“บ้านใจดี” ของขวัญล้ำค่าในเดือนแห่งความรัก


 


เดือนนี้นับได้ว่าเป็นเดือนแห่งความรัก นอกจากหนุ่มสาวทั่วโลกจะเห็นความสำคัญในเรื่องนี้แล้ว แต่อย่าลืมไปว่ายังมีผู้สูงวัย ผู้พิการรอคอยความรักความห่วงใยจากคนในครอบครัวและคนรอบข้างเช่นกัน จะดีกว่าไหมถ้าเราจะหันมาใส่ใจสุขภาวะคนในครอบครัว ดูแลกันและกันให้มากขึ้น


โครงการ “บ้านใจดี” ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เราจะมอบความรักความห่วงใยให้คนในครอบครัว เป็นของขวัญที่ล้ำค่ามากกว่าการมอบดอกกุหลาบหรือช็อกโกแลตที่หลายคนนิยมนำมามอบให้กันและกัน การจะปรับสภาพบ้านที่อยู่อาศัยให้เป็นบ้านใจดีไม่ใช่เรื่องยาก บางสิ่งเป็นสิ่งใกล้ตัวเรามากๆ และสามารถปรับเปลี่ยนได้ด้วยตนเอง ไม่ใช่เพื่อใครที่ไหนแต่เพื่อให้ทุกคนอยู่ร่วมกันในบ้านได้อย่างอบอุ่นและปลอดภัย


“บ้านใจดี” ทางออกที่ง่ายและประหยัด ทำได้ทั้งที่อยู่อาศัย ที่ทำงานเป็นแนวคิดที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ กรุงเทพมหานคร และสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ออกแบบมาเพื่อคนทั้งมวล หรือUniversal Design เป็นประโยชน์ต่อคนทั้งประเทศ ในงานสถาปนิก 54


Universal Design  แนวคิดที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยของทุกคน ถ้าทุกคนเห็นความสำคัญเมืองใจดีก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนโดย ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุน สสส. เล่าถึงที่มาแนวคิดดังกล่าวว่า การสนับสนุนการออกแบบเพื่อคนทั้งมวล เพื่อนำสู่สังคมสุขภาวะร่วมกันเป็นการสอดรับกับจำนวนผู้สูงอายุที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต และยังมีผู้พิการอีกกว่า 2 ล้านคน ซึ่งเป็นเรื่องท้าทายในการหาหนทางดูแลทั้งด้านสุขภาพและด้านสังคมให้กับผู้สูงอายุและผู้พิการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี โครงการบ้านใจดีและอาคารใจดี ถือเป็นจุดเริ่มต้นของรูปธรรมในการสร้างสภาพแวดล้อมรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน สถานที่สาธารณะที่เอื้อให้ทุกคนเกิดความเท่าเทียมในการอยู่ร่วมกันในสังคม เพราะหากเราขาดปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้ไป ก็เท่ากับว่าเราขาดพื้นฐานสำคัญที่จะทำให้ทุกคนสามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข


“สสส.หวังว่า ความร่วมมือจากทุกฝ่ายเราจะร่วมกันสนับสนุนให้เกิดสถาปนิกรุ่นใหม่ที่มีฐานความคิด และความสามารถในการออกแบบบ้านอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่รองรับการเข้าถึงของคนทุกกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มผู้พิการและผู้สูงอายุ” ทพ.กฤษดา กล่าว


ปัจจุบันประเทศไทยมีคนพิการจำนวนมาก และสังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงอายุ แต่คนพิการและผู้สูงอายุของไทย ยังขาดความสะดวกในการเข้าถึงและการใช้งานที่เหมาะสม ทั้งในที่อยู่อาศัยของตนเอง รวมถึงอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะต่างๆ ซึ่งนับว่าเป็นอุปสรรคที่ทำให้ผู้พิการและผู้สูงอายุไม่สามารถพึ่งพาตนเองในการใช้ชีวิตประจำวันเหมือนคนทั่วไป


นายทวีจิตร จันทรสาขา นายกสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ เล่าว่า “บ้านใจดี” เป็นตัวอย่างบ้านจำลองที่ถูกออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกกับคนพิการและผู้สูงอายุ เป็นแนวทางในการออกแบบสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงบ้านหลังเดิม รวมทั้งผู้ที่ต้องการสร้างบ้านใหม่ สร้างโครงการต่างๆ หรือสิ่งปลูกสร้างสาธารณะและสภาพแวดล้อมทั่วไป บ้านแบบนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นเพียงแต่การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ให้เหมาะตามคำแนะนำของสถาปนิก


ด้านนพ.บรรลุ ศิริพาณิช ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุ ผู้แทนกลุ่มผู้สูงอายุ บอกว่า คนแก่ร้อยทั้งร้อยไม่อยากไปอยู่บ้านพักคนชรา แต่อยากอยู่กับครอบครัว อยู่ใกล้ลูกหลาน ต้องการความรักความอบอุ่น เพราะครอบครัวเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งบ้านใจดีก็นับว่าเป็นรูปแบบที่น่าทำตาม เพราะครอบคลุมการใช้สำหรับทุกกลุ่ม อย่างบันไดก็มีทั้งลางลาด มีราวจับ ห้องส้วมก็จัดรูปแบบได้เหมาะสม ก๊อกน้ำก็เป็นแบบหมุน ฟักบัวก็เลื่อนขึ้นเลื่อนลงได้ และประตูก็เป็นบานเลื่อนที่เปิดง่ายและสะดวกในการเข้าออก


ศ.วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ผู้แทนกลุ่มคนพิการ อาจารย์คณะนิติศาสตร์และอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กล่าวว่า “การมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อผู้พิการและผู้สูงอายุสังคมก็จะน่าอยู่ และจะไม่มีคำว่าผู้พิการซึ่งการรณรงค์ให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อผู้พิการและผู้สูงอายุ ควรเน้นเรื่องทำอย่างไรให้สังคมไม่มีอุปสรรคสำหรับผู้พิการ เพราะหากรณรงค์เรื่องนี้คนพิการก็จะไม่มีให้ช่วยเหลือ เนื่องจากมีสถานที่รองรับคนกลุ่มนี้ เพราะหากสภาพแวดล้อมไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อผู้พิการสภาพแวดล้อมก็จะนำมาซึ่งคำว่าพิการและความพิการ”


ขณะที่ นางกิ่งแก้ว อินหว่าง ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ บอกว่า ทางสำนักงานได้ตระหนักเรื่องสุขภาพคนพิการมาโดยตลอด การที่มีโครงการบ้านใจดีขึ้นมาก็เป็นเรื่องที่ดี และเห็นด้วย เพราะสามารถทำให้ผู้พิการอยู่ร่วมกับคนปกติได้อย่างมีความสุข ไปไหนได้อย่างปลอดภัย ซึ่งการเริ่มต้นตรงนี้เป็นการก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่เพราะสักวันเราอาจจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในกลุ่มนี้ได้


มามอบความรักความห่วงใยด้วยการสร้างบ้านใจดีให้คนในครอบครัวเพื่อรองรับสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคต หากทุกคนมีความเข้าใจที่ตรงกันในเรื่องของการดูแลก็จะเกิดความสุขในสังคม และบ้านก็จะกลายเป็นสังคมที่มีความสุขและปลอดภัย เพราะความเอื้ออาทรคือสิ่งที่หลายคนต้องการสสส.


 


 


ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน


 


 

Shares:
QR Code :
QR Code