นักวิจัยชี้ช่องเกษตรทางเลือก ลดหมอกควัน เชียงใหม่

นักวิชาการเสนอทางออกแก้ปัญหาหมอกควันภาคเหนือระยะยาว หาอาชีพทางเลือก หรือเกษตรทางเลือกที่ไม่ต้องเผาเพื่อสร้างพื้นที่ทำการเกษตรทดแทน

ผศ.ดร.ศุทธินี ดนตรีผศ.ดร.ศุทธินี ดนตรี อาจารย์ประจำภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากแผนงานสร้างเสริมนโยบายสาธารณะที่ดี สถาบันศึกษานโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ให้ศึกษาวิจัยเรื่องโครงการการจัดลำดับความสำคัญของพื้นที่เผาจากข้อมูลเชิงพื้นที่หลายแหล่ง เพื่อการเฝ้าระวังและการป้องกันการเผาในที่โล่งในจังหวัดเชียงใหม่

นักวิจัยเริ่มเก็บข้อมูลจุดความร้อนจากพื้นที่พบการเผา และข้อมูลดาวเทียมสำรวจทรัพยากรตั้งแต่ปี 2550, 2553 และ 2554 พบว่า แนวโน้มปัญหาหมอกควันที่จะเกิดขึ้นในภาคเหนือ โดยเฉพาะในเชียงใหม่ของปีนี้จะทวีความรุนแรงมากขึ้นเทียบเท่ากับปี 2550 และ 2553 ส่วนในปี 2554 มีปริมาณฝนตกมาก ทำให้ความชื้นสูง เกษตรกรไม่สามารถเผาใบไม้ในเขตป่าและเศษวัชพืชเช่น ตอข้าวตอซังข้าวโพด เพื่อเตรียมทำการเกษตรได้ จึงมีปริมาณตกค้างจำนวนมากเมื่อรวมกับเศษซากพืชในปีนี้จึงกลายเป็นปริมาณเชื้อเพลิงสะสมจำนวนมาก ทำให้การเผาในเขตป่าไม้และการเผาเพื่อเตรียมพื้นที่เกษตรในปีนี้ก่อให้เกิดปัญหาหมอกควันรุนแรงยิ่งขึ้น

นักวิจัยชี้ช่องเกษตรทางเลือก ลดหมอกควัน เชียงใหม่ผลการวิจัยพบว่าปี 2550 และ 2553 มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานถึง 3 เท่าตัว ซึ่งคุณภาพอากาศที่กรมควบคุมมลพิษประกาศไว้คือ ฝุ่นละอองขนาดเล็กเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 10 ไมครอน หรือพีเอ็ม 10 ต้องมีค่าไม่เกินมาตรฐานคือ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร โดยในปีนี้ตรวจวัดค่าคุณภาพอากาศเกินมาตรฐานแล้ว โดยมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นอีกอย่างต่อเนื่องเพราะยังคงมีการเผาอยู่ เมื่อเปรียบเทียบพบพื้นที่การเผาไหม้สะสมในปี 2550 จำนวน 2.65 ล้านไร่ หรือ19.5% และ 2553 เพิ่มขึ้นเป็น 2.96 ล้านไร่ หรือ 21.5%

ผลการศึกษายังพบว่า อำเภอที่มีสัดส่วนพื้นที่เผามากที่สุด เฉลี่ย 40% ของพื้นที่ในอำเภอขึ้นไปมี 9 แห่งได้แก่ อ.แม่แจ่ม ฮอด เชียงดาว อมก๋อย จอมทอง ดอยเต่า ฝาง และแม่อาย ในจำนวนนี้เป็นอำเภอที่ยังเผาซ้ำมากกว่า 30,000 ไร่ขึ้นไป ได้แก่ อ.แม่แจ่ม ฮอด เชียงดาว อมก๋อย จอมทอง ดอยเต่า และไชยปราการ ที่สำคัญพบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ทำการเกษตรอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ

นักวิจัยชี้ช่องเกษตรทางเลือก ลดหมอกควัน เชียงใหม่สำหรับมาตรการการแก้ปัญหาการเผาในเขตป่า การเผาตอข้าวและตอซังข้าวโพดของเกษตรกร นักวิจัยเสนอ 2 มาตรการ คือ 1.มาตรการเฉพาะหน้า คือเน้นการจัดระเบียบช่วงเวลาการเผาของเกษตรกรทั้งการชิงเผาและการเผาไร่โดยให้จัดช่วงเวลาสลับกันเผาในช่วงเวลาที่สภาพอากาศเอื้ออำนวย ไม่ให้เผาพร้อมๆ กัน เพื่อไม่ให้ปริมาณฝุ่นละอองมากไปกว่านี้ 2.มาตรการระยะยาวคือต้องหาอาชีพทางเลือก หรือเกษตรทางเลือกที่ไม่ต้องเผาเพื่อสร้างพื้นที่ทำการเกษตร โดยจากการลงพื้นที่พบว่า หากเกษตรกรมีอาชีพทางเลือกที่ดีกว่า เช่น บางพื้นที่ปลูกลำไยได้ผลผลิตที่ดีกว่า พื้นที่เหล่านั้นก็พบการเผาลดลง

“การจัดการปัญหาในระยะยาว ต้องเน้นให้คนในท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นชุมชนลุ่มแม่น้ำหรือกลุ่มป่าชุมชน รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้เข้ามามีส่วนร่วม ไม่ควรทำเฉพาะการรณรงค์ หรือสั่งการจากส่วนกลาง และต้องมีแผนการจัดการตลอดทั้งปีไม่ใช่เฉพาะช่วงเดือนที่มีการเผา คือ ม.ค.-ก.พ. อย่างไรก็ตาม กำลังดำเนินงานวิจัยต่อยอดเพื่อศึกษาการลดปริมาณเชื้อเพลิงด้วยการจัดการเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วม โดยมีพื้นที่ศึกษาที่ ต.สบเตี๊ยะ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ด้วย” ผศ.ดร.ศุทธินีกล่าวทิ้งท้าย

ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน

Shares:
QR Code :
QR Code

ใส่ความเห็น

ระบุข้อความ