‘บ้านโคกเกตรี’ ดึงมวยไทย ‘สู้โรค’
ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน
ภาพประกอบจากเว็บไซต์แนวหน้า
'บ้านโคกเกตรี' ดึงศิลปะมวยไทย สู่ท่าออกกำลังกาย/ขยับร่าง'สู้โรค'
มีคำแนะนำง่ายๆ เป็นที่รับรู้กันดีว่าหากต้องการ มีสุขภาพดี ควรยึดหลักปฏิบัติ 3 อ. 2 ส. คือการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบทุกหมู่ มีอารมณ์แจ่มใส และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่สูบบุหรี่และไม่ดื่มสุรา จะช่วยให้ห่างไกลโรคต่างๆ ได้ ขณะในพื้นที่บ้านโคกเกตรี หมู่ 3 ต.เกตรี อ.เมือง จ.สตูล ชุมชนมุสลิมที่มีประชากร 810 คน ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำเกษตรกรรมในชุมชน ทำนาและทำสวน อาชีพเสริมของสตรีในหมู่บ้าน คือการทำขนมพื้นเมือง เช่น ขนมบุหงาบูดะ ขนมทองพับ ขนมไข่เต่า เป็นต้น ในจำนวนประชากรทั้งหมดนี้มีโรคประจำตัว คือโรคความดัน 60 คน และเบาหวาน จำนวน 35 คน สาเหตุมาจากการรับประทานอาหาร และไม่ได้ให้ความสำคัญต่อการออกกำลังกาย
อย่างไรก็ตาม ในชุมชนแห่งนี้มี "สภาเด็กและเยาวชนตำบลเกตรี" ซึ่งได้ดำเนินกิจกรรมในชุมชนอยู่แล้ว เห็นว่าควรหาทางให้สมาชิกชุมชนได้ออกกำลังกาย เมื่อปรึกษากับหลายฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ศิลปะมวยไทย คือกีฬาอันดับหนึ่งที่ชาวเกตรีให้ความสนใจมากที่สุด จึงได้เริ่มโครงการ "การส่งเสริมกิจกรรมทางกายด้วยมวยไทย บ้านโคกเกตรี" ขึ้นมา เพื่อชักชวนให้ชาวชุมชนทุกเพศทุกวัยหันมาออกกำลังกายโดยใช้ศิลปะมวย เพื่อลดและป้องกันโรคที่คุกคามประชาชนในพื้นที่ โดยได้รับการสนับสนุนจากสำนักสร้างสรรค์โอกาสและนวัตกรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
จากคำบอกเล่าของผู้นำชุมชน กรียา อาดำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.เกตรี ระบุว่า ชุมชนมีจุดเด่นเรื่องการให้ความร่วมมือดี และอยู่กันอย่างสงบสุขตามหลักศาสนาอิสลาม หากชุมชนจะดำเนินกิจกรรม ใดๆ ก็จะใช้เวทีประชาคมในการพูดคุยตัดสินใจ แม้ในเวทีบางเรื่องจะเห็นแตกต่างกันแต่ก็จะหาทางออกได้เสมอ ทำให้มีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนเกิดขึ้นมากมาย และการใช้มวยไทยมาเป็นศิลปะในการออกกำลังกายนี้ เป็นแนวคิดของสภาเด็กและเยาวชนตำบลเกตรี ซึ่งได้ใช้เวทีประชาคมพูดคุย หาวิธีการออกกำลังกายที่สามารถทำร่วมกันได้คราวละหลายๆ คน โดยเชิญวิทยากรครูมวยในพื้นที่มาสาธิตท่าออกกำลังกายก่อนในเบื้องต้น เป็นการขยับร่างกายเพื่อสู้กับโรคภัยต่างๆ
"เรื่องมวยนี่เริ่มจากเยาวชน เพราะเยาวชนเป็นกลุ่มที่มีพลังเยอะ ตอนแรกส่วนใหญ่ก็เตะฟุตบอล เล่นวอลเลย์บอล ถ้าจะเล่นกันเยอะๆ สนามไม่พอ แต่มวยไทยเราเล่นกันได้เป็นร้อยเลย พอเด็กๆ ออกกำลังกายกัน เราก็ต่อยอดไปหาพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กๆ ที่มานั่งดูออกกำลังกาย กลายเป็นทุกเพศทุกวัยออกกำลังกายด้วยกัน" ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านโคกเกตรี กล่าว
ด้าน ราฏา กรมเมือง ที่ปรึกษากลุ่มเยาวชน เสริมว่า ความจริงการออกกำลังกายด้วยมวยไทยเริ่มก่อนหน้านี้เกือบ 3 ปี แต่ไม่มีการรวมกลุ่มชัดเจนเช่นปัจจุบัน จากการสังเกตพบว่าในช่วง 16.00 น. โดยปกติเด็กมักจะใช้เวลาในร้านเกมเสียส่วนใหญ่ แต่เมื่อมีกิจกรรมออกกำลังกายด้วยมวยไทย เด็กที่เคยเข้าร้านเกมก็จะมาออกกำลังกายแทน ขณะที่ผู้ปกครองที่มีฐานะดีก็มักจะส่งลูกให้ไปเรียนในตัวเมือง ทำให้ขาดการปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเยาวชนในชุมชน การจัดกิจกรรมออกกำลังกายมวยไทยร่วมกันสามารถช่วยให้เยาวชนในหมู่บ้านได้รู้จักกัน สร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวได้
"ตอนแรกเราทำกิจกรรมกับกลุ่มเยาวชน เราเห็นพฤติกรรมเปลี่ยนไป ร้านเกมจะเงียบเพราะเด็กมาออกกำลังกายกันหมด และผู้ปกครองที่มานั่งรอลูกหลานออกกำลังกายกัน บอกกับเราว่าช่วยหาวิธีออกกำลังกายให้ผู้ใหญ่ด้วยได้ไหม เราจึงได้เห็นภาพของคนต่างวัยมาออกกำลังกายร่วมกัน โดยใช้มวยไทยเป็นท่าออกกำลังกาย" ที่ปรึกษากลุ่มเยาวชนกล่าว ราฏายังบอกด้วยว่า ในชุมชนมองเห็นว่ามวยไทยเป็นศาสตร์ที่ใช้ป้องกันตัวได้และดึงดูดความสนใจได้ดี เมื่อสอนวิธีออกกำลังกายเป็นแล้ว สามารถนำไปออกกำลังกายเองด้วยตัวเองที่บ้านได้ ช่วยสร้างความตระหนักให้คนในชุมชนได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ขณะเดียวกันก็ช่วยลดช่องว่างระหว่างวัยเด็ก คนวัยทำงานและผู้ใหญ่ได้มาออกกำลังกายร่วมกัน
ขณะที่ อัพดอล พงค์สวัสดิ์ รองประธานสภาเด็กและเยาวชนตำบลเกตรี บอกว่า ปกติไม่ชอบออกกำลังกายนัก แต่ให้ความสนใจกีฬามวยไทย ภายหลังได้เข้าร่วมกิจกรรมด้านจิตอาสาเป็นแกนนำเยาวชนของตำบล และได้มาร่วมออกกำลังกายมวยไทยรู้สึกชอบจนปัจจุบันได้เข้าไปฝึกชกมวยกับโค้ชค่ายมวยในพื้นที่อย่างจริงจัง และหวังจะขึ้นชกบนเวทีสักครั้ง ส่วนการดำเนินโครงการให้คนในชุมชนร่วมออกกำลังกายด้วยมวยไทยนั้น ตนและคณะทำงานมีส่วนร่วมตั้งแต่การเขียนโครงการ จึงได้เห็นกระบวนการทำงานทั้งหมด และจากการสังเกตพบว่าผู้หญิงให้ความสนใจออกกำลังกายด้วยมวยไทยมากกว่าผู้ชายอีกด้วย
"ผมคิดว่าผู้หญิงให้ความสำคัญเรื่องรูปร่าง อยากให้ร่างกายแข็งแรงสมส่วนก็เลยมาออกกำลังกายกันเยอะกว่า ตอนนี้มีทั้งผู้สูงอายุ เด็ก ผู้ใหญ่มีทุกวัยมาออกกำลังกายร่วมกัน ผมเองก็ได้รู้จักน้องๆ มากขึ้นจากเดิมที่ไม่ค่อยรู้จักใครเลย แม้ว่าจะอยู่หมู่บ้านเดียวกัน" แกนนำเยาวชนกล่าว
ปัจจุบันกิจกรรมออกกำลังกายด้วยมวยไทยบ้านโคกเกตรี ได้ใช้พื้นที่สนามโรงเรียนบ้านเกตรี เป็นสถานที่ออกกำลังกายในช่วงเย็น ตั้งแต่วันจันทร์วันศุกร์ จากเริ่มแรกมีผู้เข้าร่วม 50 คน ปัจจุบันมีเข้าร่วมไม่น้อยกว่า 100 คน เป็นผลความสำเร็จที่เกิดจากทุกฝ่ายในชุมชนแห่งนี้ ที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมเป็นอย่างดี โดยมีสุขภาพดีเป็นผลพลอยได้ ที่เกิดขึ้นกับสมาชิกทุกเพศวัยในชุมชน แห่งนี้อย่างยั่งยืน