำรวจ ของตำรวจภูธร ภาค 1 ทั้งหมด 132 แห่ง ใน 9 จังหวัด เพื่อปกป้องสุขภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 10,000 คน จากการได้รับควันบุหรี่มือสอง
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ขยายผลการดำเนินโครงการสถานีตำรวจปลอดบุหรี่ โดยรณรงค์ให้สถานีตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 ในเขตพื้นที่ 9 จังหวัด จำนวน 132 สถานี จัดสิ่งแวดล้อมให้เป็นเขตปลอดบุหรี่ โดยสนับสนุนป้าย “สถานีตำรวจเป็นเขตปลอดบุหรี่” ซึ่งเป็นการดำเนินงานต่อเนื่องจากที่ได้สนับสนุนตำรวจนครบาล และ ตำรวจภูธร ภาค 7 ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ข้าราชการตำรวจเป็นต้นแบบที่ดีให้กับประชาชน ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้สถานที่ราชการเป็นเขตปลอดบุหรี่ และยังเป็นการสนับสนุนให้ข้าราชการตำรวจเลิกสูบบุหรี่ด้วย
พล.ต.ท.
ด้าน พล.ต.ต.สมชาย มหาวันสุ ผู้รับผิดชอบโครงการสถานีตำรวจปลอดบุหรี่ กล่าวว่า จากการดำเนินโครงการที่ผ่านมา ได้มีการสำรวจความคิดเห็นหัวหน้าสถานีตำรวจเกี่ยวกับการรณรงค์ให้สถานีตำรวจเป็นเขตปลอดบุหรี่ จำนวน 70 แห่ง พบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดทั้งที่สูบและไม่สูบบุหรี่ เห็นด้วยและสนับสนุนนโยบายสถานีตำรวจปลอดบุหรี่ โดยร้อยละ 98.57 ที่รู้สึกสบายใจเมื่อทราบว่าสถานีตำรวจเป็นเขตปลอดบุหรี่ ร้อยละ 94.29 เห็นว่าหลังติดป้ายแล้วสถานีตำรวจสะอาดสะอ้านมากขึ้น ร้อยละ 88.89 ของผู้สูบบุหรี่อยากเลิกบุหรี่ และร้อยละ 84.29 เห็นว่าประชาชนที่มาติดต่อราชการสูบบุหรี่น้อยลง นอกจากนี้ ยังได้สอบถามในกรณีการลงโทษเปรียบเทียบปรับผู้ฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในสถานีตำรวจและสถานที่สาธารณะอื่น ๆ พบว่า ร้อยละ 17.14 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงโทษเปรียบเทียบปรับผู้ฝ่าฝืนสูบบุหรี่ในสถานีตำรวจ และ ร้อยละ 81.43 ที่ไม่ลงโทษแต่ใช้วิธีว่ากล่าวตักเตือน และร้อยละ 1.43 เคยเปรียบเทียบปรับกรณีมีผู้สูบบุหรี่ในที่สาธารณะ และร้อยละ 97.14 ไม่เคยเปรียบเทียบปรับ
ในการดำเนินโครงการนับจากนี้ จะดำเนินการในพื้นที่ตำรวจภูธร ภาค 1 ทั้งหมด 132 แห่ง ในเขต 9 จังหวัด คือ จังหวัดสมุทรปราการ ,จังหวัดนนทบุรี ,จังหวัดปทุมธานี ,จังหวัดพระนครศรีอยุธยา , จังหวัดอ่างทอง , จังหวัดสิงห์บุรี , จังหวัดสระบุรี , จังหวัดลพบุรี และ จังหวัดชัยนาท ซึ่งคาดว่าน่าจะแล้วเสร็จภายในต้นปี 2552
ที่มา : มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สสส.
update 22-09-51