นิทานแจกฟรี สำหรับเด็กผู้ป่วยโรคมะเร็ง
นิทานแจกฟรีสำหรับเด็กผู้ป่วยโรคมะเร็ง
คืนวันพุธที่ 3 มิถุนายน 2558 ผมได้ไปออกรายการ Lightning Talk กับ สายสวรรค์ ขยันยิ่ง ที่ช่อง 3 Family โดยมีหัวข้อสนทนาในคืนนั้นว่า “หนูน้อยคนเก่ง สู้มะเร็งด้วยความรักและพลังจากนิทาน” สืบเนื่องมาจากนิทานเรื่องล่าสุดที่ผมแต่งเป็นนิทานแจกฟรีให้กับเด็กผู้ป่วยโรคมะเร็ง จัดขึ้นโดยชมรมโรคมะเร็งเด็กแห่งประเทศไทยและโครงการ My Child Matters ในประเทศไทย
ลิงก์รายการ Lightning Talk กับ สายสวรรค์ ขยันยิ่ง https://www.youtube.com/watchv=cEkcQA7chPs
ผมและ รศ.พญ.ดารินทร์ ซอโสตถิกุล ได้พูดคุยถึงที่มาที่ไปในการทำหนังสือเด็กเล่มนี้ โดยคุณหมอดารินทร์ได้ให้ข้อมูลว่าโรคมะเร็งในเด็กนั้นพบมากที่สุดเมื่ออายุประมาณ 2-5 ขวบ ถ้าผู้ปกครองพบว่าเด็กป่วยเป็นโรคมะเร็งเสียแต่เนิ่นๆ ก็จะสามารถพามารักษาให้หายได้ทันเวลา อย่างไรก็ตาม การรักษาในเด็กเล็กไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะจะมีการเจาะเลือดจากไขกระดูก เจาะน้ำไขสันหลังมาตรวจวิเคราะห์ รวมไปถึงการกินยาและรักษาด้วยเคมีบำบัด ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่กล่าวมานั้น ถ้าเด็กต่อต้านและไม่ให้ความร่วมมือ การรักษาให้หายก็จะล่าช้าลง ดังนั้น สิ่งที่จะสื่อสารกับเด็กและผู้ปกครองได้อย่างดีก็คือนิทาน ผมจึงเข้ามารับหน้าที่ในการแต่งนิทานเรื่องนี้
นิทานเรื่องนี้มีชื่อว่า “หนูทำได้…สู้โรคภัยด้วยจิตใจเข้มแข็ง” เริ่มเรื่องจากเด็กน้อยคนหนึ่งนอนป่วยอยู่ในห้อง จนวันหนึ่งเธออยากจะหายดีจึงไปปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ คุณพ่อบอกว่ามีสถานที่แห่งหนึ่งสามารถรักษาให้เธอดีขึ้นได้ แต่ต้องฝ่าฟันด่านต่างๆ มากมายเธอจะทำได้ไหม เด็กน้อยมั่นใจว่า “หนูทำได้” ทุกคนในบ้านจึงพากันไปให้กำลังใจ
เมื่อไปถึงที่นั่น ก็ได้พบกับคนสวยชุดขาวมาต้อนรับ เธอบอกเด็กน้อยถึงกติกาที่ต้องผ่านด่านต่างๆ ด้วยตนเอง เช่น ด่านแรกคือการเจาะเลือด คุณพ่ออาสาจะให้ใช้เลือดของคุณพ่อแทน แต่ทำไม่ได้ ต้องเป็นเลือดของเด็กน้อยเท่านั้น และในที่สุดเด็กน้อยก็ผ่านไปได้
ด่านต่อไปคือด่านกินยา มีทั้งยาน้ำและยาเม็ด คุณตาคุณยายเลยแนะให้หลานเตรียมน้ำแก้วใหญ่ พอกินยาเข้าไป ดื่มน้ำแก้วใหญ่ตามมากๆ จะกลืนง่ายและช่วยกลบรสขมได้
ด่านต่อไปคือ ด่านปิ๊งโป๊งเหน่ง นั่นคือ ด่านขอเส้นผม คนสวยชุดขาวจะขอเส้นผมของเด็กน้อยทั้งหมด เจ้าแมวเจ้าหมาอาสาขอให้ใช้ขนของมันแทน แต่คนสวยชุดขาวบอกว่าต้องได้จากเด็กน้อยเท่านั้น ซึ่งเธอก็ยินดี เพราะจะได้มีทรงผมใหม่คล้ายกับคุณตา (ที่หัวล้าน)
ด่านต่อไปใกล้จะถึงปลายทางแล้ว แต่เด็กน้อยต้องถูกเจาะอีก 3 ที่ซึ่งเธอยินดี จนได้ผ่านมาถึงด่านสุดท้ายที่ต้องเข้าไปในถ้ำคนเดียว (คล้ายกับเครื่อง CT Scan) และในที่สุดเธอก็ผ่านออกมาได้ ครอบครัวทุกคนดีใจและเป็นกำลังใจจนเธอได้กลับบ้าน
ในท้ายเล่มจะมีสติกเกอร์เป็นเหรียญรางวัลคล้ายกับด่านต่างๆ ในเรื่อง เพื่อให้ผู้ปกครองมอบให้กับเด็กผู้ป่วยเมื่อผ่านการรักษาต่างๆ เด็กจะได้มีกำลังใจมากขึ้น
ผมได้มีโอกาสไปเล่านิทานให้กับเด็กๆ ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ วันนั้นผมเล่าไปหลายเรื่องและปิดท้ายด้วยนิทานเรื่องนี้ ผมถามเด็กๆ ว่าชอบเรื่องไหนมากที่สุด เด็กๆ ทุกคนชอบเรื่อง “หนูทำได้…สู้โรคภัยด้วยจิตใจเข้มแข็ง” มากที่สุด เพราะพวกเขารู้สึกว่ามีหลายอย่างเหมือนกับตัวละครเรื่องนี้ ผมและคุณหมอดารินทร์ฟังแล้วก็ดีใจ ผมเชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่เองก็ประทับใจ อยากให้ลูกสู้และเอาชนะโรคภัยได้เช่นกัน
ถ้าโรงพยาบาล ห้องสมุด หรือครอบครัวที่มีเด็กผู้ป่วย สามารถติดต่อขอรับนิทานเล่มนี้ได้ฟรีที่สาขาโลหิตวิทยาและมะเร็งเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เบอร์ติดต่อ 0-2256-4949 ครับ
ที่มา : เว็บไซต์ไทยรัฐ